advertisement
เป็นประเด็นดราม่าและเป็นที่วิพากษ์วิจารณ์กันออกไปเป็นวงกว้างเลยทีเดียวค่ะ หลังจากที่นักแสดงสาว หนิง ปณิตา ออกมาโพสต์ข้อความเดือดในอินสตาแกรม เธอขับรถหรูไปเข้าฉาก แต่ขับผิดเลนจึงโดนเจ้าหน้าที่ตำรวจเรียกจับ แต่เมื่อเธอให้รีบเขียนใบสั่ง เจ้าหน้าที่ตำรวจกลับเดินวนรถและถามคำถามมากมาย ซึ่งเธอคิดว่าพฤติกรรมเช่นนี้คงต้องการเงินมากกว่าการเขียนใบสั่ง พร้อมลั่นว่า "ปลาเน่าตัวเดียวเหม็นทั้งข้อง"
ล่าสุด เฟซบุ๊กเพจ 1197สายด่วนจราจร ได้ออกมาเผยข้อเท็จจริงในมุมของเจ้าหน้าที่ตำรวจ พร้อมทั้งเผยความคืบหน้าของคดีที่จะมีการแจ้งข้อหากับ หนิง ปณิตา เพิ่มเติม คือ "นำรถยนต์ที่ยังไม่ได้ชำระภาษีมาใช้ในทาง และ นำรถที่ยังไม่ได้จะทะเบียนมาใช้ทาง" โดยทางเพจได้เผยว่า…
"เนื่องด้วยปรากฏว่ามีการลงข่าวในหลายสำนัก กรณีผู้ใช้บัญชีIG ชื่อ "ningpanita" โพสต์ข้อความว่า "ด้วยความไม่รู้ทาง วันนี้ต้องขับรถเองเพื่อเอารถไปเข้าฉาก ขับผิดเลนแล้วหักออก ถูกตำรวจจับ ยอมรับมันคือสิ่งถูกต้องสำหรับการผิดกฎ ประโยคแรกที่พูดกับคุณตำรวจ "เขียนใบสั่งได้เลยค่ะ (อินเนอร์คือผิดยอมรับไม่ได้กวน) แต่ คุณตำรวจทำเป็นถามนั่นนี่เดินวนไปวนมา ถามแม้กระทั่งชื่อยี่ห้อรถ (เออท้ายรถที่เดินวนไปมาก้อมียี่ห้อติด)
คือแบบรู้เลย จะเอาตังเพราะคนส่วนมากจะขอช่วยหน่อยน้า เลยพูดไปว่า ขอโทษนะคะที่ทำให้เสียเวลา เขียนใบสั่งมาเถอะค่ะ ทำผิดก้อต้องปฏิบัติตามกฎ ถ้าตำรวจมายกโทษให้เรารับตัง ก้อคงมีคนผิดแบบนี้ไปเรื่อยๆ สังคมมันถึงได้เห็นแก่ตัวขึ้นทุกวันพูดแรงไปมั้ยอะ !!! แต่มันคือเรื่องจริง ตำรวจดีๆก้อมีเยอะ แต่คนเกลียดตำรวจมันก้อไม่ต่างกับสุภาษิตไทย #ปลาเน่าตัวเดียวเหม็นทั้งข้อง"
จาการตรวจสอบข้อเท็จจริงในเบื่องต้นปรากฏว่า ก่อนเกิดเหตุ กล่าวคือ วันนี้ 21 ต.ค.62 เวลาประมาณ 07.00 น. ส.ต.ท.ธีรพงษ์ ขาบจันทึก (รหัส 5513) ผบ.หมู่ งานศูนย์ควบคุมจราจรวิภาวดี/รังสิต กก.2 บก.จร. ได้ยืนปฏิบัติหน้าที่อำนวยการจราจรอยู่บน ถ.วิภาวดีฯ ขาเข้าทางด้านคู่ขนาน บริเวณพื้นที่ปลอดภัยระหว่าง ถ.วิภาวดีฯ และเส้นเบี่ยงจากทางคู่ขนานที่จะมุ่งไปหน้าทางรัชโยธิน หน้า รร.นานาชาติ เซนสตรีเฟรน์
