ผู้ว่าการการกีฬาฯ พูดแล้ว เงินอัดฉีดนักกีฬาคว้าเหรียญ ต้องเสียภาษีไหม?

       จากกรณีมีกระแสข่าวว่า นายสนธิญา สวัสดี ที่ปรึกษากรรมาธิการ การกฎหมาย การยุติธรรม และสิทธิมนุษยชนสภาผู้แทนราษฎร  ได้ยื่นหนังสือขอให้ตรวจสอบเงินอัดฉีดที่น้องเทนนิส พาณิพัค วงศ์พัฒนกิจ นักกีฬาเทควันโดทีมชาติไทย ได้รับจากการคว้าเหรียญทองโอลิมปิกเกมส์ 2020 รุ่น 49 กก. หญิง ว่าสมควรที่จะถูกเรียกเก็บภาษี 7% หรือไม่ เพราะเป็นจำนวนเงินที่มากถึง 21 ล้านบาท รวมถึงนักกีฬาคนอื่นๆ ที่ได้เหรียญด้วย เรามาเปิดข้อมูลกันให้ชัดๆ ไปเลย 

       แต่ต่อมาสนธิญา ยื่น ปอท.ร้องเรียน 2 เพจดัง นำข้อมูลอันเป็นเท็จเก็บภาษีน้องเทนนิส เผยแพร่สู่โลกโซเชียลทำให้เสื่อมเสียชื่อเสียง เผยให้เวลา 7 วัน ออกมาขอโทษให้สื่อโซเชียล

       ล่าสุด ทางด้าน ดร.ก้องศักด ยอดมณี ผู้ว่าการการกีฬาแห่งประเทศไทย (กกท.) เปิดเผยถึงกระแสข่าวว่าจะมีการยื่นตรวจสอบเงินรางวัลนักกีฬาทีมชาติไทยที่คว้าเหรียญรางวัลจากการแข่งขันกีฬาโอลิมปิก 2020 หรือ โตเกียวเกมส์ 2020 ว่าต้องเสียภาษีหรือไม่นั้น

          ดร.ก้องศักด กล่าวว่า นักกีฬาที่ได้เหรียญจะได้รับการยกเว้นไม่ต้องเสียภาษีเงินได้บุคคลธรรมดา (มาตรา 42 (28) ประมวลรัษฎากร) โดยเป็นแนวทางการให้โดยเสน่หา เนื่องจากเป็นการมอบให้กับผู้ทำคุณประโยชน์ให้กับประเทศชาติ และเพื่อเป็นการส่งเสริมการพัฒนาศักยภาพนักกีฬา และพัฒนากีฬาของชาติ

          ทั้งนี้ ที่ประชุมคณะรัฐมนตรี มีมติเห็นชอบตั้งแต่เมื่อปี 2559 ให้ยกเว้น โดยไม่ต้องเสียภาษีไม่ว่าเงินรางวัลจะน้อยกว่า หรือมากกว่า 10 ล้านบาท เพราะถือเป็นเงินได้พึงประเมิน ที่ได้รับยกเว้นไม่ต้องนำมารวมคำนวณเพื่อเสียภาษี (ข้อ 2(93) กฎกระทรวง 126) 

เรียบเรียงโดย : thaihitz.com