advertisement

คุณพ่อใจหล่อ เล่าประสบการณ์ ทำหมันชาย ไม่ได้น่ากลัวอย่างที่คิด


advertisement

       หากพูดถึงการป้องกันการตั้งครรภ์ที่มั่นคงถาวรที่สุด เราคงนึกถึงการทำหมัน ซึ่งการทำหมันก็นิยมทำกันในเพศหญิง เพราะวิสัยปกติของผู้ชาย น้อยคนนักจะยอมทำหมัน ทั้งที่สามารถทำได้ง่ายกว่า ด้วยค่านิยมหลายประการ

        แต่วันนี้เราก็มีเรื่องราวจากคุณพ่อใจหล่อท่านหนึ่ง ที่ตัดสินใจทำหมันชาย โดยเขาได้มาเล่าประสบการณ์ผ่านเฟซบุ๊ก มายเองนะ มายเองไง ระบุว่า…

         ""เดี๋ยวถ้าลูกคลอดออกมาแล้ว เดี๋ยวพ่อทำหมันเอง"

        ถ้อยคำแสนเท่ ที่ออกมาจากผู้ชายอาชีพพ่อ วัย 30 กว่าขวบ ไม่สิ เผลอใจพูดไป เรียกง่ายๆว่า “ปากดันลั่นไปเอง อารมณ์ตอนพูด ดูจะหล่อคล้ายพี่ตูน บอดี้สแลม

        "ไม่กลัวเหรอ" ภรรยาถาม

        "สลบไปแปบเดียว ไม่เจ็บหละมั้ง" ผมพูดไปด้วยความไม่รู้ตัว "ใครเค้าวางยาสลบกัน" เธอแย้งมา

        "……………………….." ผมพูดอะไรไม่ออก แต่นึกในใจว่า เอาแล้วไง……. เอาไงเอากัน ไหนๆ ก็ไหนๆ ทหารเรือไทยพูดแล้วไม่คืนคำ หาข้อมูลเลยแล้วกัน จากนั้นก็เริ่มต้น ค้นหาข้อมูลใน Google แล้วก็พบว่า

        เอ่อ ไม่วางยาสลบจริงๆด้วย อะเฮื้ออ!!!!! นั่งค้นไปค้นมา ทำที่ไหนดี ชื่อ "หมันฟรีมีชัย" คลินิกที่ขึ้นชื่อลือชาด้านการทำคนให้เป็น "ขันทีฉีกงกง" คลินิกนี้ตั้งอยู่ในซอย สุขุมวิทซอย 12 โดยให้บริการทุกวันราชการ ตั้งแต่ 9 โมงเช้า – บ่าย 3 โมงเย็น

        ตัดสินใจออกเดินทางจากบ้านต่างจังหวัดเช้ามืด จอดรถไว้แถวอนุสาวรีย์ชัยฯ แล้วต่อรถไฟฟ้า ไปลงที่สถานีอโศก ระหว่างทางที่ขับรถมาและขึ้นรถไฟฟ้านั้น สติ สตางค์ ไม่อยู่กับเนื้อกับตัวแล้ว มีอาการเหงื่อออกตาลายตาม คล้ายจะเป็นลม ภาวนาให้รถเสีย ยางแตก ให้รถไฟฟ้าไฟดับวิ่งไม่ได้ สุดท้าย รู้ตัวอีกที ก็มายืนหน้าซีด อยู่ปากซอยสุขุมวิท 12 ตอนบ่ายสองกว่าๆ


advertisement

        พยายามรวบรวมความกล้า ไม่งั้นเสียเชิงชาย เข้าไปใน ซอยสุขุมวิท 12 ประมาณ 300 เมตรเราก็จะเจอกับ "คลินิกชุมชนเวชกรรม" โดยตัวคลีนิกจะอยู่ชั้น 2 เมื่อเปิดประตูเข้าไป เราจะพบกับพนักงานต้อนรับหน้าตาน่ารัก คอยถามว่ามาทำอะไร ไอ้เราก็ตอบไปด้วยเสียงอันดังว่า "ทำหมันชายครับ!!!" แหม มันช่างเท่เสียนี่กระไร

