advertisement

หนุ่มติดเชื้อโควิด-19 เล่าประสบการณ์ ไม่มีไข้ รู้สึกอาการเหมือนภูมิแพ้อากาศกำเริบ


advertisement

       เป็นเรื่องราวที่ถูกแชร์อยู่ในทวีตเตอร์เป็นจำนวนมาก สำหรับ เรื่องราวจากผู้ทวีตเตอร์ @LinZhiping47 ที่เป็นผู้ติดเชื้อโควิด-19 ออกมาแชร์ประสบการณ์การติดเชื้อที่ไม่มีการแสดงอาการ นึกว่าตัวเองเป็นภูมิแพ้ธรรมดา โดยได้โพสต์ระบุว่า….

       (1) เริ่มจากสงสัยว่าภูมิแพ้อากาศน่าจะกำเริบ(ซึ่งภูมิแพ้อากาศที่เคยเป็นจะมีอาการครั่นเนื้อครั่นตัว ไม่มีไข้ มีเสมหะ มีน้ำมูก คัดจมูกและหนักหัว)รอบนี้มีอาการข้างต้นทั้งหมด ยกเว้นอาการหนักหัว

       (2) แถมยังมีอาการเพิ่มเติมคือ อยู่ๆก็เสียงแหบ มีไอบ้าง แต่ไม่เจ็บคอ กินยาแก้ภูมิแพ้+ฆ่าเชื้อแล้วก็รู้สึกดีขึ้นแต่ไม่ 100% (ซึ่งปกติจะ100%เลย)

       (3) ตอนแรกไปหาหมอที่รพ.ประกันสังคมที่สังกัดอยู่ คุณพยาบาล ณ จุดคัดกรองไม่จัดให้ผมเป็นบุคคลที่มีความเสี่ยงเพราะไม่มีไข้และไม่ได้กลับมาจากประเทศเสี่ยง (เกณฑ์รพ.ตอนนั้น) ทั้งๆที่บอกแล้วว่าขึ้นแอร์พอร์ตลิ้งจากสนามบินทุกวันและทำงานอยู่ทองหล่อ

       (4) สุดท้ายคุณหมอวินิจฉัยว่าเป็น ‘คออักเสบเฉียบพลัน’ ไม่ได้เอ็กซเรย์ ไม่ได้ตรวจสารคัดหลั่ง แต่ได้ยาพารามา 2 แพค กับยาแก้เจ็บคอ

       (5) 7 วันผ่านไปอาการไม่ดีขึ้น+ที่ทำงานมีคนติดเชื้อแล้ว เลยตัดสินใจไปตรวจอีกครั้งที่รพ.เอกชนแห่งหนึ่งแถวที่ทำงาน โดยใช้โค้ดของคนที่ติดเชื้อนั่นแหละมาขอตรวจฟรี จนท.ก็มาเอ็กซเรย์ คุณหมอก็มาซักประวัติ แล้วก็เอาไม้มาแยงจมูกกับลำคอ

       (6) คุณหมอเสนอให้แอดมิททันที เพราะอยู่ใกล้ชิดผู้ติดเชื้อ แถมอาการส่วนใหญ่คล้ายคนติดเชื้อ แต่พอเจอค่าห้องคืนละเกือบหมื่น แล้วบอกไม่ได้ว่าต้องอยู่กี่คืน ประกันสุขภาพที่มีก็ครอบคลุมค่าห้องไม่หมด เลยตัดสินใจกักตัว ที่บ้านแทน

       (7) สรุปโดนไป 7,000 บาท ค่าตรวจโควิดอะฟรีจริง แต่มีค่าเอ็กซเรย์ ค่ายา(ตามอาการ) ค่านู่นนี่นั่นอีก แต่ผมไม่มีเงินจ่าย เพราะเข้าใจว่าตรวจฟรี เลยขอติดเงินรพ.ไว้ก่อน (ต้องขอโทษรพ.ด้วยครับ)


advertisement

       (8) 5 วันถัดมา รพ.เอกชนโทรมาแจ้งว่าผลเป็น positive จากนั้นทางรพ.ก็ประสานงานไปยังรพ.สังกัดประกันสังคมให้ สุดท้ายเตียงเต็ม ตอนนั้นมืดแปดด้านเลย โชคดีที่ได้พี่ตัวแทนประกันชีวิต #AIA ที่ผมทำประกันไว้ กับแก ไฝว้หน่วยงานนู้นนี้ให้จนเรื่องเดินเร็วมาก

       (9) เย็นวันนั้นมีจนท.จากศูนย์เอราวัณโทรมาบอกว่าได้เตียงแล้วที่รพ.สนามแห่งหนึ่ง (ขอขอบคุณกทม.ด้วยครับ) ให้เตรียมเสื้อผ้ามาด้วย เพราะรพ.ไม่มีให้ . .. คืนนั้นเองก็มีรถ ambulance เปิดไซเรนมารับถึงบ้าน ผมก็นั่งรถไปกับจนท.ใส่ชุดอวกาศ 3 คน

