advertisement
จากกรณีการแพร่ระบาดของโรคระบาด ในช่วงที่ผ่านมาก มีการกักตุนสินค้า ไม่ว่าจะเป็นหน้ากากอนามัย เจลแอลกอฮอล์ และผลิตภัณฑ์ทำความสะอาด กำจัดเชื้อโรคต่างๆ ล่าสุดได้มีการเผยแพร่ในโลกโซเชียลพ่อค้าแม่ค้าที่กักตุนน้ำกำจัดเชื้อ ตอนนี้ต้องเอามาเทขายแบบขาดทุน เพราะไปกู้เงินมาลงทุนเป็นแสน
ล่าสุด ทางด้านเพจ ทำไมถึงเจ๊ง ก็ได้ออกมาวิเคราะห์เกี่ยวกับปัจจัยทำไมพ่อค้าแม่ค้าที่กักตุนน้ำกำจัดเชื้อถึงเดือดร้อนกันแบบนี้ โดยระบุว่า…
#ทำไมถึงเจ๊ง ปัจจัยที่เกี่ยวข้องมีดังนี้
1. สั่งของล็อตใหญ่เกินไป การสั่งสินค้าจำนวนมากโดยไม่ได้เป็นผู้ขายมืออาชีพหรือมีช่องทางการจัดจำหน่ายเดิมอยู่แล้ว จึงทำให้ไม่สามารถระบายของจำนวนมากออกได้ทัน
2. สินค้ามาช้า พ่อค้าท่านอื่นก็สั่งและ นำเข้ามาจากต่างประเทศซึ่งในไทยมีมาตรการ และต่างประเทศก็มีมาตรการส่งผลให้ระยะเวลาการมาถึงของสินค้าล่าช้าและไม่แน่นอน
3. โรคระบาดในไทยไม่ระบาดยาวนานมากอย่างที่คิด เมื่อ demand ลด แต่ซัพพลายล้น จึงทำให้ประชาชนไม่มีความจำเป็นต้องรีบซื้อมากักตุนหรือเผื่อไว้ใช้
4. ซื้อจำนวนมากเพื่อให้ได้ราคาที่ถูกที่สุดต่อหน่วย หลักการนี้จริงๆก็ ใช้ได้ แต่ต้องคิดถึง สถานที่เก็บช่องทางการจัดจำหน่ายและจำนวน รวมไปถึงช่วงระยะเวลาในการจำหน่ายด้วยว่าต้องใช้เวลานานเท่าไหร่ในการจำหน่ายให้หมด
5. ร้านยาและร้านจำหน่ายต่างๆมีขายตามปกติแล้ว
advertisement
6. ไม่มีช่องทางการจัดจำหน่ายที่หลากหลายและกว้างมากเพียงพอในการปล่อยสินค้าจำนวนมาก
ตอนนี้ทางเจ้าของเลยลดราคา เห็นว่าต่ำกว่าทุน ก็มีหลายคนสงสารและเห็นใจ แต่ก็มีหลายท่านที่เข้าไปตำหนิ เพราะช่วงสถานการณ์ที่ประชาชนต้องการใช้ไม่มีสินค้าจำหน่าย ส่วนนึงก็เพราะ บรรดาพ่อค้าแม่ค้าทำการกักตุนสินค้า
ซึ่งไม่ว่าจะผลิตในประเทศหรือต่างจากต่างประเทศก็ตาม มันส่งผลให้หลายคนหาซื้อสินค้าได้ลำบากและซื้อในราคาที่สูงกว่าปกติ ความเห็นส่วนตัวของแอดคือ ไม่สนับสนุน ครับ [ads]
advertisement

ความคิดเห็นจากชาวเน็ต
คุณพลาดแล้ว
advertisement

นี่ก็เป็นปัจจัยสำคัญที่ทำให้พ่อค้าแม่ค้าที่กักตุนน้ำยากำจัดเชื้อต้องเจ็บหนักในตอนนี้ เป็นอะไรที่ต้องบอกเลยว่าน่าเห็นใจจริงๆ ถือว่าเป็นอุทาหรณ์ให้กับคนที่ชอบกักตุนสินค้าในช่วงวิกฤต
เรียบเรียงโดย : thaihitz.com ขอขอบคุณข้อมูลจาก ทำไมถึงเจ๊ง
advertisement