advertisement
นายเอกนิติ นิติทัณฑ์ประภาศ อธิบดีกรมสรรพากร เผยว่า ขณะนี้กฎกระทรวง ฉบับที่ 355 (พ.ศ. 2562) ออกตามความในประมวลรัษฎากร เพื่อกำหนดรายการข้อมูลเกี่ยวกับบุคคลที่มีธุรกรรมลักษณะเฉพาะที่ต้องรายงานและวิธีการรายงานได้เริ่มบังคับใช้วันที่ 24 ธ.ค. 2562 แล้ว ส่งผลให้สถาบันการเงินและผู้ให้บริการทางการเงินอีเล็กทรอนิกส์ (อีวอลเลต) จะต้องเริ่มจัดเก็บและรายงานข้อมูลธุรกรรมทางการเงินที่เกี่ยวกับบุคคลที่มีการฝากหรือรับโอนเงินทุกบัญชีรวมกันตั้งแต่ 3,000 ครั้งต่อปีขึ้นไป หรือ มีการฝากหรือรับโอนเงินทุกบัญชีรวมกันตั้งแต่ 400 ครั้งและมียอดเงินรวมกันตั้งแต่ 2 ล้านบาทต่อปีขึ้นไป มาให้กรมสรรพากรรับทราบ
ในส่วนข้อมูลปี 2562 ซึ่งเป็นปีแรก จะเริ่มมีการจัดเก็บข้อมูลบุคคลที่เข้าข่ายธุรกรรมลักษณะเฉพาะ ระหว่างวันที่ 24 – 31 ธ.ค. 2562 เท่านั้น และส่งให้สรรพากรภายในวันที่ 31 มี.ค. 2563 ส่วนการจัดเก็บข้อมูลธุรกรรมลักษณะเฉพาะในปีถัดไปจะเริ่มจัดเก็บข้อมูลตลอดทั้งปี ตั้งแต่ 1 ม.ค. – 31 ธ.ค. ของทุกปี และต้องรายงานมาให้กรมฯ รับทราบใรเดือน มี.ค. 2563
สำหรับข้อมูลที่ที่ต้องรายงานและวิธีการรายงานตามกฎกระทรวง มีดังนี้
– เลขประจำตัวประชาชน หรือเลขทะเบียนนิติบุคคล
– ชื่อ-สกุล ของบุคคลธรรมดา หรือชื่อนิติบุคคล ที่มีธุรกรรมลักษณะเฉพาะ
– จำนวนครั้งของการฝากหรือรับโอนเงินทุกบัญชีรวมกัน
– จำนวนเงินที่ฝากหรือรับโอนเงินทุกบัญชี
advertisement
– เลขที่บัญชีที่มีการฝากหรือรับโอนเงิน และข้อความอื่นที่อธิบดีกำหนด
advertisement
ก็เป็นเรื่องที่เกี่ยวเนื่องกับการจัดเก็บภาษี ซึ่งต่อไป กลุ่มบุคคลที่ค้าขายทางอินเทอร์เน็ต ก็จะต้องมีความรับผิดชอบในเรื่องของการเสียภาษีเพิ่มขึ้นมาค่ะ
เรียบเรียงโดย : thaihitz.com
advertisement