advertisement
เป็นกิจกรรมที่เรียกว่า ท้าทายสปิริตและความสามารถของนักวิ่งจริงๆค่ะ สำหรับกิจกรรม อัลตร้ามาราธอน วิ่งในลู่ 400 เมตร ให้ครบ 24 ชั่วโมง จัดขึ้นเป็นครั้งแรกในประเทศไทย ณ สนามกีฬามหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ วิทยาเขตบางเขน
หนึ่งในนักวิ่งครั้งนี้ คือบุคคลที่มีชื่อเสียงในตอนนี้ คือ คุณธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ ซึ่งทางเฟซบุ๊กเพจ Running Insider ได้ออกมาเผยเรื่องราวการวิ่งของคุณธนาธร ที่ตั้งใจจะวิ่งให้ได้ 300 รอบ หรือ 120 กิโลเมตร ท่ามกลางสภาพอากาศและสภาวะที่เป็นอุปสรรคต่อร่างกาย โดยทางเพจได้ระบุว่า…
งานนี้เป็นอัลตร้ามาราธอนที่ต้องวิ่งในลู่วิ่ง 400 เมตร ให้ครบ 24 ชม. เป็นครั้งแรกที่จัดในไทย ใช้สนามกีฬา ม.เกษตร (บางเขน) เป็นการวิ่งที่ทดสอบความทนทรหด ความอดทนอดกลั้นของร่างกายและจิตใจนักวิ่ง ไม่ว่าจะเป็นการวิ่งวน อาการง่วงนอน อากาศที่ร้อนแดดเผา รวมถึงเรื่องน้ำและอาหารให้มีเรี่ยวแรงวิ่งได้เป็นปรกติ ในสถานการณ์ที่ไม่ปรกติ
งานนี้มีนักวิ่งลงวิ่งสู่โลกลึกลับ 38 คน มีชาวญี่ปุ่นหลายท่านรวมอยู่ในนั้นด้วย รวมถึงพี่ๆ นักวิ่งอัลตร้าในเมืองไทยที่บอกชื่อไปก็น้อยจะรู้จัก เป็นสายแปลกที่มีความกระตือรือล้นสนใจวิ่ง 100 กิโลเมตร พี่เอก – ธนาธร นับเป็นนักวิ่งสายอัลตร้า แกมาลงวิ่งงานนี้ออกสตาร์ทตอน 4 โมงเย็นเมื่อวานนี้ ก็อยู่วิ่งทั้งคืน วิ่งวนในสนามไปเรื่อยๆ มีเพื่อนๆ นักวิ่งที่คุ้นเคยจาก true south แวะเวียนมาวิ่ง มาเป็นหัวลาก วิ่งไป ชวนคุยไป ให้บทสนทนาช่วยละลายความเบื่อของระยะ 400 เมตร เพซก็ไม่ได้เร็ว แต่ต้องยืนระยะวิ่งวนไป 1 รอบ 400 เมตร นึกง่ายๆ วิ่งไป 40 รอบ (เพิ่ง) จะได้ 16 กิโลเมตร
พี่เอกวิ่งถึงเช้าอีกวัน จากนั้นแกขอตัวไปประชุมนัดสำคัญ ผมไม่ทราบรายละเอียดดีนัก น้องทีมงานในเรซเล่าให้ฟัง ว่าเดี๋ยวพี่เอก ประชุมเลิกเที่ยงๆ จะกลับมา จริงๆ ถ้าไม่กลับมา ก็ไม่ได้เป็นเรื่องใหญ่โตอะไร เพราะวิ่งจาก 4 โมงเย็น จนถึงตี 4 นั่นก็ 12 ชั่วโมงแล้ว วิ่งไปจนถึง 8 โมงเช้า นับดูก็มี 16 ชั่วโมง ก็ไม่น้อยแล้ว
ทว่า นักวิ่งร่างสูงผมสั้น ก็กลับมาจริงๆ แกมาวิ่งต่อ แหงล่ะ คงเสียดายระยะที่บดไว้มาทั้งคืน แต่ช่วงที่คุณเอก ธนาธร กลับมา บอกได้เลยว่า นี่คือ ฟินาเล่ ช่วงยากและทรมานไข้มากที่สุด เพราะผ่านการอดนอน แต่ต้องวิ่งออกแรง ส่วนใหญ่มักอ่อนเพลีย มีตัวรุมๆ แล้วต้องเจอพระอาทิตย์ตรงหัว แดดร้อนราวๆ 41- 45'C แค่ยืนในร่ม ยังร้อนอบอ้าว แดดวันนี้ฟ้าเปิดอีก คล้ายไปยืนริมทะเล รับลมอ้าวๆ
