advertisement
เป็นที่ทราบกันดีค่ะว่า การมีลูกในวัยที่มีอายุมากแล้ว เป็นเรื่องที่ยาก เพราะนอกจากร่างกายของพ่อแม่อาจจะไม่แข็งแรงพอที่จะมีลูกได้ง่ายๆแล้ว ร่างกายของเด็กยังเสียงต่อการเกิดมาไม่สมบรูณ์ พัฒนาการของเด็กอาจจะไม่ปกติได้ หลายคนเมื่อมีอายุมากขึ้นจึงเริ่มหยุดความฝันในการมีบุตรไป
แต่วันนี้เรามีแนวทางดีๆ ที่จะเป็นกำลังใจให้กับคนที่อยากมีลูกในอายุมากๆ หลังจากที่สมาชิกพันทิปชื่อ megmedia ได้ออกมาเล่าประสบการณ์ ตั้งแต่เริ่มต้นจนสามารถมีบุตรได้ในวัย 42 ปี ซึ่งก็ต้องพึ่งเทคโนโลยีทางการแพทย์พอสมควร แถมเธอก็ประสบความสำเร็จในการตั้งครรภ์ในวัย 42 ปีอีกด้วย
กระทู้นี้เขียนขึ้นเพราะอยากให้กำลังใจทุกคนที่อยากมีลูก และยังไม่สำเร็จค่ะ ตอนนี้เราอายุ 42 ใกล้จะ 43 แล้ว แต่งงานมา 13 ปี แฟนอายุเท่ากัน
เริ่มแรกที่อยากมีลูก
หลังจากแต่งงานมานาน ทำงานหนัก กลับบ้านดึก และมีเรื่องเครียดบ่อย พออายุเข้าเลข 4 มีความรู้สึกว่าชีวิตมันหวิวๆ เบาๆ เราทำงานเยอะเพื่อใคร มาคิดได้ก็สายเสียแล้ว ตอนนี้เราสองคนอายุ 40+ จะทันหรือ แต่ด้วยเราสองคนเป็นคนคิดบวก ไม่ลองไม่รู้ ไม่ลงมือ ไม่พยายามก็ยังไม่สิ้นหวัง เอาวะจูงมือกันไปหาหมอ
ปล. ก่อนหน้านี้แฟนแอบไปตรวจ หมอบอกว่าแฟนอสุจิน้อยมีลูกยากเค้าเลยไม่เร่งรัด และออกจะรู้สึกเสียใจกับตัวเองด้วย เราก็ให้กำลังใจตลอดว่าไม่เป็นไรนะพ่อ มันต้องมีวิธีแก้ไขได้
พบหมอครั้งแรก
เราได้รับคำแนะนำเรื่อง รพ และคุณหมอจากเพื่อนของสามี ที่มีปัญหาการมีบุตรยากเหมือนกัน ไปพบครั้งแรก เราไปคนเดียวเพราะสามีไปทำงานต่างประเทศพอดี หมอก็ซักประวัติ ทำอุนตร้าซาวร์พบเนื้องอกหลายจุด แต่ไม่ขวางทางเดินของไข่ หมอจึงไม่ได้ชวนผ่าตัด แล้วเราก็เล่าเรื่องปัญหาขอสามีให้ฟัง คุณหมอก็ดึงประวัติออกมาดู และสอนให้เราอ่านค่าจากใบตรวจซึ่ง อ้าวเฮ้ย สามีปกติดีนี่นา คุณหมอบอกว่าดีแล้วลืมเรื่องเก่าๆ ความคิดเก่าๆ ซะ มาเริ่มกัน หมอให้คำแนะนำเบื้องต้นว่าการมีลูกทำได้หลายวิธีเพื่อแก้ไขไปตามอาการของแต่บะคน ร่างกายไม่เหมือนกัน
advertisement
1. มีตามธรรมชาติ ใช้วิธีนับวันตกไข่
2. IUI ส่งน้ำเชื้อให้เจอกับไข่ได้ไวที่สุด มีเวลาเจาะไข่นานขึ้น
3. IVF เด็กหลอดแก้ว
4. รับบริจาคไข่
5. อุ้มบุญ
เริ่มทำ IUI