ต่อมาเวลา ประมาณ 07.14 น. ได้มีรถยนต์ ยี่ห้อ มาเซราติ สีเทา หมายเลขทะเบียน กท 191 กทม. ขับขี่มาจากทางด้านแยกบางเขน ใช้ช่องทางคู่ขนานมาตลอดเพื่อ มุ่งหน้าจะไปแยกลาดพร้าว จนกระทั้งมาถึงจุดเกิดเหตุ ส.ต.ท.ธีรพงษ์ฯ จึงได้สัญญาณมือให้หยุดรถ เนื่องด้วยผู้ขับขี่ได้ ขับขี่ฝ่าฝืนเครื่องหมายบนทาง ซึ่งเป็นการขับขี่ในลักษณะเปลี่ยนช่องทางกระทันหันเดินรถโดยฝ่าฝืนเส้นทึบบนทาง เมื่อผู้ขับขี่ได้หยุดรถ จึงได้ขอตรวจสอบใบอนุญาตใบขับขี่ ผู้ขับขี่ได้แจ้งว่า มิได้พกติดตัวมา และได้ยืนบัตรประชาชนให้ จึงได้ทราบว่า ผู้ขับขี่ชื่อ น.ส.ปณิตา ธรรมวัฒนะ เจ้าหน้าที่ตำรวจจึงได้แจ้งข้อหาให้ทราบว่า ผู้ขับขี่ มีความผิดในข้างต้น ขณะที่กำลังบันทึกข้อมูลในใบสั่งนั้น เจ้าหน้าที่ตำรวจได้เดินตรวจสอบรอบตัวรถก็ยังไม่ทราบว่ารถคันดังกล่าวเป็นรถยี่ห้ออะไร จึงได้สอบถาม ผู้ขับขี่ แต่เจ้าหน้าที่สะกดไม่ถูกจึงได้เดินไปดูข้อมูลดังกล่าวที่ แผ่นป้ายวงกลมการชำระภาษีประจำปี ปรากฏว่า รถคันดังกล่าวยังไม่ได้ชำระภาษีประจำปี จึงได้เพิ่มข้อหา "นำรถยนต์ที่ยังไม่ได้ชำระภาษีมาใช้ในทาง" อีกหนึ่งข้อหา ลงในใบสั่ง เมื่อเขียนเสร็จแล้ว เจ้าหน้าที่ตำรวจจึงได้ส่งใบสั่งดังกล่าวให้กับ ผู้ขับขี่ไป
หลังจากนั้น ผู้ขับขี่จึงได้ขับออกไปจากที่เกิดเหตุ ต่อมา เจ้าหน้าที่ตำรวจผู้จับ ได้ทำการบันทึกข้อมูลลงใน ระบบ PTM ปรากฏว่า ในระบบแจ้งว่า รถคันดังกล่าวหมายเลขทะเบียน กท 191 กทม. เป็นรถยี่ห้อ BMW รุ่น 740Le xDrive pure excellence สี เทา ประกอบกับได้ทำการตรวจสอบข้อมูลกับระบบ polis อีกครั้งได้ข้อมูลยืนยันตรงกัน จึงน่าเชื่อว่า ผู้ขับขี่ได้นำรถที่ยังไม่ได้จดทะเบียนมาใช้ทางโดยไม่ได้รับอนุญาต อนึ่ง ในขณะที่เจ้าที่หน้ากำลังปฏิบัติหน้าที่และในระหว่างสนทนากับผู้ขับขี่นั้น มิได้มีการเรียกรับผลประโยชน์แต่อย่างใด ข้อมูลจาก สน.วิภาวดี"
advertisement
advertisement
โดนอีกข้อหา
advertisement
อาจจะด้วยความรู้เท่าไม่ถึงการณ์ หรือกรณีใดๆก็ตาม ซึ่งตอนนี้เจ้าหน้าที่ตำรวจก็จะมีการแจ้งข้อกล่าวหาเพิ่มเติม คงต้องติดตามความจริงกันต่อไปในมุมของคุณหนิงค่ะ
เรียบเรียงโดย : thaihitz.com ขอขอบคุณข้อมูลจาก ศูนย์ควบคุมและสั่งการจราจร – บก.02
advertisement