advertisement
เมื่อวาน (11 ก.ค.65) ที่ผ่านมา นายฉัตรชัย ศิริไล กรรมการผู้จัดการ ธนาคารอาคารสงเคราะห์ (ธอส.) กล่าวว่า ปัจจุบันทิศทางอัตราดอกเบี้ยไม่สามารถหลีกเลี่ยงดอกเบี้ยขาขึ้นได้ ยังไงดอกเบี้ยก็ต้องปรับขึ้น หลังอัตราเงินเฟ้อปรับตัวสูงขึ้น ทั้งนี้หากคณะกรรมการนโยบายการเงิน(กนง.)จะปรับขึ้นดอกเบี้ยในเดือนสิงหาคมนี้ ธอส.จะปรับขึ้นครึ่งหนึ่งของ กนง.โดยปรับขึ้นรอบแรกเดือนตุลาคมนี้และตรึงยาวถึงเดือนมกราคม 2566 ที่จะปรับขึ้นอีกรอบ
ทั้งนี้การปรับขึ้นดอกเบี้ยกระทบต่อต้นทุนดอกเบี้ยผู้กู้แน่นอน หากมีการปรับอัตราดอกเบี้ยอยู่ที่ 0.50% ต่อปี ขึ้นมาต่อเนื่อง หรือปรับขึ้นใกล้เคียงกับในอดีตที่ 1.25-1.50% ต่อปี ผู้กู้ยังบริหารการผ่อนชำระได้ แม้ต้นทุนดอกเบี้ยจะเพิ่มขึ้นอย่างมีนัยสำคัญ
นายฉัตรชัยกล่าวว่า เทรนด์สินเชื่อที่อยู่อาศัยจะไม่มีโปรโมชั่นดอกเบี้ยคงที่ 2-3 ปีแรกอีกแล้ว จะเป็นแบบกึ่งลอยตัว และอ้างอิงกับดอกเบี้ย MRR ซึ่งธอส.ยกเลิกดอกเบี้ยคงที่เมื่อวันที่ 1 กรกฎาคมที่ผ่านมา ส่วนดอกเบี้ยเงินฝากยังจำเป็นต้องมีการปรับเพิ่มขึ้นตามดอกเบี้ยขาขึ้น เพื่อให้เกิดความสมดุลของพอร์ต
advertisement
หากธนาคารไม่มีการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยเงินฝาก จะส่งผลให้เงินฝากไหลไปสู่ธนาคารอื่นที่ให้อัตราดอกเบี้ยที่สูงกว่า ซึ่งธอส.จะมีการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยเงินกู้ควบคู่เงินฝาก ส่วนการรีไฟแนนซ์ดอกเบี้ยบ้านนั้น อยากให้ลูกค้าพิจารณาให้ดีว่าถูกจริงและมองระยะยาวว่าคุ้มหรือไม่
นายฉัตรชัยกล่าวต่อว่า ทิศทางการปล่อยสินเชื่อที่อยู่อาศัยยังเติบโตต่อเนื่อง ตามการฟื้นตัของเศรษฐกิจและอสังหาฯ เมื่อปี 2564 ธอส.สามารถปล่อยสินเชื่อที่อยู่อาศัยได้ 2.26 แสนล้านบาท ในครึ่งปีแรกที่ผ่านมาสามารถปล่อยได้แล้วกว่า 1.54 แสนล้านบาท ทั้งปีคาดว่าจะทำได้ตามเป้า 2.64 แสนล้านบาท
advertisement
เรียบเรียงโดย : thaihitz.com
advertisement