ครั้งที่ 1 หลังจากตรวจเลือดเราทั้งสองคน เรื่องทาลัสซิเมี่ย ไวรัสตับ และเช็คอื่นๆ แล้ว เราก็ตั้งตาคอยนับวันไข่ตก ต้องเช็คเลือกว่าฮอร์โมนมาเต็มที่ สามีต้องรีบมาเพื่อสกัดเอาน้ำเชื้อภายใน 2 ชม หลังจากนั้นก็ฉีดน้ำเชื้อเข้าตัวเรา นอนพัก 15 นาทีก็กลับบ้าน สามีขับรถกลับบ้านแบบช้าสุดๆ เบาที่สุด คือครั้งแรกมันตื่นเต้น มันระมัดระวังมาก ถึงบ้านก็กินกับนอนไปอีก 4-5 วันไม่ได้ทำอะไรเลย ผลสรุปคือไม่ติด แต่ก็ไม่ท้อกำลังใจยังมาเต็ม
IUI ครั้งที่ 2 และ 3
สั้นๆ เลยค่ะ 2 ครั้งนี้ไม่สำเร็จ และกำลังใจเริ่มลดลงตามเวลาที่ผ่านไป ซึ่งนำไปสู่การตัดสินใจทำ IVF
เริ่มทำ IVF
ครั้งแรกที่ทำ IVF เรามีไข่ตก 6 ใบเป็นใบใหญ่ 3 ใบจิ๋ว 3 เริ่มกระบวนการด้วยการฉีดยาเข้าที่ท้อง 2 เข็มต่อวันนาน 5 วัน เพื่อกระตุ้นให้ไข่สมบูรณ์ และมีจำนวนมากพอที่จะเก็บไข่ออกมามำกระบวนการอิซี่ หลังจากผ่านไป 5 วันฉีดยาครบ ผลซาวพบว่าไข่ที่สมบูรณ์เหลือเก็บได้แค่ 2 ใบ ส่วนใบอื่นๆ ขนาดใหญ่เกินไปบ้าง เล็กไปบ้าง ถึงตอนนี้ เราหายใจไม่ทั่วท้องแล้ว ใจไม่ดีเลย แต่ก็ไม่เป็นไร เดือนหน้าเริ่มใหม่ บำรุงไข่ใหม่
ฟ้าผ่ากลางใจ
รอบสองของการทำ IVF ไข่เรามีแค่ 2 ฟอง ย้ำ 2 ฟอง หมอถามเอายังงัย ไปต่อไหม ถ้าหนูสู้ หมอพร้อมช่วย ก็บอกหมอไปว่าสู้ค่ะ ปากบอกไหว แต่ใจย่ำแย่มาก กลับถึงบ้านร้องไห้น้ำตาเป็นเผาเต่า ปกติไม่เคยร้องไห้ หรือท้อกับอะไรเท่าไหร่ แต่เจอเรื่องนี้เข้าไปมันจุก มันหาทางออกไม่เจอจริงๆ สามีรีบปลอบใจ ไม่เป็นไรเราแค่ทำให้ดีที่สุด มีไม่มีไม่เป็นไรแล้วหละ
หลังกินยาไปครบตามหมอสั่งกลับไปเช็คไข่มีเพิ่มมาเป็น 5 ใบ ก็เริ่มฉีดยา กำลังใจเพิ่มมานิดนึง เริ่มฉีดยาเข้าท้องอีกครั้ง รอบนี้แค่ 3 วัน กลับไปเช็คไข่เราก็อึ้งอีกครั้ง เพราะมีไข่สมบูรณ์แค่ 2 ใบ คุณหมอเรียกคุยอีกครั้ง จับไหล่เราเบาๆ แล้วบอกว่า หนูจะมีลูกยาก เพราะร่างกายหนูผลิตไข่ได้น้อยใบ ไม่สามารถทำ IVF ได้ ต้องใช้วิธีขอรับบริจาคไข่ซึ่งคุณหมอไม่สามารถจัดหาให้ได้ เราต้องหาคนมาเอง ตอนนั้นหูอื้อไปพักนึง คิดอะไรไม่ออก แต่ก่อนลากลับก็ถามหมอว่าแล้วถ้าไข่ 2 ใบทำ IUI ได้ไหม หมอบอกว่าได้สิ ออกมานั่งรอเอกสารหน้าห้องคุณหมอแป็บนึงก็บอกกับตัวเองว่า มี 2 ใบก็ไม่เป็นไรทำ IUI เลยค่ะ เราจะไม่ยอมทิ้งโอกาส ไม่ว่าความหวังจะเหลือน้อยนิดแต่ก็ดีกว่าทิ้งไปเปล่าๆ
ลุยต่อไม่รอแล้วนะ
