ซื้อเรือนหอ 8 ล้านรู้ภายหลังแฟนผวาเพราะคนขายปกปิดประวัติ

         ถ้าหากว่าพูดถึงเรื่องของการซื้อบ้าน เป็นเรื่องใหญ่ที่ต้องตรวจสอบสภาพบ้านให้ดี ทั้งบ้านที่เป็นบ้านใหม่ก็ต้องดูเรื่องของโครงสร้าง ความแข็งแรง ส่วนต่างๆ ของบ้านว่ามีคุณภาพหรือไม่ ถ้าเป็นบ้านมือสอง คอนโด ก็ต้องตรวจสอบให้มากกว่าขึ้น รวมไปถึงประวัติของบ้านที่จะซื้อด้วย 

        มิเช่นนั้นอาจต้องพบเจอเรื่องราวสุดปวดหัวดังเช่นชายคนหนึ่ง ที่ลงทุนใช้เงินเก็บทั้งชีวิตซื้ออพาร์ตเมนต์ยูนิตหนึ่ง ในราคา 1.57 ล้านหยวน หรือราว 8.54 ล้านบาท แต่กลับต้องมาทราบความจริงว่าเคยมีเรื่องชวนสะพรึงเกิดขึ้น แต่เจ้าของเดิมจงใจปกปิด

       โดยเมื่อวันที่ 24 กรกฎาคม 2565 เว็บไซต์ hk01 รายงานว่า ชายแซ่เซียง ตัดสินใจซื้ออพาร์ตเมนต์ยูนิตหนึ่ง ในเขตจินเจียง มณฑลเฉิงตู ประเทศจีน ผ่านทางบริษัทนายหน้าด้านอสังหาริมทรัพย์ เมื่อปี 2564 และย้ายเข้าไปอยู่ที่นั่น แต่ต่อมาเขากลับเพิ่งทราบความจริงว่าที่แห่งนี้เคยมีคนตาย แถมยังเป็นการตายแบบผิดธรรมชาติ เพราะมีเหตุเด็กเล็กตกลงไปในเดือนมกราคม 2564

       นายเซียงเผยว่า เขาได้ถามยืนยันกับเจ้าของเดิมแล้ว ว่าห้องเคยมีประวัติอะไรไหม แต่เจ้าของเดิมก็ปฏิเสธ ทั้งที่ในสัญญาซื้อขายบ้านที่เขากับเจ้าของเดิมลงนามร่วมกัน เจ้าของเดิมยืนยันว่าที่แห่งนี้ไม่เคยเกิดการตายอย่างผิดธรรมชาติ ระหว่างที่ตนเองครอบครองบ้าน ซึ่งรวมถึงการฆ่าตัวตาย การฆาตกรรม การตกลงจากอาคาร รวมถึงการตายจากอุบัติเหตุ

        ในสัญญาระบุว่า หากเจ้าของเดิมปกปิดความจริงในเหตุเหล่านั้นก่อนทำสัญญา นายเซียงมีสิทธิ์ยกเลิกสัญญาซื้อขายฉบับนี้ได้ อย่างไรก็ตาม เมื่อนายเซียงพยายามติดต่อไปเจรจากับเจ้าของเดิม กลับถูกบล็อกการติดต่อทั้ง WeChat และโทรศัพท์ เขาจึงต้องไปร้องเรียนบริษัทนายหน้าอสังหาริมทรัพย์ แต่กลับได้รับคำตอบว่า พวกเขาก็เป็นเหยื่อเหมือนกัน

        นายเซียงเผยว่า สิ่งที่เกิดขึ้นนั้นไม่อาจยอมรับได้ เดิมทีเขากับแฟนสาวมีแผนจะแต่งงานกันในปีนี้ (2565) แต่เมื่อแฟนสาวทราบว่าเคยเกิดอะไรขึ้นที่อพาร์ตเมนต์นี้ เธอก็ไม่กล้าย้ายเข้ามาอยู่ด้วย ทำให้แผนแต่งงานของเขาต้องถูกเลื่อนออกไป

        สิ่งที่เกิดขึ้นทำให้นางเซียงเครียดหนัก แผนการสำคัญในชีวิตอาจพังทลายถ้าเรื่องนี้ไม่ได้รับการแก้ไข ทำให้เขาไม่มีทางเลือก และตัดสินใจยื่นฟ้องต่อศาลประชาชนเขตจินเจียง เมื่อวันที่ 21 กรกฎาคม ที่ผ่านมา ขอให้พิจารณาว่าทางเจ้าของเดิมกับบริษัทนายหน้าอสังหาริมทรัพย์ ว่ามีเจตนาฉ้อโกงและปกปิดความจริง ซึ่งถือเป็นการละเมิดสัญญาอย่างร้ายแรงหรือไม่ โดยศาลได้รับคดีไว้แล้ว

        หลังจากปรากฏข่าวดังกล่าว ต่อมาทางบริษัทนายหน้าอสังหาริมทรัพย์ ได้แจ้งกับสื่อว่าจะทำตามข้อตกลงของสัญญา โดยจะมีการซื้ออพาร์ตเมนต์ดังกล่าวคืนในราคาเดิม รวมถึงจะคืนค่าใช้จ่ายอื่น ๆ ที่เกี่ยวข้องให้แก่ผู้เสียหายด้วย 

เรียบเรียงโดย : thaihitz.com ขอขอบคุณข้อมูลจาก hk01.com