advertisement

นายกฯตู่ เล็งเอาเงินประกันสังคม 2.1ล้านล้าน ปล่อยกู้ให้เกิดประโยชน์


advertisement

       นายธีระพงษ์ วงศ์ศิวะวิลาส เลขาธิการคณะรัฐมนตรี ทำหนังสือด่วนที่สุดที่ นร.0505/ว 459 ลงวันที่ 8 พฤศจิกายน 2562 เรื่องข้อสั่งการของนายกรัฐมนตรี แจ้งรองนายกรัฐมนตรี รัฐมนตรี กระทรวง และกรม ระบุว่า ในคราวประชุมคณะรัฐมนตรี เมื่อวันที่ 6 พฤศจิกายน 2562 นายกรัฐมนตรีมีข้อสั่งการ ดังนี้

       ด้านการบริหารราชการแผ่นดินและอื่นๆ

      1. ให้กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ (กรมประมง) เร่งรัดการขึ้นทะเบียนผู้ทำการประมงให้ครบถ้วนทุกกลุ่ม รวมทั้งรวบรวมและบริหารจัดการข้อมูลทะเบียนผู้ทำการประมงให้เป็นปัจจุบันเพื่อประโยชน์ในการพิจารณากำหนดแนวทางและมาตรการในการดูแลให้ความช่วยเหลือผู้ทำการประมงให้เหมาะสมและมีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น

      2. ให้กระทรวงแรงงาน (สำนักงานประกันสังคม) เป็นหน่วยงานหลัก ร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เช่น กระทรวงการคลัง กระทรวงพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ พิจารณาความเป็นไปได้ในการกำหนดแนวทางและมาตรการในการบริหารจัดการเงินกองทุนประกันสังคมให้เกิดประโยชน์และตอบสนองแก่ความต้องการของผู้ประกันตนได้มากยิ่งขึ้น เช่น การกู้ยืมเพื่อการลงทุน หรือการกู้ยืมเพื่อรายจ่ายจำเป็นอื่นๆ

       ข้อสั่งการของนายกรัฐมนตรีข้างต้นใช้เป็นแนวทางในการบริหารราชการให้เกิดประสิทธิภาพ ดังนั้น ในขั้นตอนการปฏิบัติ หน่วยงานจะต้องดำเนินการโดยยึดถือกฎหมาย ระเบียบ หรือมติคณะรัฐมนตรีที่เกี่ยวข้องเป็นหลัก

       ทั้งนี้ กองทุนประกันสังคม เริ่มจัดเก็บเงินสมทบจากนายจ้าง ลูกจ้าง และรัฐบาล ตั้งแต่ปี 2534 โดยเงินกองทุนประกันสังคมตามงบการเงิน ณ สิ้นไตรมาส 3 ปี 2562 มีจำนวน 2,177,473 ล้านบาท แบ่งเป็น

       1. เงินกองทุนเพื่อการจ่ายประโยชน์ทดแทน 4 กรณี (เจ็บป่วย ทุพพลภาพ คลอดบุตร และตาย) จำนวน 120,776 ล้านบาท โดยเงินกองทุน 4 กรณี ได้รวมสิทธิประโยชน์กรณีทุพพลภาพ ซึ่งเป็นประโยชน์ทดแทนระยะยาว จึงต้องมีการสำรองเงินไว้สำหรับภาระการจ่ายประโยชน์ทดแทนในอนาคต

        2. เงินกองทุนเพื่อการจ่ายประโยชน์ทดแทน 2 กรณี (สงเคราะห์บุตรและชราภาพ) จำนวน 1,861,643 ล้านบาท เป็นเงินสำรองจ่ายประโยชน์ทดแทนกรณีชราภาพ จำนวน 1,398,964 ล้านบาท ซึ่งเป็นประโยชน์ทดแทนระยะยาวและเพิ่งเริ่มมีการจ่ายบำนาญชราภาพในปี 2557 ดังนั้นจึงต้องมีการสำรองเงินไว้สำหรับภาระการจ่ายประโยชน์ทดแทนในอนาคต


advertisement

        3. เงินกองทุนเพื่อการจ่ายประโยชน์ทดแทนกรณีว่างงาน จำนวน 181,641 ล้านบาท

        4. เงินกองทุนในส่วนของผู้ประกันตน มาตรา 40 จำนวน 13,412 ล้านบาท


advertisement

        ก็ยังคงเป็นการเล็ง กองทุนประกันสังคม จำนวน 2,177,473 ล้านบาท อาจจะนำมาเป็นเงินกองทุนเพื่อการจ่ายประโยชน์ 

เรียบเรียงโดย : thaihitz.com


advertisement