        จากนั้นก็สู่ขั้นตอนต่อไป กรอกประวัติ และเก็บหลักฐาน โดยหลักฐานที่เราต้องนำไปนั้น ประกอบด้วย "สูติบัตรลูกทุกคน บัตรประชาชนเรา และสำเนาทะเบียนบ้าน" ลงทะเบียนเรียบร้อย เงยหน้าขึ้นมาที่ห้องทำหมันชาย พบว่า "มีผมเป็นคนไข้คนเดียว" [ads]

        อูยยยย ไม่มีเวลาให้ทำใจเลย มีคนมาต่อคิวรึก็ไม่ ชายชาติอาชาไนยมีเราคนเดียว ซักประวัติ ตรวจร่างกาย การตรวจร่างกาย ก็ไม่มีอะไรมาก วัดความดันอย่างเดียว ปกติคนตื่นเต้น หวาดกลัว ความดันจะสูง ชีพจรเต้นเร็ว แต่วินาทีที่พี่พยาบาลอาวุโส นำเครื่องวัดความดันมารัดแขน จนเสร็จเรียบร้อยนั้น ความดันของผมปกติ

      เมื่อพรมลิขิตมันขีดเขี่ยให้เราเป็นสุภาพบุรุษ ผมก็พาตัวเองเดินผ่านประตู "ห้องหมันชาย" มานอนบนเตียง ขึ้นเขียงเรียบร้อย โดย "ถกกุงเกงเผยหนอนน้อย ในมุม 180 องศา" จากนั้น พี่ผู้ช่วยพยาบาลจะมาโกนขนอวัยวะเพศ เพื่อความสะอาด โดยจะให้ตัวเรา นำมือไปวางไว้บนหน้าอก นำผ้ามาปิดตา โกนเสร็จแล้วปูด้วยผ้าสะอาด ให้โผล่มาเฉพาะไข่อันน่ารัก เพื่อรอหมอมา

        จังหวะที่รอหมอ คงประมาณ 5 นาที ซึ่งผมยอมรับว่า เป็น 5 นาทีแห่งความตื่นเต้น เหงื่อชุ่มฝ่ามือ เหมือนนักโทษประหาร รอเพชฌฆาตบนหลักประหารอย่างแท้จริง เมื่อคุณหมอมา ก็ไม่เสียเวลาอะไรมาก จัดการคว้า "หมับเข้าให้" ไปที่ไข่ข้างขวา จากนั้นจึงฉีดยาชา เข้าไปที่ผิวของอัณฑะ ความรู้สึกตอนนั้น เจ็บนิดเดียว เจ็บนิดเดียวจริงๆ เบากว่าที่คิดเอาไว้มาก เมื่อหมอเดินยา จะมีความรู้สึกจุกๆคล้ายเวลาโดนบีบไข่ หลังจากนั้น ก็เป็นอันว่าชา ไม่รู้สึกเจ็บอะไรแล้ว แต่มือของผม ยังชุ่มไปด้วยเหงื่อ ในใจก็ภาวนา ให้การทำหมัน ผ่านไปเร็วๆ แบบว่าไม่เจ็บ แต่กลัวคร้าบบบ !!!

        เมื่อไข่ชาเป็นที่เรียบร้อย คุณหมอจะคลำหาท่อน้ำเชื้อที่อยู่ใต้ผิวหนังของลูกอัณฑะทั้งซ้ายและขวา จากนั้นหมอจะใช้เครื่องมือจับท่อน้ำเชื้อของเราจากภายนอกผิวหนัง แล้วใช้เครื่องมืออีกชิ้นหนึ่งเจาะผิวหนังลงไปถึงท่อน้ำเชื้อที่จับไว้ ทำการแยกท่อน้ำเชื้อออกจากส่วนอื่นๆ แล้วตัดท่อน้ำเชื้อออกส่วนหนึ่ง ผูกปลายท่อน้ำเชื้อที่ตัดนั้นด้วยไหมดำ ก็เป็นอันเสร็จพิธีไปหนึ่งข้าง จากนั้น หมอก็จะหาและตัดท่อน้ำเชื้ออีกข้างหนึ่งโดยวิธีเดียวกัน โดยทำผ่านผิวหนังรูเดิมที่เจาะรูไว้ เมื่อตัดและผูกท่อน้ำเชื้อทั้งสองข้างเรียบร้อยแล้ว หมอจะปล่อยท่อน้ำเชื้อกลับลงไปใต้ผิวหนังตามเดิม เป็นการทำหมันที่รวดเร็วว่องไว ปานกามนิตย์หนุ่ม รวมเวลาไม่น่าเกิน 10 นาที (แต่สำหรับผมมัยช่างยาวนานปาน 10 ปีเลยทีเดียว)

