วิศวกรหนุ่ม ผู้ไม่ยอมเสียเปรียบผู้หญิง สวมกระโปรง รองเท้าส้นสูง ไปทำงาน

       หากพูดถึงเรื่องของ เสื้อผ้า เครื่องแต่งกาย แน่นอนว่าบรรดาสาวๆคงจะมีแฟชั่นมากมายหลากหลายรูปแบบ และไอเทมจุกจิกของเธอคงเยอะแยะไปหมด ในขณะที่ ท่านชายทั้งหลาย ก็จะมีแค่เสื้อ กางเกง รองเท้า ไอเทมหน้าตาซ้ำๆเดิมๆ ที่อาจจะเปลี่ยนแค่สีและลายเท่านั้น

       ไม่น่าเชื่อเลยว่า จะมีชายหนุ่มที่มีความรู้สึกเสียเปรียบในแฟชั่นของผู้ชาย ที่มีแค่ไม่กี่อย่าง จนเขาลุกขึ้นมาแต่งกายแบบผู้หญิง สวมใส่กระโปรง รองเท้าส้นสูงไปทำงาน โดยที่เขาเองเป็นผู้ชาย มาร์ก ไบรอัน ชายอเมริกันซึ่งอาศัยอยู่ในเยอรมนีและมีอาชีพวิศวกรเครื่องกล เขารู้สึกหงุดหงิดที่แฟชั่นชุดทำงานของผู้ชายมีจำกัดเกินไป ส่วนใหญ่มีแค่สูทเสื้อกางเกงสีดำแล้วก็สีน้ำเงินหรือสีพื้นๆที่แสนน่าเบื่อ

–

       แต่พอหันไปมองพวกผู้หญิงก็เห็นว่าชุดทำงานของพวกเธอมีหลายสีหลายแบบ กระโปรงก็มีสารพัดทรง แถมจะใส่กางเกงก็ยังได้ อ่ะ ถ้าผู้หญิงใส่กางเกงทำงานได้ แล้วทำไมเราจะใส่กระโปรงทำงานมั่งไม่ได้หล่ะ !! จากนั้นมาร์กก็ไอเดียบรรเจิดขึ้นมาทันที

       ตั้งแต่เดือนกุมภาพันธ์ปีนี้เขาตัดสินใจที่จะไม่ตีกรอบการแต่งกายของตนเอง เขาลุกมาสวมเสื้อผ้าแฟชั่นของสาวๆต่างๆ ไม่ว่าจะเป็นเสื้อ กระโปรง รองเท้า ถุงน่อง ฯลฯ

–

        มาร์กเขียนไว้อย่างชัดเจนบน IG.ว่า "ฉันเป็นผู้ชายที่แต่งงานแล้ว และสามารถสวมกระโปรงและรองเท้าส้นสูงได้ แต่ฉันก็คือผู้ชาย" มาร์คใช้ชีวิตเรียบง่ายกับภรรยาและลูกๆเหมือนชายอื่นทั่วๆไป

       แต่การแต่งตัวทำให้เขาถูกเข้าใจผิดอยู่หลายครั้ง ยิ่งช่วงแรกๆทุกคนถึงกับเหวอทีเดียวที่เห็นเขาแต่งตัวแบบนี้ ต้องใช้เวลาสักพักเลยกว่าที่ทุกๆคนจะยอมรับ แต่ถึงอย่างนั้นส่วนใหญ่ผู้ชายมักกระอักกระอ่วนกับเขา แตกต่างจากผู้หญิง พวกเธอจะเปิดใจมากกว่า หลายคนถามด้วยซ้ำว่าเขาซื้อชุดนี้มาจากไหน ฯลฯ สำหรับภรรยาและลูกสาวของมาร์ก ทุกๆคนต่างสนับสนุนเขา บางทีก็ให้เขายืมไอเท็มเด็ดๆด้วยซ้ำ [ads]

–

       "ผู้คนไม่ควรถูกผูกมัดด้วยกรอบใดๆ" หายากจริงๆ ที่จะเห็นผู้ชายแบบเขาบนท้องถนน แต่ก็เกิดขึ้นแล้ว ไม่แน่การแต่งกายแบบนี้ในอนาคตอาจจะเป็นเรื่องที่ทำกันเป็นปกติก็ได้ใครจะรู้ 

         เห็นเขามีความสุขกับการแต่งกายที่ไร้ขอบเขต ก็ทำให้หลายคนยิ้มตามเลยล่ะค่ะ แต่เชื่อว่า มันอาจจะเป็นความเหนื่อย และขัดเขิน สำหรับผู้ชายท่านอื่นๆ

เรียบเรียงโดย : thaihitz.com ขอขอบคุณข้อมูลจาก  ซากุระเที่ยงคืน – เรื่องเล่าจากญี่ปุ่น