advertisement
จากกรณีที่ผู้ใช้เฟซบุ๊กรายหนึ่ง ได้โพสต์ข้อความลงในเฟซบุ๊กส่วนตัว หลับพบเจอเหตุการณ์ที่เจ้าหน้าที่ตำรวจเข้าล็อกล้อ รถจักรยานยนต์ขายไผ่ทองไอศกรีม บริเวณหน้าตลาดประชานิเวศน์ 1 แขวงลาดยาว เขตจตุจักร กทม. โดยผู้โพสต์ได้ระบุข้อความว่า
"น่าเห็นใจ พ่อค้าไอติม ที่ถูกล็อกล้อรถ ยืนหน้าเศร้าถกเถียงกับคุณ “ตำรวจ” พร้อมอ้อนวอนขอความกรุณา “อย่าจับเลย” เพราะวันนี้ยังขายไม่ได้ เงินก็ไม่มี หนี้สินก็บานเบอะ แถมเศรษฐกิจก็ผุพัง มาจอดไม่ถึง 2 นาที เพื่อหาเงินก็โดนแล้ว ลูกเมียผมรอกินข้าว กำไรไม่ถึงวันละ 1,000 เสียค่าปรับไปผมหมดตัวแน่"
ล่าสุดวันนี้ 20 ก.ค.64 พ.ต.อ.หญิง ศิริกุล กฤตพิทยบูรณ์ รองโฆษกสำนักงานตำรวจแห่งชาติ (ตร.) เปิดเผยต่อเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นว่า ทางผู้บังคับบัญชาได้มีการตรวจสอบกรณีดังกล่าวแล้ว เบื้องต้นยืนยันว่าเจ้าหน้าที่ตำรวจจราจรดังกล่าวได้มีบังคับล้อรถแท็กซี่สาธารณะที่จอดอยู่บริเวณด้านหน้ารถขายไอศกรีมคันดังกล่าว
จากนั้นทางรถแท็กซี่ได้แจ้งเจ้าหน้าที่ตำรวจว่า ทำไมไม่ดำเนินการกับรถขายไอศกรีมที่อยู่ทางด้านหลัง จึงได้มีการบังคับล้อรถทั้ง 2 คัน โดยเปรียบเทียบปรับรถแท็กซี่ 200 บาท และรถขายไอศกรีม 100 บาท และว่ากล่าวตักเตือนไป กรณีดังกล่าว เนื่องจากจอดอยู่บริเวณจุดห้ามจอดในบริเวณป้ายรถประจำทาง
advertisement
อย่างไรก็ตาม ทางตร.ได้มีนโยบายการบังคับใช้กฎหมายไม่ให้มีการปฏิบัติหน้าที่ของตำรวจซ้ำเติมประชาชนช่วงการแพร่ระบาดของเชื้อโรคระบาด เมื่อเกิดมีกรณีดังกล่าวเกิดขึ้นจะเน้นการดำเนินการพิจารณาข้อเท็จจริงให้เน้นมีการว่ากล่าวตักเตือนก่อน แต่หากทำให้กระทบกับการจราจรอาจจะต้องมีการบังคับใช้กฎหมาย ซึ่งเป็นดุลยพินิจของผู้ปฏิบัติหน้าที่
advertisement
ทั้งนี้ ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจจราจรกลางผู้ปฏิบัติหน้าที่บริเวณดังกล่าวก็ได้มีการอธิบายให้ทั้งผู้ขับขี่รถแท็กซี่และพ่อค้าไอศกรีมรับทราบ ซึ่งทั้ง 2 ก็เข้าใจการปฏิบัติหน้าที่ของเจ้าหน้าที่ตำรวจและไม่ได้มีการเปรียบเทียบปรับเต็มจำนวนแต่อย่างใด
เรียบเรียงโดย : thaihitz
advertisement