advertisement

สถาปนิกเป็นห่วง ธุรกิจร้านอาหารสร้างบ้านบนต้นไม้ควรคำนึงถึงความปลอดภัยด้วย


advertisement

        แหล่งท่องเที่ยวต่างๆ จะมีการสร้างจุดดึงดูดลูกค้า ไม่ว่าจะเป็นหน้าร้าน หรือว่าจุดนั่งชิลๆ จุดถ่ายภาพสวยๆ นอกจากจะสวยดึงดูดลูกค้าแล้วยังต้องคำนึกถึงความปลอดภัยของลูกค้าเลย ซึ่งเป็นสิ่งที่สำคัญเป็นอย่างมาก ล่าสุด ทางด้านเพจ สถาปนิก เพื่อสังคม ได้โพสต์ข้อคิดให้กับเจ้าของธุรกิจ โดยระบุว่า….         #การทำธุรกิจ ที่ใช้ความคิดสร้างสรรค์ ถือเป็นสิ่งที่น่ายกย่อง #แต่ความคิดสร้างสรรค์_กับความปลอดภัยต่อทุกชีวิต_ก็ต้องมีพร้อมกันเสมอ

​         จากข่าว โครงเหล็กยื่นขึงตาข่าย เพื่อให้คนลงไปนั่งเล่น ที่รีสอร์ทแห่งหนึ่ง เกิดพัง เมื่อมีคนลงไปนั่ง 5-6 คน จนได้รับบาดเจ็บสาหัส อย่างที่ไม่ควรเกิดขึ้น

​         ทำให้นึกถึง อาคารหลังนี้ ที่ผมได้ไปเห็นมาด้วยตนเอง และรู้สึกกังวลในสิ่งที่เห็นตั้งแต่แรกเลย #กรณีศึกษาที่จะนำเสนอนี้_ขอความกรุณาอย่าตำหนิเจ้าของร้าน #เพราะไม่ใช่วัตถุประสงค์_และไม่เกิดประโยชน์อันใดในการกล่าวโทษกัน ภาพทั้งหมด เป็นร้านกาแฟร้านหนึ่ง ในจังหวัดเชียงใหม่ ทางร้าน ได้สร้างอาคารโครงสร้างเหล็ก ผสมกับไม้ ในลักษณะเป็นบ้านต้นไม้ สูงขึ้นไป 3 ชั้น มีหลังคาคลุม เพื่อให้ลูกค้าได้ขึ้นไป รับบรรยากาศ ความรู้สึกผ่อนคลาย และ ชมวิว และแน่นอน เผื่อได้มีโอกาสบันทึกภาพสวยๆเก๋ๆ ในสถานที่แปลกตาเช่นนี้

​         ถือเป็นความคิดสร้างสรรค์ เป็นจุดดึงดูด นักท่องเที่ยว ได้อย่างดี แต่ ถ้าลองสังเกตดูให้ดี โครงสร้างหลักของอาคาร 3 ชั้นนี้ เป็นเพียงเสาเหล็กสี่เหลี่ยม ขนาดประมาณ 6 นิ้ว จำนวน 4 ต้นเท่านั้น ความกว้างของช่วงเสา เป็นรูปสี่เหลี่ยมจัตุรัส ล้อมต้นไม้อยู่ น่าจะประมาณแค่ 4 x 4 เมตร ประมาณนั้น


advertisement

​         จะขออธิบาย การถ่ายน้ำหนัก ตั้งแต่ชั้น 2 ชั้น 3 จนถึงหลังคา ดังนี้

​         #ที่ระดับชั้น2 จะมีส่วนที่เป็นพื้นยื่นออกมาจากเสาหลัก โดยรอบ เพื่อให้คนนั่งเล่นได้ ประเมินด้วยสายตา ส่วนที่ยื่น น่าจะมีระยะประมาณ 2 เมตร ( ประเมินจากความกว้างของแผ่นไม้กระดาน) ก็เท่ากับว่า ที่ระดับชั้น 2 นั้ เสาเหล็ก 4 ต้นนั้น ตัองรับน้ำหนักในส่วนของพื้นตรงกลาง 4 x 4 เมตร และยังต้องรับน้ำหนัก ของพื้นที่ยื่นออกไปโดยรอบ 2 เมตร ด้วยการทำค้ำยันถ่ายน้ำหนักจากปลายพื้นชั้น 2 เข้าที่เสา ในตำแหน่งใต้พื้นชั้น 2 เล็กน้อย ตามภาพ