ผมรายงานตอนนั้น แกกลับมาวิ่งครั้งที่ 2 ได้รวม 109Km ใน 22 ชม.เศษ ภาพที่เห็นนักกีฬาในสนาม ขอพักยุติกันไปเพราะแต่ละคนมีเป้าหมายส่วนตัว และรอยปริแตกของขีดความจำกัดร่างกาย คงเหลือ 19 คนในสนาม ที่จะขอวิ่งผ่าแดด เคลื่อนร่างกายให้ถึง 4 โมงเย็น เพื่อจบเรซ
advertisement
advertisement
เป้าพี่เอก คือ 300 รอบสนาม หรือ 120Km พูดง่ายๆ ว่า มัน คือ วาระสำคัญของวันนี้ แต่การประชุมก็สำคัญพอประชุมเสร็จ สัญญาว่ามาต้องมา กลับวิ่งต่อแบบที่ใส่ชุดนักกีฬาง่ายๆ ผ้าร่ม เสื้อทีมวิสกี้ไตรกีฬา ให้ราดน้ำบนตัวได้เพื่อลดความร้อน แกจำเป็นต้องใส่รองเท้าแตะเพราะเท้ามันขยายจากการวิ่งจ้ำบนลู่วิ่งมาสิบกว่าชั่วโมง จาก 109Km ก็ต้องเก็บอีก 11Km หรืออีก 27-28 รอบสนาม
มีเพื่อนๆ น้องๆ ชวนกันลาก ผลัดกันคนละรอบสองรอบ ตอนนั้นมันสนุกและบ้าบอเป็ธรรมชาติดี พวกเราไม่มีหัวโขนอะไร มีแต่ความสุขจากการวิ่ง โลกอัลตร้ามาราธอนเป็นกิจกรรมที่อนุญาตให้ทำแบบนั้นได้ ไม่รู้ทำไม …หรืออาจเพราะพวกเรากำลังเป็นซอมบี้ ที่งัวเงียและอ่อนแรง ในขณะเดียวกัน ฉากชีวิตภายนอก ทั้งร้อนแบบเห็นแดดเป็นตัว เห็นเป็นเรือนกระจกวูบวาบ เหมือนตอนคุณเติมน้ำมันในแก๊สสเตชั่นเพราะก็วิ่งกันไป วิ่งๆ สลับเดิน ผ่านมา 1 รอบ เอาน้ำราดตัว มีทั้งอารมณ์ที่นิ่งๆ ไม่อยากรู้สึกอะไร และเฮฮา ขบขัน มันนิยามไม่ถูกจริงๆ เท่าที่อยู่ดูใน 2 ชม.
advertisement
สุดท้าย ที่เดือดแดดที่สุดของวัน 10 นาทีสุดท้ายของเรซวันนี้ เป็นความลุ้นว่า พี่เอกจะปิดจ๊อบ ได้ครบ 300 รอบไหม ? 297 ,298 , 299 , เวลาเหลือน้อย แรงก็เหลือน้อย มันเหมือนยาสีฟันที่ถูกรีดจนหมดหลอด รีดจนบางเฉียบแล้ว กับแต่ละก้าวที่ก้าวออกไป ถึงวิ่งเร็วสักหน่อยก็รู้ว่า พอถึงอีก 50-70 เมตร ก็ต้องผ่อนลง เพราะร่างกายมันอาจไม่ใช่ของเราแล้วในตอนนั้น แต่ถ้าวิ่งได้ 298 , 299 รอบ แล้วเวลาดันหมด ทำไม่ได้ว่ะ มันคงคาใจไปอีกนาน นักวิ่งด้วยกันรู้ดี
บทความนี้ ไม่เล่านาน เพราะมันถูกเฉลยจากผมไปแล้ว ว่าสุดท้ายก็ได้ พี่เอก ก็คือ พี่เอก มีคนพูดประโยคนี้ สักคนที่วิ่งไปด้วยกัน ที่อยากบอก คือ สมรภูมิอัลตร้ามาราธอน 100 % เป็นหนทางในการเอาชนะตัวเอง นักกีฬาทุกคนย่อมพบความสุขบนความเจ็บปวด พบโลกส่วนตัวใบใหม่ dig it deep ทั้งเดือดดาลและเงียบงันภายในตัวเองแต่ที่สุดแล้ว ระหว่างทาง คือ พาลพบกับมิตรภาพ มันบอกไม่ถูกหรอกคุณว่า หลัง กม.100 ไปแล้ว เราจะเหลือเรื่องอะไรคุยกันอีกหรา แต่มันมี
