advertisement

ประกาศ สธ.ยกเลิก 4 ประเทศนี้เป็นเขตติดโรคติดต่ออันตราย มีผล 16 พ.ค. นี้


advertisement

      เมื่อวันที่ 15 พ.ค. 63 ราชกิจจานุเบกษา ได้เผยแพร่ประกาศกระทรวงสาธารณสุข เรื่อง ยกเลิกท้องที่นอกราชอาณาจักรที่เป็นเขตติดโรคติดต่ออันตรายกรณีโรคติดเชื้อโรคระบาด พ.ศ. ๒๕๖๓

      ตามที่รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุขโดยคำแนะนำของคณะกรรมการด้านวิชาการ ได้ประกาศให้สาธารณรัฐเกาหลี (Republic of Korea) และสาธารณรัฐประชาชนจีน (People’s Republic of China) รวมถึงเขตบริหารพิเศษมาเก๊า (Macao) และเขตบริหารพิเศษฮ่องกง (Hong Kong) เป็นเขตติดโรคติดต่ออันตราย กรณีโรคติดเชื้อโรคระบาด

        อย่างไรก็ดี สาธารณรัฐเกาหลี (Republic of Korea) และสาธารณรัฐประชาชนจีน (People’s Republic of China) รวมถึงเขตบริหารพิเศษมาเก๊า (Macao) และเขตบริหารพิเศษฮ่องกง (Hong Kong) ถือเป็นท้องที่นอกราชอาณาจักรที่มีความพร้อมด้านการแพทย์ และการสาธารณสุขในการแก้ไขสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรค ได้อย่างมีประสิทธิภาพ

      ดังนั้น เพื่อให้การป้องกันและควบคุมโรคที่อาจจะเข้ามาภายในราชอาณาจักรมีความเหมาะสมกับสถานการณ์ปัจจุบัน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุขโดยคำแนะนำของคณะกรรมการ

      ด้านวิชาการ จึงเห็นสมควรให้ประกาศยกเลิกสาธารณรัฐเกาหลี (Republic of Korea) และสาธารณรัฐประชาชนจีน (People’s Republic of China) รวมถึงเขตบริหารพิเศษมาเก๊า (Macao) และเขตบริหารพิเศษฮ่องกง (Hong Kong) จากการเป็นท้องที่นอกราชอาณาจักรที่เป็นเขตติดโรคติดต่ออันตราย กรณีโรคติดเชื้อโรคระบาด

      อาศัยอำนาจตามความในมาตรา ๕ วรรคหนึ่ง ประกอบกับมาตรา ๘ แห่งพระราชบัญญัติโรคติดต่อ พ.ศ. ๒๕๕๘ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุขโดยคำแนะนำของคณะกรรมการด้านวิชาการ จึงออกประกาศไว้ ดังต่อไปนี้ [ads]

         ข้อ ๑ ประกาศนี้เรียกว่า "ประกาศกระทรวงสาธารณสุข เรื่อง ยกเลิกท้องที่นอกราชอาณาจักร ที่เป็นเขตติดโรคติดต่ออันตราย กรณีโรคติดเชื้อโรคระบาด พ.ศ. ๒๕๖๓"

        ข้อ ๒ ประกาศนี้ให้ใช้บังคับตั้งแต่วันถัดจากวันประกาศในราชกิจจานุเบกษาเป็นต้นไป


advertisement

        ข้อ ๓ ให้ยกเลิกความในข้อ 3 (๑) และ (๒) แห่งประกาศกระทรวงสาธารณสุข เรื่อง ท้องที่นอกราชอาณาจักรที่เป็นเขตติดโรคติดต่ออันตราย กรณีโรคติดเชื้อโรคระบาด พ.ศ. ๒๕๖๓ ลงวันที่ 2 มีนาคม พ.ศ. 2563

         เป็นอีกหนึ่งประเด็นที่ตอนนี้ประชาชนต่างกังวลและมีเสียงวิพากษ์วิจารณ์ตามมา ซึ่งคงต้องติดตามผลและระมัดระวังตนเองกันต่อไป

เรียบเรียงโดย : thaihitz.com


advertisement