มิจฉาชีพหลอกเด็ก 10 ขวบ โอนเงิน 600 แลกทุนการศึกษา 6,000 บาท

        ทุกวันนี้มิจฉาชีพมีเกลื่อนเมืองจริงๆค่ะ ซึ่งกลวิธีในการหลอกลวงต้มตุ๋นของกลุ่มคนเหล่านี้จะเปลี่ยนไปเรื่อยๆ และเริ่มรุกหนักไปในทุกกลุ่ม จนบางครั้งเราเองก็ตามแทบไม่ทัน หลงเป็นเหยื่อไปโดยไม่รู้ตัวและไม่ทันระวัง

        ล่าสุด กลุ่มมิจฉาชีพได้รุกหนัก ครั้งนี้เหยื่อเป็นเด็กอายุเพียง 10 ขวบ ที่โดนหลอกให้โอนเงินเพื่อแลกกับทุนการศึกษา 6,000 บาท โดยคุณสรยุทธ สุทัศนะจินดา ได้เผยเรื่องนี้ ระบุว่า…

         "‘มิจฉาชีพออนไลน์’ รุกหนักเข้ามาในกลุ่มเด็กๆ ครับ แอดไลน์มาอ้างจะให้ ‘ทุนการศึกษา’ มิจฉาชีพหลอก “เด็ก 10 ขวบ” โอนเงิน 900 บาท แลกทุนการศึกษา 6,000 บาท

        ​ร้อยตำรวจโทหญิง ศิราณี บัวพันธ์ รองสารวัตร (สอบสวน) สถานีตำรวจภูธรเมืองพิจิตร เปิดเผยว่า สัปดาห์ที่แล้ว แม่ของเด็กหญิงอายุ 10 ขวบ ได้พาน้องมาแจ้งความ เนื่องจากมีคน Add Line เข้ามาที่มือถือของเด็ก ซึ่งแม่ก็ไม่ทราบว่า Add มาได้ยังไง แต่ทักมาคุย บอกว่าเป็น ‘ผู้ใหญ่ใจดี’ อยากให้ทุนการศึกษากับน้องเป็นเงินจำนวน 6,000 บาท แต่มีข้อแม้ว่า ให้น้องโอนเงินไปให้ก่อน 900 บาท ซึ่งยังไม่ได้มีการขอข้อมูลอะไร บอกว่าให้โอนเงินไปก่อน แล้วค่อยส่งชื่อ นามสกุล ชื่อโรงเรียน วุฒิการศึกษาไปให้ทีหลัง

        มิจฉาชีพ ได้ส่งสลิปที่อ้างว่าเป็นการโอนทุนการศึกษาให้เด็กคนอื่นๆ ก่อนหน้านี้ เพื่อยืนยันว่าจะโอนให้จริงๆ น้องจึงหลงเชื่อ กดโอนเงินไป 3 ครั้ง ครั้งละ 300 บาท รวมเป็นเงิน 900 บาท โดยบัญชีที่ใช้โอนไปเป็นบัญชีของแม่ ที่เปิดไว้ใส่ค่าขนมให้น้อง และสอนให้น้องใช้แอปฯ ธนาคารในโทรศัพท์มือถือของน้องเองด้วย เพื่อเอาไว้ซื้อขนม

        ​พอน้องโอนเงิน 900 บาทไปแล้ว เงิน 6,000 บาทก็ไม่ได้เข้ามา น้องเลยทักไปถาม มิจฉาชีพบอกให้น้องโอนเพิ่มอีก 300 บาทแล้วจะได้เงินทุนการศึกษา ยืนยันว่าไม่ได้หลอกจริงๆ แต่น้องเริ่มเอะใจจึงไปบอกกับแม่ แม่จึงพาน้องเข้ามาแจ้งความ

        ​ร้อยตำรวจโทหญิงศิราณี บอกด้วยว่า มิจฉาชีพรายนี้ไม่ได้บอกว่าตัวเองเป็นใคร ไม่ได้มีการสร้างโปรไฟล์ที่ดูดีน่าเชื่อถือ เนื่องจากเหยื่อเป็นเด็ก จะไม่ถามเยอะเหมือนผู้ใหญ่ ถ้าเป็นผู้ใหญ่อาจต้องการข้อมูลหลายอย่างเพื่อยืนยัน “สำหรับเด็กแค่เป็นผู้ใหญ่ใจดี จะให้ทุนการศึกษาก็เชื่อแล้ว”

        ​ตำรวจ สภ.เมืองพิจิตร อยู่ระหว่างรวบรวมพยานหลักฐาน เพื่อออกหมายเรียกเจ้าของบัญชีมาสอบสวนต่อไป ซึ่งอาจต้องใช้เวลาในการติดตามตัวผู้กระทำผิด เนื่องจากกรณีแบบนี้ ส่วนใหญ่จะใช้บัญชีรับจ้างเปิด ไม่ใช่บัญชีตนเอง

        ​ร้อยตำรวจโทหญิง ศิราณี ได้ฝากไปยังพ่อแม่ผู้ปกครองให้ดูแลการใช้โทรศัพท์มือถือ และการใช้บัญชีธนาคารของลูกหลานด้วย กรณีนี้ยังดีที่มิจฉาชีพยังไม่ได้ขอข้อมูลส่วนตัวไปเพราะไม่รู้ว่าถ้าได้ไปจะเอาไปทำอะไรบ้าง"

ความคิดเห็นจากชาวเน็ต 

ทำไปได้ 

แย่มาก 

         เริ่มน่ากลัวและน่ากังวลใจขึ้นทุกวันค่ะ โดยเฉพาะครั้งนี้เหยื่อเป็นเด็กที่อายุยังน้อย อาจจะหลงเชื่อและตกเป็นเหยื่อได้ง่าย

เรียบเรียงโดย : thaihitz.com ขอขอบคุณข้อมูลจาก สรยุทธ สุทัศนะจินดา กรรมกรข่าว