advertisement

สธ.เผย 6 แนวทาง-ข้อห้าม เปิดเทอม ป้องกันโรคระบาดในโรงเรียน


advertisement

      วันที่ 20 พ.ค.63 กรมควบคุมโรค (คร.) กระทรวงสาธารณสุข (สธ.) ออกแนวทางการป้องกันและควบคุมโรคระบาดในโรงเรียน สถานศึกษา มีสาระสำคัญ 6 ประเด็น คือ


   
      1)เมื่อมีผู้ป่วยยืนยันติดเชื้อเกิดขึ้น ผู้สัมผัสเสี่ยงสูง หมายถึง ผู้สัมผัสใกล้ชิด โดยเป็นผู้เรียนร่วมห้อง ผู้นอนร่วมห้อง หรือเพื่อนสนิทที่คลุกคลีกัน ผู้ที่พูดคุยกับผู้ป่วยในระยะ 1 เมตรนานกว่า 5 นาที หรือถูกไอ จาม รดจากผู้ป่วยโดยไม่มีการป้องกัน เช่น ไม่สวมหน้ากากอนามัย ผู้อยู่ในบริเวณปิดไม่มีการถ่ายเทอากาศ เช่น ในรถปรับอากาศ ห้องปรับอากาศร่วมกับผู้ป่วย และอยู่ห่างจากผู้ป่วยไม่เกิน 1 เมตรนานกว่า 15 นาทีโดยไม่มีการป้องกัน

      2) การเตรียมสถานศึกษาก่อนเปิดภาคเรียน ต้องตรวจสอบห้องสุขา โรงอาหาร ให้มีอ่างล้างมือให้เพียงพอ อยู่ในสภาพดี พร้อมใช้งาน รวมถึงสบู่ล้างมือที่เพียงพอ จัดเตรียมอุปกรณ์ล้างมือ เช่น เจลแอลกอฮอล์ไว้บริเวณทางเข้าห้องเรียน และอาคารต่างๆ ที่มีการใช้งานร่วมกัน กำหนดจุดตรวจคัดกรองอาการป่วยบริเวณทางเข้าต่างๆ จัดสถานที่เพื่อเว้นระยะห่างระหว่างบุคคล เช่น การเข้าแถว การเข้าคิว การจัดที่นั่งเรียน การจัดที่นั่งรับประทานอาการ ทำสัญลักษณ์เพื่อเว้นระยะห่างระหว่างบุคคล จัดตารางเหลื่อมเวลาพักรับประทานอาหารกลางวัน สำหรับเด็กเล็กที่ยังต้องนอนกลางวัน หรือโรงเรียนในพื้นที่ห่างไกลที่มีโรงนอน ให้รักษารยะห่างระหว่างกันอย่างน้อย 1 เมตรไม่เอาศีรษะชนกัน และแยกอุปกรณ์เครื่องใช้เป็นของส่วนตัว ไม่ใช้ร่วมกัน กรณีเด็กป่วยให้หยุดอยู่บ้าน และกำหนดให้มีเจ้าหน้าที่รับผิดชอบการป้องกันควบคุมโรคของสถานศึกษา