​         #ที่ระดับชั้น3 ก็ยังคงมีส่วนที่เป็นพื้นยื่นออกมาจากเสาหลัก โดยรอบ และพื้นส่วนที่ยื่นนี้ ยื่นมากกว่าที่ชั้น 2 เสียอีก ประมาณด้วยสายตา น่าจะประมาณ 2.50 เมตร ( ประเมินจากความกว้างของแผ่นไม้กระดานเช่นกัน) ก็เท่ากับว่า ที่ระดับชั้น 3 นั้น เสาเหล็กทั้ง 4 ต้น ต้องรับน้ำหนักของพื้นตรงกลาง 4 x 4 เมตร และยังต้องรับน้ำหนักของพื้นที่ยื่นออกไปโดยรอบ 2.50 เมตร ด้วยการทำค้ำยัน ถ่ายน้ำหนักจากปลายพื้นชั้น 3 เข้าที่เสาบริเวณพื้นของชั้น 2 ตามในภาพ


advertisement

​         ที่สำคัญ ที่ระดับชั้น 3 นี้ มีราวลูกกรงเหล็ก พร้อมแผ่นไม้เป็นเหมือนเคาน์เตอร์ อยู่โดยรอบ ซึ่งก็มีน้ำหนักไม่ใช่น้อย ตามในภาพ #ถึงระดับหลังคา เสาเหล็กทั้ง 4 ต้นนั้น ก็ยังคงเป็นตัวรับน้ำหนักหลัก โดยปลายของหลังคา มีเสาเหล็กต้นเล็กๆ ถ่ายน้ำหนักลงตรงปลายพื้นชั้น 3 ซึ่งน้ำหนักส่วนนี้ ก็จะถ่ายไปตามค้ำยัน ไปลงที่ตำแหน่งเสาที่พื้นชั้น 2

​         #โครงสร้างบันได ส่วนหนึ่ง ก็มีเสารับน้ำหนักของตัวเอง อีกส่วนหนึ่ง ก็พาดถ่ายน้ำหนักเข้าที่แต่ละชั้นของอาคาร

​         #โครงสร้างทั้งหมดนั้น_ไม่ได้ถ่ายน้ำหนักเข้าสู่ต้นไม้ #เพราะมีการแยกขาดระหว่างโครงสร้างกับกิ่งและลำต้นตามในภาพ

​         จากประสบการณ์ในการก่อสร้าง เมื่อได้เห็นลักษณะโครงสร้างของอาคารหลังนี้ จนเกิดเป็นข้อสงสัยก็คือ

​         1 อาคารหลังนี้ มีการคำนวนความมั่นคงแข็งแรง ตามหลักวิศวกรรมหรือไม่

​         2 อาคารหลังนี้ ได้มีการตรวจสอบ จากเจ้าหน้าที่ ในพื้นที่หรือไม่

​         3 อาคารหลังนี้ สร้างมานานแค่ไหน เคยรองรับผู้คนพร้อมๆกันจำนวนมาก เท่าไหร่

​         4 อาคารหลังนี้ แม้จะยังทรงตัวอยู่ได้ ผ่านระยะเวลามาเท่าไหร่ก็ตาม รองรับผู้คนจำนวนมากเพียงใดแล้วก็ตาม แต่ จะสามารถเป็นสิ่งที่ยืนยันว่า มีความมั่นคงแข็งแรงปลอดภัยเพียงพอ สำหรับผู้มาใช้บริการในอนาคต หรือไม่