        เมื่อเสร็จแล้ว คุณหมอจะแปะแผลให้เราด้วยพลาสเตอร์ ชนิดไม่กันน้ำ โดยหลังจากทำเสร็จลุกจากเตียงออกมาแล้ว จะมีพี่พยาบาลแจ้งการดูแลตัวเองหลังการผ่าตัดให้กับเรา โดยห้ามแผลโดนน้ำ 3 วัน โดยในเวลา 3วันหลังผ่าตัด ให้ทำงานเบาๆ อย่าออกกำลังกาย หรือทำงานหนัก ห้ามกระเทือนบริเวณผ่าตัด ไม่ต้องแกะพลาสเตอร์เพื่อทำความสะอาด ยกเว้นถ้าแผลเปียกน้ำ ให้แกะผ้าปิดแผลออก ใช้สำลีชุบเบตาดีนเช็ดแผล แล้วปิดด้วยพลาสเตอร์อันใหม่

       เมื่อครบ 3 วัน ให้แกะพลาสเตอร์ดูเอง ถ้าแผลปิดสนิทดี ก็เป็นอันว่าสบาย ไม่ต้องมาตรวจ ให้งดเพศสัมพันธ์ 7 วันหลังผ่าตัด หลังจากนั้นมีได้ "แต่ต้องคุมกำเนิดตามปกติไว้ก่อน" 3 เดือน หลังจากผ่าตัด เนื่องจากยังมีเชื้ออสุจิค้างท่อ อยู่จำนวนหนึ่ง หลัง 3 เดือน ต้องนำน้ำเชื้อมาตรวจว่ายังมีเชื้ออสุจิอยู่หรือไม่ โดยตรวจได้ที่โรงพยาบาลหรือคลินิก แถวบ้านได้เลย
        ***การทำหมันในครั้งนี้ เป็นการทำฟรี ไม่เสียค่าใช้จ่าย โดยทางคลินิกจะมีตู้ให้บริจาคแล้วแต่ศรัทธา โดยรายได้จะนำไปสนับสนุนโรงเรียนมีชัยพัฒนา จังหวัดบุรีรัมย์ ได้บุญไปอีก*** วันนี้ผ่านมาแล้ว 2 สัปดาห์กว่า แผลหายสนิทแล้ว หารอยแผลไม่เจอเลยทีเดียว ไอ้หนอนน้อยลูกพ่อ ก็กลับมาผงาด องอาจดังเดิม ความรู้สึกปกติ เหมือนเดิมทุกอย่าง ทั้งการแข็งตัว และความรู้สึกทางเพศ

        เชิญชวนท่านชายทุกท่าน ที่มีบุตรเพียงพอแล้ว มาทำหมันชายกัน อย่าไปคิดว่า มันต้องเป็นหน้าที่ภรรยา เพราะแค่เรื่องอุ้มท้อง 9 เดือน แล้วต้องมาคลอดลูก เลี้ยงลูก ให้นม ก็มากเหลือเกิน แถมเจ็บกว่าเรามาก ทำเองเสียเลย บอกเลยหล่อโครต โคร๊ตตตต 5555"


advertisement

        ต้องยอมรับเลยค่ะ ที่เห็นถึงความลำบากของภรรยาในการตั้งครรภ์แล้ว จึงตัดสินใจทำหมันเอง นอกจากจะป้องกันเรื่องการท้องไม่ตั้งใจแล้ว ยังทำให้ภรรยาสบายใจอีกด้วย

เรียบเรียงโดย : thaihitz.com ขอขอบคุณข้อมูลจาก มายเองนะ มายเองไง 


advertisement