advertisement

แบ่งปันประสบการณ์ ผู้หญิงเที่ยวอเมริกาคนเดียว โดน ตม.สัมภาษณ์แบบจุกๆ


advertisement

       ถ้าหากพูดถึงไลฟ์สไตล์ในการไปเที่ยวของแต่ละคนก็คงจะไม่เหมือนกัน หลายคนอยากจะไปเที่ยวเป็นกลุ่มเพื่อน หลายคนก็ชอบไปเที่ยวแบบคนเดียว หลายคนที่ยังไม่กล้าที่จะไปเที่ยวคนเดียว วันนี้เราจะพาดูประสบการณ์ผู้หญิงเที่ยวคนเดียวโดน ตม อเมริกาสัมภาษณ์แบบจุกๆ จากสมาชิกพันทิป ผู้หญิงคนเดียวก็เที่ยวได้ เผื่อจะเป็นความรู้ในการไปเที่ยวคนเดียวสำหรับสวยๆ หลายคน ตามไปดูกันเลย 


       สวัสดีค่าเนื่องจากช่วงสงกรานต์ที่ผ่านมามีโอกาสไปอเมริกา(ครั้งล่าสุดที่ไปมาคือประมาณ 4 ปีที่แล้ว) แล้วก็ได้พบกับประสบการณ์ interview สุดโหดกับตม. (อีกแล้ว) การเป็นผู้หญิงไทยเที่ยวคนเดียวทำใจกับการเจอเรื่องแบบนี้หน่อยนะคะ

       อยากบอกว่าทริปนี้ไปอเมริกาเพราะได้โปรตั๋วหลุด เลยไม่ได้ตั้งใจจะเที่ยวที่นี่อยู่แล้ว แค่พักคืนนึงแล้วต่อเครื่องไปคิวบา  ก่อนหน้านี้เคยมาอเมริกา 3 รอบ ไม่ได้ทำผิดกฎหรือมีเรื่องอะไรกับที่นี่หรือประวัติไม่ดีอะไรมาก่อน(มีวีซ่าท่องเที่ยว10 ปีหมดปี2023) ไม่มีประวัติหนีจากประเทศอื่นๆด้วยค่ะ
เหตุการณ์นี้เกิดขึ้นที่สนามบิน SFO (San Francisco) 

       พอลงเครื่องมา เจ้าหน้าที่ก็ให้เราเอาวีซ่าไปสแกนเครื่อง กรอกข้อมูล สแกนลายนิ้วมือ ถ่ายรูปและปรินท์ใบออกมาเพื่อไปยื่นให้เจ้าหน้าที่ ตม ตอนนั้นเริ่มตะหงิดใจละว่าทำไมใบของเรามีเครื่องหมายกากบาทสีดำทับข้อมูลส่วนตัวของเรา(ชำเลืองไปดูของคนอื่นไม่มีกากบาท) พอเดินไปถึง ตม เขาเปิดพาสปอร์ตเราดูแล้วบอกว่าตามผมมา แล้วก็พาเราเข้าไปห้องของเจ้าหน้าที่(คิดว่าเป็นห้องที่คนโดนกักตัวหรือมีปัญหาจะถูกส่งมาที่นี่) พอเราเข้าไปเค้าก็ให้เรานั่งรอ(นานพอสมควรประมาณ ชม นึง) มีเจ้าหน้าประมาณ 3-4 คนอยู่ในห้องและมีคนถูกพาเข้ามาเรื่อยๆประมาณ 5-6 คน ตลอดเวลา 1 ชม นั้นเจอทั้งคนที่ดูทรงแล้วเป็นนักธุรกิจใส่สูทมาแบบเต็มๆ มีแต่ของแบรนด์เนม ไปจนถึงคนที่ลักษณะลอกแล่กเหมือนจะโดนเรื่องหนีเข้าเมือง (อันนี้เดาเอา อาจจะดูหนังมากไป)

       ณ ตอนนั้นหลังจากนั่งสักพักก็ยังไม่ได้มีใครบอกอะไรเราเลยว่าทำไมต้องมาที่นี่ แล้วต้องเจอใครยังไง เค้าห้ามใช้โทรศัพท์ด้วย เราก็ได้แค่นั่งมองนั่งรอ ไม่อยากโวยวายเพราะกลัวว่าจะมีปัญหา จนสุดท้ายมีเจ้าหน้าที่มาพาเราเข้าไปห้อง interview เป็นผู้ชายวัยกลางคนลุคเอเชียๆบอกว่า “มากับผมเรามีเรื่องต้องคุยกัน”

        แล้วเค้าก็เริ่มสอบถามละเอียดมากๆว่ามาที่นี่มาทำอะไร อยู่กี่วัน ขอดูไฟลท์ไปกลับ ปอก็ตอบเค้าไปว่ามาพักซานฟรานคืนนึงแล้วพรุ่งนี้จะบินไปคิวบา  เค้าก็ถามแพลนละเอียดอีกว่าไปคิวบาไปทำอะไร ไปกับใคร ไปเจอใครมั้ย ไปกี่วัน บลาๆ เราก้เล่าไป แล้วก็ถามว่าคุณเอาเงินสดเข้ามาเยอะมั้ยผมขอดูได้มั้ยว่าเกิน10,000$ มั้ย? ตอนนั้นแอบอายเบาๆเพราะพกไปแค่300$ (ตั้งใจจะใช้บัตรเครดิตเป็นส่วนใหญ่) เปิดกระเป๋าตังค์ให้เค้าดูแล้วเค้าก็ยิ้มๆ เราคิดว่าเอ้อโดนสัมภาษณ์เรื่องแพลนการเดินทางละเอียดมากแล้วจะจบ 