       (10) ตอนมาถึงรพ.บรรยากาศเงียบมาก ไม่มีคนเลย จนท.เลยเดินไปส่งที่ห้องพัก โดยห้ามเดินออกนอกเส้นสีแดงที่ทางรพ.ตีเอาไว้ . .. ส่วนห้องที่ผมได้เป็นห้องเดี่ยว สภาพดี เหมือนรพ.เอกชนเลย แต่อยู่ที่นี่ต้องซักผ้าเอง ของทุกอย่างใช้แล้วทิ้งหมด ยกเว้นเสื้อผ้า [ads]

       (11) เรื่องอาหารการกิน คุณพยาบาลจะวางไว้ให้หน้าห้องวันละ 3 เวลา วันไหนมีคนมาบริจาคอาหารที่รพ.ก็ได้กินดีหน่อย เช่น บะหมี่หยกเป็ดย่างเอ็มเค ยาโยอิ

       (12) อย่างเมนูนี้ก็ได้รับเกียรติเป็นมื้อกลางวันมา 5 วันติดแล้ว โซเดียมเอย อะไรเอย สุดท้ายเลยให้ที่บ้านเอาปลากระป๋อง นม ผลไม้มาให้ (ดรอปไว้หน้าตึก)

       (13) จากที่คุยกับคุณหมอ เนื่องจากเชื้อตัวนี้ยังไม่มียารักษา ดังนั้นวิธีการรักษาคือรักษาตามอาการ ปวดหัวก็พารา มีไข้ก็ยาลดไข้ ไอก็ยาแก้ไอ ของผมมียาติดมาจากรพ.เอกชนที่ไปตรวจมาอยู่แล้ว คุณหมอเลยไม่ได้จัดยาเพิ่มให้

       (14) ที่นี่จะไม่ได้เจอหน้าคุณหมอหรือพยาบาลแบบตัวต่อตัว เค้าใช้วิดีโอคอลเอา ที่สำคัญเราต้องคอยวัดอุณหภูมิร่างกายตัวเองแล้วไลน์แจ้งคุณพยาบาลวันละ 5 เวลาอีกด้วย อันนี้สนุกมาก ! ได้ฝึกความตรงต่อเวลา รอบแรก 6 โมงเช้านะครับ 55+

       (15) เว้นแต่การเอ็กซเรย์ปอด ที่จะมีคุณพยาบาลเข้ามาสแกนปอดถึงในห้อง(คืนเว้นคืน) วันถัดมาคุณหมอจะวิดีโอคอลมารายงานผลตอนแรกผลเอ็กซเรย์ของผมพบว่าเชื้อลงปอดไปนิดนึง แต่คุณหมอยังไม่ให้ยาอะไรเพราะ ไม่มีอาการอะไรน่าเป็นห่วง 2วันให้หลังปอดก็กลับมาเป็นปกติ เพราะร่างกายขจัดไวรัสออกไปเอง

       (16) ตอนนี้อยู่รพ.มา 10 วันแล้วครับ (ต้องอยู่ให้ครบ 14 วัน) ตอนนี้สิ่งที่ข้องใจผมมากคือ คุณหมอทุกคนที่ตรวจบอกว่าจะไม่มีการเทสแลปรอบสองว่าผลเป็น negative รึยัง เพราะผลเอ็กซเรย์ปอดไม่มีเชื้อแล้ว แปลว่าร่างกายสร้างภูมิได้แล้ว

       (17) อีกอย่างต้องสำรองน้ำยาให้คนที่เสี่ยงจริงๆ อันนี้เข้าใจได้เพราะทรัพยากรมีจำกัด (ทั้งๆที่ไม่อยากเข้าใจ ที่จริงทุกคนในประเทศนี้ควรได้ตรวจด้วยซ้ำ) แต่แอบสงสัยว่าทำไมส่วนใหญ่ผู้ป่วยที่นอนรพ.เอกชนบางที่ได้ตรวจ รอบสองกัน เหลื่อมล้ำดีจังประเทศนี้ เป็นเพราะนอนรพ.รัฐหรอถึงไม่ได้ตรวจ ?

       (18) สำหรับสาเหตุที่ติดเชื้อ ไม่ทราบเหมือนกันครับว่าติดมาตั้งแต่ตอนไหน เพราะผมเองใส่หน้ากากมาตลอดตั้งแต่กลางมกราเลย เพียงแต่อยู่ในพื้นที่เสี่ยงตลอด

       (19) ขอย้ำอีกทีครับว่า ทั้งหมดที่เล่ามานี้ ‘ไม่เคยมีไข้เลย’

       ขอบคุณสำหรับทุกกำลังใจครับ ผมอ่านทุกข้อความ แต่ขอโทษด้วยครับที่ไม่ได้ตอบทั้งหมด “


advertisement

        ผู้ที่ติดเชื้อโควิด-19 อาการของแต่ละคนไม่เหมือนกัน บ้างคนแสดงอาการชัดเจน บางคนไม่แสดงอาการเลยก็มี ฉะนั้นเราต้องระวังกันให้มากยิ่งขึ้น ป้องกัน ล้างมือ สังเกตอาการตัวเองด้วยนะครับ 

เรียบเรียงโดย : thaihitz.com ขอขอบคุณข้อมูลจาก @LinZhiping47


advertisement