advertisement
จากกรณีที่ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ เกิดเหตุวุ่นวายขึ้น หลังจากมีเที่ยวบินผู้โดยสารจากสหรัฐอเมริกาและญี่ปุ่น เดินทางมาถึงท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ และผู้โดยสารรวมแล้วกว่า 152 คน จะต้องเข้าสู่มาตรการกักตัว ตาม พ.ร.ก.ฉุกเฉินฯ และประกาศของสำนักงานการบินพลเรือน(กพท.) โดยจะต้องนำผู้โดยสารไปกักตัวในสถานที่ที่กระทรวงสาธารณสุขและหน่วยงานด้านความมั่นคงเตรียมไว้ แต่ผู้โดยสารกลุ่มนี้ปฏิเสธที่จะเข้าสู่กระบวนการกักตัว ก่อน พล.ต. โกศล ชูใจ ปล่อยคนไทยทั้ง 152 คน กลับไปกักตัวที่บ้านหลังเข้าเจรจากัน
ล่าสุด เฟสบุ๊ก Wassana Nanuam ได้โพสต์รายงานผลการสอบสวน พล.ต. โกศล ชูใจ ในกรณีดังกล่าว ได้ผลสอบสวนว่า…
จากการตรวจสอบเบื้องต้น พบว่าเกิดจากการที่ผู้โดยสารใช้เวลารอในขั้นตอนการตรวจโรคและการตรวจสอบของเจ้าหน้าที่เป็นเวลานานหลายชั่วโมง โดยไม่มีเจ้าหน้าที่ผู้รับผิดชอบที่ตัดสินใจได้ มาดูแลให้ข้อมูลกับผู้โดยสารที่รออยู่ ด้วยเหตุนี้จึงมีความวุ่นวายและมีการเรียกร้องให้ผู้ใหญ่มาเจรจา [ads]
ระหว่างนั้น พล.ต. โกศล ชูใจ ซึ่งได้รับมอบหมายจากกระทรวงกลาโหม ให้ทำหน้าที่ประสานงานเรื่องการจัดยานพาหนะในการรับ-ส่งผู้โดยสารที่กลับจากต่างประเทศ ไปกักกันตัว โดยไม่ได้มีหน้าที่เกี่ยวข้องกับเรื่องนี้ ก็ได้รับการร้องขอจากเจ้าหน้าที่ให้มาช่วยเจรจากับผู้โดยสาร เพราะเห็นเป็นผู้ใหญ่สุด แต่เมื่อพยายามชี้แจงด้วยข้อกฎหมาย ผู้โดยสารก็ยังไม่รับฟัง พล.ต. โกศล จึงติดต่อไปปรึกษา ผอ.EOCสธ. จนได้รับการบอกกล่าวว่าให้ปล่อยกลับบ้านไปก่อน เพราะหากยื้อกันต่อไปอาจเกิดความวุ่นวายและสถานการณ์ลุกลาม จึงมีการอนุญาตให้ปล่อยตัวกลับไปกักกันตัวที่บ้าน แล้วค่อยติดตามกลับมา
advertisement
เป็นการแก้ปัญหาเฉพาะหน้าที่อ้างเหตุผลว่าหลีกเลี่ยงความรุนแรง อาจเกิดการก่อเหตุวุ่นวาย แต่ต้องบอกเลยว่าสังคมวิจารณ์ยับในการไม่เข้มงวดให้ครั้งนี้ ควรที่จะใช้มาตรการสูงสุดในการรับมือ
เรียบเรียงโดย : thaihitz.com ขอขอบคุณข้อมูลจาก Wassana Nanuam
advertisement