เข้ากระบวนการ IUI รอบที่ 4 เหมือนเดินวนกลับมาที่เดิม จากความพยายามทำ IVF แต่ไม่สำเร็จเพราะมีไข่ไม่พอ คุณหมอนัดฉีกเชื้อวันอาทิตย์ที่ 3 พฤศจิกายน 62 ตอน 4 โมงเย็น รอบนี้เพิ่มยามาให้กินอีก 15 วัน ชื่อยา Dupbaston 10mg เราก็ไม่เครียดเท่าไหร่หละ เพราะคุยกับสามีว่าเราจะสู้ไปจนต้นปีหน้า จะ IUI หรือ IVF ก็ได้แล้วแต่ว่าร่างกายพร้อมทางไหน หลังจากทำ IUI เสร็จ เราก็ไปทำงาน อ้อลืมบอกไปว่าก่อนหน้านี้ว่างงานเพราะอยากเตรียมตัวเพื่อลูก ไม่อย่าเครียด แต่หลังจากผิดหวังหลายรอบ เราเลยกลับไปทำงานอีกครั้งก่อนทำ IUI รอบนี้ และใช้ชีวิตแบบไม่ได้คิดอะไรเลย นอกจากคิดเรื่องงาน
อึ้ง จบ ไม่มีคำพูด
เลยวันที่จะต้องมีประจำเดือนมา 2-3 วันแล้ว ปกติ 28 วัน แต่ก็ไม่ได้คิดอะไรเพราะมันเคยเลยมาจนเป็นเดือนแล้วค่อยมา เหมือนหลอกให้ดีใจ คาั้งนี้เลยเฉยๆ ผ่านมา 6 วันมันก็ยังไม่มา ลองเช็คผลการตั้งครรภ์สรุปท้องค่ะ เฮ้ย ท้องจริงเหรอ ซื้อที่ตรวจแบบดิจิติลมาอีกกลัวผลพลาด เช็คดูก็ท้องอีก โล่งอก อึ้ง และจบ ทำตัวไม่ถูก ตอนนี้อายุครรภ 7 week กับอีก 5 วันค่ะ หัวใจเริ่มเต้นแล้ว
บทสรุป
เขียนมาซะยาว เพราะเราอยากบอกว่า ท้อได้แต่อย่าหยุดนะคะ เหมือนพระราชนิพนธ์ที่ ร.9 ท่านทรงไว้ เรื่องพระมหาชนก ตอนว่ายน้ำข้ามมหาศรีธรรณดร ว่ายต่อไปแม้ไม่เห็นฝั่ง ซักวันเราจะถึงจุดหมายที่ตั้งใจแน่นอน
Big Thank
– ขอบคุณ คุณหมอฉัตรชัย (รพ.วิภาวดี) ที่สู้มาด้วยกัน คุฯหมดพูดตรงไม่มีอ้อม ช่วยคิดหาวิธีแก้ไขน่ารักและให้กำลังใจเสมอ
– ขอบคุณ คุณหมออาทิตยา ผู้ฉีดน้ำเชื้อให้
– อาเจ็ก ร้านยาเอี๊ยแซ ตลาดน้อย (เรากินยาจีน คู่ไปกับรักษาปกติ) อาเจ็กใช้วิธีแมะ คือแม่นมาก จนหนูตกใจว่าเจ็กเป็นหมอดู หรือเปล่าทักอาการตรงมาก
– คุณสามี ที่ให้กำลังใจและดูแลอย่างดีเสมอมา
advertisement
ค่าใช้จ่าย
– รวม IUI 4 รอบ ค่ายา IVF ค่าตรวจเลือด etc. ไม่ถึง 1 แสน
– ยาจีน 9,000 บาท (รอบละ 3,000) รับยา 3 รอบ กินทั้งสามี ภรรยา แถมแม่อีกคน ยาดีราคาเบา
ขอเป็นกำลังใจให้ทุกคนนะคะ ขอให้สมหวัง ตอนนี้ขอตัวไปไล่แก่บนก่อน บนไว้หลายที่ ถ้าใครสนใจสายมูเตรู คอมเม้นมานะคะ เดี๋ยวลงให้
ต้องยอมรับเลยค่ะว่า ทุกวันนี้เทคโนโลยีทางการแพทย์ก้าวไกล และช่วยเพิ่มโอกาสให้แก่คนที่อยากมีบุตรแต่มีปัญหาในหลายๆด้าน ใครที่ต้องการมีบุตร ก็อย่าเพิ่งท้อ และเริ่มต้นปรึกษาแพทย์จะดีที่สุด
เรียบเรียงโดย : thaihitz.com ขอขอบคุณข้อมูลจาก megmedia
advertisement