​         5 ปัจจัยภายนอกที่มากระทบ โดยที่ไม่มีใครอาจคาดคิด เช่น แผ่นดินไหว แรงลมกรรโชก พายุ สภาพความเปลี่ยนแปลงของดินใต้อาคาร หรือแม้กระทั่ง การมีผู้ขึ้นไปใช้อาคารพร้อมๆกัน จำนวนมาก เกินกว่าปกติ มีกิจกรรม เช่นการกระโดดโลดเต้น เกิดแรงสั่นเขย่า อาคารหลังนี้ จะยังทรงตัวอยู่ได้หรือไม่


advertisement

​         #คำถามที่สำคัญที่สุดก็คือ #เสาเหล็กทั้ง4ต้น_จะสามารถแบกน้ำหนัก_และแรงกระทำต่างๆได้แค่ไหน #เสาเหล็กทั้ง4ต้น_จะสามารถแบกรับความเสี่ยงต่างๆได้แค่ไหน

​         ยินดี เปิดรับข้อมูลความรู้ จากผู้มีความรู้เรื่องโครงสร้าง ทุกท่านนะครับ ไม่ว่าจะเห็นตรงกันหรือเห็นแย้ง กับการนำเสนอในโพสต์นี้

​         อย่างไรก็ตาม ทั้งหมดนี้ ไม่ได้ต้องการ ให้เกิดความเสียหายต่อธุรกิจของผู้ใด แต่ เป็นเพียงตัวอย่าง เป็นกรณีศึกษา ในการตั้งข้อสังเกต และข้อสงสัยในเรื่องความปลอดภัย ที่เพียงพอหรือไม่ สำหรับ ใครก็ตาม ที่พยายามหาความคิดสร้างสรรค์ ในการทำธุรกิจ ด้วยการสร้างอาคารรูปทรง ดึงดูดใจ ขอให้คำนึงถึง ชีวิตและความปลอดภัยของผู้คนให้มากที่สุด เสมอ อย่าให้เกิดเหตุ แล้วก็ได้แต่พูดว่า รู้เท่าไม่ถึงการณ์ … ถ้ารู้อย่างนี้ ก็จะไม่ทำอย่างนั้น … เพราะ เมื่อเกิดเหตุขึ้นมาแล้ว มันก็ไม่มีประโยชน์อะไรแล้ว ที่จะมาคิดได้ในตอนนั้น เพราะ การคิดและทำอะไรแบบมักง่าย กับการคิดและทำทุกอย่างอย่างดีที่สุด

​         หาก เกิดอุบัติเหตุ หรืออันตรายใดๆขึ้นมา ต่อผู้ที่มาใช้อาคารของเรา ร่องรอย ของที่มาทั้งสองแบบนั้น มันแตกต่างกัน อย่างเห็นได้ชัดเสมอครับ ด้วยความปรารถนาดีต่อผู้ประกอบธุรกิจ และด้วยความเป็นห่วงในทุกชีวิต

​         ไพโรจน์ จีรบุณย์ สถาปนิก เพื่อสังคม 18 มค 2563

​         #หมายเหตุ : หากมีวิศวกรท่านใด มีความประสงค์จะให้คำแนะนำกับเจ้าของร้านนี้ เพื่อให้มีความปลอดภัยในการใช้งานมากขึ้น สอบถามเข้ามาได้นะครับ จะแจ้งชื่อร้านและตำแหน่งที่ตั้งให้เป็นการส่วนตัว


advertisement

หวั่นอันตราย 

รับน้ำหนักไหวหรอ 

       การสร้างร้านหรือว่าจุดดึงดูดลูกค้าก็ต้องมาพร้อมความแข็งแรงคำนึกถึงความปลอดภัยของลูกค้าที่จะเข้ามาเที่ยวชมด้วย ฝากให้คิด

เรียบเรียงโดย : thaihitz.com ขอขอบคุณข้อมูลจาก สถาปนิก เพื่อสังคม


advertisement