      3) กิจกรรมการเฝ้าระวังและป้องกันโรคเมื่อเปิดการเรียนการสอน ให้ตรวจสอบการลาป่วยของนักเรียนและบุคลากรในโรงเรียน หากพบว่าผู้ป่วยมากผิดปกติให้รายงานเจ้าหน้าที่สาธารณสุขในพื้นที่ ให้มีการคัดกรองไข้และอาการทางเดินหายใจของนักเรียนและบุคลากรทั้งหมดบริเวณทางเข้าสถานศึกษาทุกวัน หากพบผู้ป่วยให้หยุดและไปพบแพทย์ หากพบว่ามีผู้มีไข้มากมากผิดปกติให้แจ้งไปยังหน่วยงานสาธารณสุขในพื้นที่ แจ้งผู้ปกครองที่บุตรหลานมีอาการ เช่น ไข้ ไอ จาม มีน้ำมูก เหนื่อยหอบ หรือกลับจากพื้นที่เสี่ยงและอยู่ในช่วงกักกันให้หยุดเรียน รวมถึงกำชับกรณีมีคนในครอบครัวป่วยโรคนี้หรือกลับจากพื้นที่เสี่ยง ให้ทำตามคำแนะนำเจ้าหน้าที่อย่างเคร่งครัด งดการจัดกิจกรรมรวมคน ทัศนศึกษา แข่งกีฬาสี เป็นต้น หากมีรถรับส่งนักเรียน เจ้าหน้าที่ต้องสังเกตอาการนักเรียนก่อนอนุญาตขึ้นรถ ให้สวมหน้ากากผ้า/หน้ากากอนามัยทุกคนระหว่างนั่งในรถ พยายามเปิดประตูหน้าต่างของห้องเรียน งดการเรียนในห้องแอร์ที่ไม่จำเป็น และตรวจตราผู้ประกอบอาหารของโรงเรียนให้ปฏิบัติตามสุขอนามัย [ads]

       4) การทำความสะอาดพื้นและพื้นผิวต่างๆ ทำทุกวัน อย่างน้อยวันละ 2 ครั้ง ใช้น้ำยาฆ่าเชื้อหรือน้ำยาซักผ้าขาวผสมสำหรับเช็ดพื้นผิว หรือแอลกอฮอล์ 70% เช็ดฆ่าเชื้อโรคของอุปกรณ์ต่างๆ ทำความสะอาดห้องสุขาด้วยน้ำยาอย่างน้อยวันละ 2 ครั้ง และกำจัดขยะอย่างถูกวิธีทุกวัน


advertisement

       5) เมื่อพบผู้ป่วยยืนยัน ให้ปิดชั้นเรียนที่พบผู้ป่วย เพื่อแยกนักเรียน นักศึกษา ทำความสะอาดสถานที่ที่ผู้ป่วยนั่งเรียนหรือใช้ประจำ สำรวจคัดกรองนักเรียนและบุคลากรทุกคนบริเวณทางเข้าโรงเรียนเรียนอย่างเคร่งครัด หากพบอาการไข้หรืออาการทางเดินหายใจให้นำส่งโรงพยาบาล ผู้สัมผัสกลุ่มเสี่ยงสูง เจ้าหน้าที่สาธารณสุขจะดำเนินการเก็บตัวอย่างทางเดินหายใจส่งตรวจหาเชื้อและให้แยกตัวอยู่บ้านเป็นเวลา 14 วัน ผู้สัมผัสกลุ่มเสี่ยงต่ำ แยกตัวอยู่ที่บ้านและรายงานอาการทุกวัน และทีมสอบสวนโรคทำการติดตามผู้สัมผัสทุกวันจนครบกำหนด 

       6) การแยกตัวอยู่บ้านของผู้สัมผัสไม่มีอาการ วัดไข้ทุกวัน หากพบอุณหภูมิสูงกว่าหรือเท่ากับ 37.5 องศาหรือมีอาการไอ เจ็บคอ มีน้ำมูก ให้โทรรายงานครูผู้รับผิดชอบ แยกของใช้ส่วนตัว ทุกคนในบ้านให้ล้างมือบ่อยๆ โดยเฉพาะหลังเข้าห้องน้ำหรือจับสิ่งของที่ใช้ร่วมกัน และห้ามออกจากบ้าน


advertisement

       ยังคงเป็นเรื่องที่ผู้ปกครองยังคงกังวลถึงความปลอดภัยของบุตรหลาน แต่การปิดเรียนเป็นเวลานานๆก็อาจจะกังวลว่าจะกระทบกับการเรียนรู้ของเด็กเช่นกัน

เรียบเรียงโดย : thaihitz.com 


advertisement