ร้านทองยังโอด ขายมา 60 ปี เพิ่งเคยเจอ บางวันขายได้ไม่พอแม้กระทั่งค่าไฟ

        จากสถานการณ์การแพร่ระบาดของเชื้อโรค ซึ่งยังคงมีความรุนแรงและไม่สามารถคาดการณ์ได้ว่าจะยุติเมื่อใด และส่งผลกระทบต่อเศรษฐกิจ ชีวิตความเป็นอยู่ของประชาชนเป็นอย่างมาก ไม่ว่าจะเป็นการทำงาน ทำมาหากินกันยากขึ้น การเงินรายได้ลดลง กระทบกันแทบทุกหย่อมหญ้า 

        ล่าสุด ทางด้านนายจิตติ ตั้งสิทธิ์ภักดี นายกสมาคมค้าทองคำ กล่าวว่า แนวโน้มราคาทองคำในประเทศ ยังจะปรับสูงขึ้นได้อีก หากเงินบาทอ่อนค่าลงต่อเนื่อง ซึ่งขณะนี้ใกล้ถึง 33 บาทต่อเหรียญสหรัฐ และมีโอกาสเงินบาทอ่อนค่าหลุด 33 บาทต่อเหรียญสหรัฐ ในสัปดาห์หน้า 

        ทั้งนี้ การที่ค่าบาทเปลี่ยนแปลงทุก 10 สตางค์ จะมีผลต่อราคาทองคำ 70-80 บาท ต่อ 1 บาททองคำ รวมถึงยังไม่มีปัจจัยบวก หรือลบต่อราคาทองคำโลก จึงต้องติดตามเรื่องอัตราแลกเปลี่ยนเป็นปัจจัยหลักที่มีผลต่อการปรับราคาซื้อขาย และยังมีโอกาสที่จะเห็นราคาทองในประเทศใกล้ 29,000 บาทได้ ซึ่งเงินบาทอ่อนค่าลงต่อเนื่องตั้งแต่เดือนมิถุนายนถึงกรกฎาคมนี้แล้วถึง 1,000 บาท 

        อย่างไรก็ตาม ขณะนี้ถือว่าการค้าขายทองคำย่ำแย่สุด การค้าจะเป็นการมาขายคืนมากกว่าซื้อใหม่ บางวันมียอดขายใหม่เหลือหลักหมื่นบาทเท่านั้น จากปกติการค้าเกินแสนบาทเป็นอย่างน้อย บางวันไม่มีการซื้อใหม่มีแค่ประชาชนนำทองมาขาย เพราะสภาพเศรษฐกิจไม่ดี แม้ก่อนหน้านี้มีประชาชนนำทองคำขายออกไปมากแล้ว เพราะราคาเคยขึ้นไปเกือบ 30,000 บาท

        ผมทำธุรกิจค้าทองมา 60 ปี ไม่เคยเจอสถานการณ์อย่างนี้ ถือว่าวิกฤตมาก ผู้ค้าในเยาวราชจะปิดร้านก็ไม่ได้ เพราะห่วงประชาชนที่ต้องนำทองมาขาย เพื่อมีเงินใช้จ่าย หากปิดต้องเจอบ่นด่ากันแน่ ทั้งๆ ที่ระบาดรอบนี้รุนแรง ผู้ค้าเองก็กลัวว่าเชื้อจากที่มีผู้เข้ามาใช้บริการ แต่การจะปิดก็เหมือนไม่ช่วยสังคม บางวันเราเกือบขายไม่ได้ เปิดก็ยังไม่พอค่าใช้จ่ายค่าไฟ ค่าแอร์ ค่าพนักงาน แต่ต้องทำเพราะทองคำเป็นทุนรอนยามยากจริง ๆ

        ต้องยอมรับเลยว่าวิกฤตกันทุกอาชีพจริงๆ ค้าขายทองก็ยังตกต่ำ เพราะว่าเศรษฐกิจแบบนี้ คนรายได้น้อยลงกำลังในการซื้อทองเก็บก็น้อยลงไปด้วย   

เรียบเรียงโดย : thaihitz.com