advertisement
หลายๆคนคงเคยเห็น หรือบางคนอาจจะกำลังเจอกับตัวเอง กับโรคมือเหงื่อ คือมีเหงื่อออกที่มือเยอะจนใช้ชีวิตลำบาก หรือบางคนมีเหงื่อออกมากเฉพาะจุด ต้องรักษาด้วยการเข้ารับการผ่าตัด แต่หลายๆท่านก็กังวล ว่าจะน่ากลัวหรือไม่
ล่าสุด ผู้ใช้เฟซบุ๊กชื่อ Pakankul Sounkul ได้มาเล่าประสบการณ์ หลังจากได้เข้ารับการรักษาโรคมือเหงื่อมาเรียบร้อยแล้ว โดยเขาได้ระบุว่า
ขอรีวิวผ่าตัดโรคมือเหงื่อ หรือเหงื่อออกมากเฉพาะที่ (hyperhidrosis) โรคที่คนเป็นกันเยอะแต่ไม่ค่อยรู้จักกัน
#อาการก่อนผ่าตัด จำได้ว่าตั้งแต่เกิดเหงื่อจะออกเยอะ ( โคตรเยอะ ) ดูตามภาพ,คลิปในโพส คนชอบทักว่าเป็นโรคหัวใจหรือป่าว เลยไปตรวจแต่ก็ไม่ได้เป็นโรคหัวใจแต่ก็ไม่รู้ว่าเป็นอะไร และมารู้ว่าตัวเองเป็นโรคhyperhidrosis เพราะเจอข้อมูลของโรคนี้เมื่อช่วงต้นปี 2020 ใน facebook และ website ตามลิ้งด้านล่างโพส
#วิธีการจองคิว ลางานไปจองคิวที่โรงพยาบาลตำรวจวันจันทร์ที่ 13 ม.ค. 2020 ต้องไปติดต่อที่แผนกศัลยกรรม ของผมได้ผ่ากับหมอพรพีระ จิตต์ประทุม จะมีการตรวจร่างกาย(ตรวจเลือดเพื่อดูเกล็ดเลือด เอ็กซเรย์ปอด และ วัดคลื่นหัวใจ ถ้าผลปกติแพทย์จะทำการนัดวันผ่า ค่าตรวจทั้งหมด 900 กว่าบาท ) ตัดได้คิวผ่า 21 ก.ย. 2020 (โทรจองไม่ได้ ต้องไปจองที่โรงพยาบาลเท่านั้น)
#วันที่ผ่าตัด
– 21 ก.ย. 2020 ผมขับรถออกจากบ้าน 4.30 ที่ชลบุรี ถึง รพ.ตำรวจประมาณ 6.30 ยื่นบัตรคิว ติดต่อประกันชีวิตเกี่ยวกับค่ารักษา(ค่ารักษาประมาณ 40,000บาท)ติดต่อจองห้องพักของรพ. (ห้องรวม 400บาท/คืน, ห้องพิเศษ มีตั้งแต่ 3000+ ขึ้นไป) แต่ผมเลือกห้องรวมเพราะไปคนเดียว ห้องพิเศษจำเป็นต้องมีญาติเฝ้า 24 ชม. เคลียร์เรื่องเอกสารเสร็จประมาณ 11 โมง ก็นอนรอไป 1 วัน ต้องงดข้าวงดน้ำหลังเที่ยงคืน (ของผมใช้ประกันกลุ่มของโรงงานที่ทำงานอุยู่ "กรุงเทพประกันชีวิต" ไม่ต้องออกค่ารักษาสักบาทครับ )
advertisement
– 22 ก.ย. 2020 10:30น. มีเจ้าหน้าที่มาอธิบายการผ่าตัดอีกรอบแล้วพาไปห้องผ่าตัด
วิธีผ่าตัด
1. ดมยาสลบไม่ถึง 1 นาที ภาพตัดเลย (เป็นแบบหน้ากากครอบจมูก)
2. ใส่เครื่องช่วยหายใจ แฟบปอดข้างที่ทำการผ่าตัด
3. ผ่าตัดด้วยการสอดกล้อง เข้าไปที่ข้างใต้รักแร้ จากนั้นจี้ตัดปมประสาทใกล้ๆปอด จะมีแผลข้างละ 2 จุด
4. ทำแบบเดียวกันกับอีกข้าง
advertisement
หลังจากผ่าเสร็จ จากนั้นพยาบาลปลุก รู้สึกมึนๆงงๆ ถามพยาบาลว่ากี่โมงแล้ว เค้าตอบว่าประมาณบ่ายสอง แล้วก็หลับไปอีกที รู้สึกตัวอีกครั้งก็เย็นเลย ฟื้นที่มาไม่เจ็บแผลที่ผ่าเลย แต่แน่นหน้าออกมากๆ ยิ่งเวลาหายใจลึกๆ ถามพยาบาลว่ามีอะไรที่ห้ามกินหลังผ่าไหม พยาบาลบอกว่าไม่มี เลยขอพยาบาลเดินไปกินขนมที่ 7-11 ตอนประมาณทุ่มนึง
– 23 ก.ย. 2020 ตื่นเช้ามาก็มีพยาบาลมาเช็คอาการ โดยรวมโอเคไม่มีอาการแทรกซ้อนแต่มีไข้อ่อนๆเลยต้องรอถึงเที่ยงถึงกลับบ้านได้
12:00 ขับรถกลับบ้าน
14:00 ถึงบ้านปลอดภัย
หมอให้ไปล้างแผลทุก 3 วันที่รพ.ใกล้บ้าน แล้วนัดดูแผลอีกที่ วันที่ 5 ต.ค. 2020 ที่ รพ.ตำรวจ
#ค่าใช้จ่าย
-วันจองคิว ที่มีการตรวจร่างกายประมาณ 9 ร้อยบาท
-ค่ารักษาประมาณ 4 หมื่นบาท
-ค่าห้องพักรพ.ตำรวจ ห้องรวมคืนละ 400 ห้องพิเศษ 3 พันบาทขึ้นไป (มีหลายราคา)
::: ส่วนของผมใช้บัตรประกันกลุ่มของที่ทำงานเป็นประกัน กรุงเทพประกันชีวิต ไม่ต้องเสียเงินเลยครับ แนะนำสำหรับคนที่ไม่มีประกันกลุ่มแบบผม สามารถติดต่อสอบถามที่แผนกประกันของรพ.ตำรวจได้เลย จะมีเจ้าหน้าที่ให้คำปรึกษา ว่าเรามีสิทธิอะไร ใช้ตัวไหนคุ้มครองได้บ้าง เจ้าหน้าที่บริการดีมากครับ
advertisement
การรักษาก็ไม่ได้น่ากลัว และไม่ได้ยุ่งยากอย่างที่หลายคนกังวลเลยค่ะ ใครที่กำลังเจอปัญหาเหล่านี้ และอยากจะไปรักษา คงได้แนวทางกันแล้วล่ะค่ะ
เรียบเรียงโดย : thaihitz.com ขอขอบคุณข้อมูลจาก Pakankul Sounkul
advertisement