ภายในตัวนักวิ่งระยะไกล Long Distance Runner เป็นดินแดนที่น่าค้นหาสุดท้ายเรื่องราวเหล่านี้ วันหนึ่งมันจะตกตะกอนเป็นประสบการณ์เป็นความทรงจำ นานวันเข้ามันจะกลายเป็นเรื่องราวที่มีคุณค่า คุณไม่ต้องรักษา เพราะมันซึมลึก ไม่มีใครเอาออกจากตัวเราไปได้ มันไม่สูญหาย เจอได้แค่คิดถึงความร้อนของเปลวแดดวันและสายลมที่พัดมา
แต่ทั้งหมดมันก็ก้าวข้ามความคิด Insane บ้าๆ กรอกใบสมัครและเตรียมใจ เตรียมร่างกาย เพื่อมาจองจำวิ่งวน บนลู่วิ่ง 400 เมตร ตลอด 24 ชั่วโมงนี้ไปก่อนครับ เพื่อจะได้เจอกับอิสระภาพตอนทุกอย่างลุล่วงไปแล้วเช่น รอบที่ 300 ของคุณเอก ธนาธร ตอนเขียนถึงบรรทัดนี้ที่ลุล่วง ผมก็ใช้โควต้า ความอัลตร้าของร่างกายใน 24 ชั่วโมงของวันกับคืนนี้ไปล่ะ ได้แต่บอกถึงเหตุการณ์ที่เพิ่งผ่านพ้นไปว่า ~ "สนุกนะ ลึกลับดีนะ " เจอกันงานหน้านะทุกคน อัลตร้ามาราธอนโลกที่ไม่มีหัวโขน
ขอบคุณเพื่อนๆ และน้องๆ ทีละก้าว เอ่ยชื่อไม่หมดแต่คุ้นเคยกันมา ทีมงานทุกฝ่ายที่กล้าทเรซสุดโต่งนี้ออกมา 38 คนในวันนี้ คือ รุ่นที่ 1 มันจะถูกอ้างถึงอีกนาน ขอบคุณเพื่อนพ้องน้องพี่ทุกคนที่ร่วมเหตุการณ์ ใน #24hthailand ครั้งประวัติศาสตร์นี้ หรือผมควรเริ่มเขียนหนังสือเรื่องพวกนี้เป็นเล่มได้แล้วตั้งแต่กลับจาก Lake Saroma Ultra Marathon ก็เข้าโหมดดำดิ่งเรื่อยมา(ขอบคุณภาพเปิดจากพี่หมู #CityTrail )
หากชอบเรื่องนี้กรุณาแชร์ ในกรณีที่พี่น้องสื่อๆ ท่านอื่น มีความจำเป็นต้องนำภาพและบทความไปใช้เผยแพร่ซ้ำกรณีอ้างอิงเพจ Running Insider จะขอบคุณมากหากทำ Link กลับมาที่ต้นฉบับนี้ หลังว่าบทความเรื่องนี้จะทำให้คุณรู้สึก "สนุกนะ ลึกลับดีนะ " อะไรของมันว่ะ วิ่งไปได้อัลตร้ามาราธอน 24 ชม. ในลู่แค่ 400 เมตร #runninginsider #ultramarathon #ultrarunning #ultrarunninglife #runfar #run24hrs"
advertisement
ได้อ่านตั้งแต่ต้นจนจบแล้วก็เข้าใจได้เลยว่า กิจกรรมนี้ท้าทายสปิริต หัวใจและความอดทนของนักวิ่งเป็นอย่างมาก จะมีสักกี่คนที่จะวิ่งแข่งกับเวลาและสภาพร่างกายไม่เอื้ออำนวยได้จนครบดังตั้งใจเอาไว้
เรียบเรียงโดย : thaihitz.com ขอขอบคุณข้อมูลจาก Running Insider
advertisement