       สรุปว่ายังไม่จบจ้า เค้าเริ่มถามประวัติส่วนตัว พ่อแม่พี่น้องเป็นใคร ทำงานอะไร อยู่ที่ไหน ตอนนี้ทำงานอะไร เงินเดือนเท่าไร ลักษณะงานคืออะไร คุณมีนามบัตรมั้ย(เราก็รีบแจกไปเลย) ถ้าเค้าไม่ใช่เจ้าหน้าที่ ตม นี่นึกว่ามาสมัครงาน55 (อีกใจนึงก็กลัวนิดๆว่าจะโดนส่งกลับนะเคยอ่านเรื่องดราม่าของคนอื่นมาเยอะพอมาเจอกับตัวเองเลยตั้งสติว่าเราต้องนิ่งต้องคูลต้องตอบคำถามแบบดูปกติได้)

       คำถามมาต่อค่ะถามว่าเคยมาอเมริกากี่ครั้ง มาทำไม บลาๆละเอียดมากๆๆคิดว่าจะจบแล้วก็ยังค่ะเค้าเริ่มเปิดพาสปอร์ตเล่มเก่าตั้งแต่หน้าแรก(วีซ่าอเมริกาปออยู่พาสปอร์ตเล่มเก่า) ถามไล่ทุกทริปที่มีตราประทับว่าไปที่ไหน ไปทำอะไรมาบ้าง ทีละหน้าจนจบเล่ม (ซึ่งเล่มเก่าปอเดินทางค่อนข้างเยอะเลยต้องคุยกับเค้านานมาก) เค้าจดทุกๆอย่างที่ถามเราไว้ในระบบแล้วก็เปิดพาสปอร์ตเล่มปัจจุบันทำเหมือนกัน ซักละเอียดยิบๆ  คือบางที่เอาตรงๆไปมานานแล้วก็ลืมนะ ว่าไปอะไรยังไงมาบ้าง ตอบเค้าไม่ได้เป๊ะๆ ที่โดนถามหนักๆคือเค้าเห็นปอมีวีซ่าอิหร่าน, อียิปต์, จอร์แดนและประเทศแถบตะวันออกกลางต่างๆ มีตราประทับตุรกี ถามละเอียดมากๆว่าไปไหนทำอะไรมาบ้างสุดท้ายเค้าถามกลับว่าไปซีเรียมามั้ยได้แต่ตอบกลับไปว่ายังค่ะยังไม่กล้าไปเพราะอันตราย

       ถึงตอนนี้คือเหนื่อยมากๆสัมภาษณ์อยู่กับเค้าประมาณ 2 ชมได้แล้ว  เราถามเค้าว่าทำไมต้องโดนสัมภาษณ์เยอะขนาดนี้เค้าตอบกลับมาว่าพาสปอร์ตเรามีตราประทับจากประเทศแปลกๆและประเทศที่ไม่ถูกกับอเมริกาเยอะเกินไป(-*-) แล้วเค้าก็ให้เราประทับลายนิ้วมือทุกนิ้วไว้เป็น record 


advertisement

        เราถามเค้าว่าถ้ามาอีกจะโดนถามแบบนี้อีกมั้ยเค้าบอกว่าไม่สามารถการันตีได้(เห้อ) but I will make a good note (ขอบคุณค่ะในใจ) สุดท้ายมีชวนเม้ามอยนิดหน่อยด้วยว่าไอเพิ่งไปไทยแลนด์มาชอบมาก(แหม่วางมาดมาตั้งนาน) บอกเค้าไปว่ายูรู้มั้ยครั้งนี้คือโดนถามมากที่สุดเท่าที่เคยเที่ยวมาในชีวิตแถมถามละเอียดกว่าตอนขอวีซ่าอเมริกาอีกนะเค้าก็หัวเราะ

       สรุปกว่าจะออกมาได้เกือบ 4 ชม ตั้งแต่เครื่องแลนดิ้ง สายการบินก็เก็บกระเป๋าเราไปอีกเพราะคิดว่าไม่มีคนมารับ ต้องเสียเวลาไปติดต่ออีกเกือบ ชม กว่าจะได้กระเป๋า

       ไม่รู้ว่าจะคอมเมนท์ประสบการณ์ครั้งนี้ยังไงดีแต่ถ้ามาอเมริกาครั้งหน้าจะเตรียมตัวตอบคำถามมาเยอะๆเค้าไม่ได้treat เราไม่ดีอะไรนะคะพูดกับเราแบบไม่ได้ใช้เสียงก้าวร้าวแต่ก็ไม่ได้สุภาพ(นึกออกป่าวมีวางมาดนิดนึง) ถือว่ามาแชร์ประสบการณ์กับตมอเมริกาแล้วกันค่าเผื่อเป็นประโยชน์กับคนที่กำลังจะไปเที่ยวค่ะ ถ้าสนใจเรื่องเดินทาง ทั้งรีวิวทริปและทริคต่างๆ ขอฝาก Travelwithpor.com ไว้ในอ้อมใจด้วยค่า

     ก็เป็นประสบการณ์ในการไปเที่ยวอเมริกาคนเดียว โดน ตม.สัมภาษณ์แบบละเอียดยับเลยทีเดียว ถือว่าเป็นประสบการณ์ที่นำมาแชร์เผื่อเป็นประโยชน์สำหรับคนที่จะไปเที่ยวต่างประเทศ เตรียมตัวไปดีๆนะครับ 

เรียบเรียงโดย : thaihitz.com ขอขอบคุณข้อมูลจาก ผู้หญิงคนเดียวก็เที่ยวได้ 


advertisement