advertisement

หน้ากากอนามัยคนปกติไม่ต้องใส่ ให้ใส่เฉพาะคนที่ป่วยใส่


advertisement

       เป็นเรื่องที่ไม่เคยเกิดขึ้นในประเทศไทยเลยก็ว่าได้ สำหรับ การขาดตลาดของหน้ากากอนามัย และมีการโก่งราคาขึ้นกันในราคาที่แพงขึ้นหลายเท่าตัว ด้วยการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโควิด-19 ที่กำลังแพร่กระจายไปทั่วโลก ตอนนี้ประชาชนต่างกำลังวิตกกังวลกับสถานการณ์ดังกล่าวเป็นอย่างมาก หาซื้อหน้ากากอนามัยมาสวมใส่เพื่อป้องกันการติดเชื้อ จนตอนนี้หน้ากากอนามัยเริ่มขาดตลาด 

เชื้อไวรัสโควิด-19 

        ล่าสุด ทางด้านเพจ Sarikahappymen ได้ออมาเผยข้อมูลเกี่ยวกับหน้ากากอนามัย ทำให้เรารู้ว่าคนที่ไม่มีอาการไอ เป็นหวัด ไม่ควรจะซื้อมาใส่เพราะอะไร โดยระบุว่า….


advertisement

       สรุปจบมัดรวมเรื่อง mask

       เมื่อวันก่อน ผู้เชี่ยวชาญจากอเมริกาและ WHO เค้าออกมาพูดเกี่ยวกับเรื่องหน้ากากอนามัยว่าถ้าไม่จำเป็นไม่ต้องใส่ ยิ่งใส่ยิ่งอันตราย อะไรงี้ ทีนี้หลายคนก็เลยสับสนงงตัวเองว่าเอาไงดีกันแน่ฟะ

       ง่าย ๆ ละกันนะครับ

       เจ้าหน้ากาก 3 ชั้นเนี่ย หลักการจริง ๆ มันคือป้องกันเชื้อโรคออกมากกว่าเชื้อโรคเข้าครับ เพราะว่าปกติเชื้อโรคเนี่ยมันจะแพร่ได้จากการไอจามโดยมันจะเกาะไปกับพวกละอองน้ำมูก น้ำลายอะไรแบบเนี้ย และเจ้าหน้ากากอนามัยเนี่ย มันสามารถดักไว้ได้ ดังนั้นเค้าจึงแนะนำให้คนที่ป่วยหรือไม่สบายสวมซะ เพื่อที่จะได้ไม่ต้องพ่นเชื้อไปติดคนอื่น อันนี้คือหลักการเลยนะครับ


advertisement

       ซึ่งถ้าเป็นแบบนี้หคนที่ควรใช้จริง ๆ ตามทฤษฎีก็คือ

       1.คนเป็นหวัดหรือไม่สบาย คือใช้เมื่อตัวคนใส่ป่วย เกรงจะแพร่เชื้อทางละอองน้ำมูกเสมหะให้คนใกล้ชิด

       2.หมอหรือพยาบาลใส่ เมื่อจะทำการตรวจคนไข้หรือผ่าตัด เพื่อกันเลือดหนองสารคัดหลั่งแปดเปื้อนใบหน้า และ ป้องกันเชื้อโรคในละอองฝอยจากคนไข้ด้วยหลักคิดที่ว่าทุกคนที่มารพ.คือคนไม่สบาย หมอและพยาบาลมีโอกาสได้รับเชื้อสูง และถ้าป่วยขึ้นมาก็มีโอกาสแพร่ไปให้คนไข้คนอื่นอีกครับ

       ส่วนคนทั่วไปที่ไม่ได้สัมผัสดูแลผู้ป่วยใกล้ชิด และตัวเองไม่ได้ป่วย ไม่ต้องใส่ครับ ซึ่งถ้าทุกคนทำได้แบบนี้ คนป่วยทุกคนมีความรับผิดชอบตัวเอง ไม่สบายก็หยุดหรือสวมหน้ากากกันไปติดคนอื่นแบบนี้ ปัญหาการขาดแคลนหน้ากากจะแทบไม่มีเลยนะครับ

       แต่ ๆๆ อย่าลืม เราอยู่ในประเทศที่คนไปเมืองนอกต้องพกแป้งมันไปด้วยนี่สิครับ

       เท่าที่เห็นทุกวันนี้คือคนสบายดีคือคนที่ใส่หน้ากาก ส่วนคนไม่สบายนี่เดินชิล ไอไปทุกที่ จามไปทุกแห่งแบบนี้ ดังนั้นหน้ากากมันก็เลยจำเป็นครับ เพราะอย่างน้อยมันก็สามารถกันเราจากพวกที่ไอไม่รู้สีรู้แสดได้ครับ

       ดังนั้น อันนี้ก็เลยเป็นคำแนะนำจากแอดเองละกันนะครับ ในฐานะผู้เชี่ยวชาญ WOT ก็ได้ คือ เราควรใส่หน้ากากอนามัยเมื่อ

       1.ใส่เมื่อเป็นหวัด

       2.ใส่เมื่อเข้าใกล้คนเป็นหวัด

       3.เพิ่มคือใส่เมื่อเข้าไปในที่แออัดหรือที่ไม่ค่อยมีการระบายอากาศครับ เช่นรถเมล์ รถไฟฟ้า ห้องประชุม เครื่องบินไรงี้ เพราะว่าเราไม่รู้หรอกว่าใครป่วยหรือใครไปไหนไปสัมผัสอะไรมาบ้าง จะให้ระวังโดยถอยห่างเมตรนึงทุกที่ก็ยาก อย่างรถไฟฟ้าเบียดจนแทบจะสิงกันอยู่แล้วเงี้ย ดังนั้นถ้าพอมีกำลังหาได้ก็ใส่ไปเหอะครับ เสียตังค์ฉีดฟิลเลอร์โบท๊อกซมากกว่านี้เสียได้ ขนาดฉีดก็ยังนก ไม่ได้ผลก็ยังเสีย อันนี้คิดซะว่าเพื่อชีวิตเราเองละกันครับ คุ้ม

       และสุดท้ายที่สำคัญไม่แพ้การใส่หน้ากากเลย แถมง่ายและประหยัดกว่าด้วย คือการล้างมือบ่อย ๆ ครับ มีเจลใช้เจล ถ้าไม่มีใช้สบู่ไปก็ได้ อันนี้ช่วยได้เยอะเลยนะครับ เพราะเชื้อโรคมันสามารถเกาะตามพื้นผิวสิ่งของได้นาน และเราก็อาจไปสัมผัสมันมาเมื่อไหร่ก็ได้ โดยเฉพาะเอามือไปจับหน้า ตา จมูก ปากไรงี้ ยิ่งติดกันง่าย ๆ เลยครับ ดังนั้นล้างมือบ่อย ๆ ครับ จะทำให้เราสามารถป้องกันการแพร่กระจายของเชื้อได้ดีมากเลยครับ

       เขียนขนาดนี้ ถ้ายังมาถามแอดอีกว่าสรุปเอาไงดี ตอบนอนเอาละกันครับ บางทีก็นั่ง จบ สวัสดีครับ


advertisement

       ก็เป็นข้อมูลดีๆ เกี่ยวกับการใส่หน้ากากอนามัยมาฝากกัน ไม่ได้เป็นหวัดเป็นไอ ไม่จำเป็นต้องใส่ตลอด ใส่เฉพาะตอนอยู่ใกล้คนเป็นหวัดไม่สบาย และตอนที่ออกไปในที่สาธารณะแออัดเท่านั้น ปลอดภัยไว้ก่อน

เรียบเรียงโดย : thaihitz.com ขอขอบคุณข้อมูลจาก Sarikahappymen


advertisement