อุทาหรณ์ เป็นครูแล้วกู้ทุกอย่าง สุดท้ายมีทุกอย่างยกเว้นเงินในบัญชี

        ปัจจุบันปัญหาหนี้สินครูอยู่ในขั้นวิกฤต โดยจากสถิติพบว่ามีครูกว่า 4 แสนราย หรือคิดเป็น 80% จากครูทั่วประเทศ มีหนี้จำนวนมาก เฉลี่ยแล้วมีหนี้รายละไม่ต่ำกว่า 3 ล้านบาท เลยทีเดียว โดยสาเหตุที่ทำให้เกิดปัญหาหนี้สินครู ส่วนหนึ่งเกิดจากค่าครองชีพที่สูงขึ้น จากการที่มีความต้องการปัจจัยสี่ เรื่องค่าใช้จ่ายในครอบครัว และความไม่มีวินัยของครู และความไม่มีวินัยของสถาบันการเงิน 

       ล่าสุด ทางด้านผู้ใช้เฟสบุ๊ก ติวเตอร์หนิง ศศิ  ได้ออกมาเล่าประสบการณ์ในการกู้เงิน กู้ทุกอย่างเพราะความอยากมีสุดท้ายเป็นหนี้เยอะ เผื่อเป็นอุทาหรณ์ให้กับข้าราชการทุกคน โดยระบุว่า…. 

      ย้อนกลับไปเมื่อหลายปีก่อน เราเป็นข้าราชการตัวน้อยๆ ที่กู้ทุกอย่าง มีบ้าน มีรถ มีหนี้ มีทุกอย่างยกเว้นเงินในบัญชี ขายรองเท้ามือสอง ขายออนไลน์ทุกอย่าง เพื่อให้มีเงินพอเลี้ยงลูก มาล้มหนักๆ เลย คือ ทำร้านหมูกะทะแล้วเจ๊ง 

        สอบติดหลายกรม เปลี่ยนงานบ่อย ค่าเช่าห้อง ค่าเดินทาง คือ เงินไม่พอจะกิน  เล่นแชร์ก็โดนโกงแชร์ ชักหน้าไม่ถึงหลัง ยืมเงินคนอื่นไปทั่ว เงินดอกแพงๆ ก็ยืม ทั้งหมดมาจาก #ความอยากได้อยากมี #อยากตั้งตัวเร็วแบบไม่มีสติ และคำพูดนี้ค่ะ ที่ทำให้คนที่บรรจุรับราชการ Yen เรา มีหนี้เยอะ 

        ไม่กล้าเป็นหนี้จะได้ของเหรอ? 

        รีบเป็นหนี้ตอนอายุน้อยน่ะดีแล้ว จะได้มีแรงหา แก่ไปก็สบาย นี่บอกเลย No จ๊ะ สังเกตข้าราชการยุคใหม่สิ เด็กๆ ไม่กู้เงินกันเลย ซึ่งเป็นเรื่องที่ดีมาก ค่ะ เราขอบอกเลย ไม่จำเป็นต้องมีรถยนต์เลยค่ะ มันสะดวกสบาย แต่มันไม่สบายกระเป๋าตังค์คุณนะคะ ค่าใช้จ่ายที่ตามมาก็เยอะ เอาไว้พร้อมจริงๆ ค่อย ซื้อ

        อย่าใช้ชีวิตให้ถูกใจป้าข้างบ้านค่ะ คุณจะไปซื้อของทุกอย่าง เป็นหนี้ทุกอย่าง เพียงเพราะให้ป้าข้างบ้านมองว่าคุณ ประสบความสำเร็จนั้น เป็นเรื่องที่เป็นไปไม่ได้ เพราะป้าข้างบ้านจะไม่มีวันหยุดวิพากย์วิจารณ์ ชีวิตคุณแน่นอน 

        นกน้อยทำรังแต่พอตัวค่ะ ขึ้นชื่อว่าบ้าน ถ้าคนในครอบครัวมีความสุขจะหลังเล็ก แค่ไหน มันก็คือ บ้านในฝัน ความสุขแท้จริง ไม่ได้อยู่ที่บ้านหลังใหญ่แค่ไหน มันอยู่ที่คนในบ้านต่างหาก [ads]

        อย่าลืมว่า สังคมไทย ไม่ให้ค่าคนที่ล้มนะคะ เค้าพร้อมเหยียบเสมอ เราเป็นหนี้มาก่อน ยืมเพื่อนมาเยอะ เรื่องนินทา นี่โดนอยู่แล้ว ต่อให้ใช้หนี้คืนแล้ว เค้าก็พูดต่ออยู่ดี พอมีปัญหาเรื่องเงิน #เราจะกลายเป็นขี้ไปทันที เพราะเราไปยืมเค้า อันนี้ต้องทำใจยอมรับด้วยนะ ว่าเราทำเค้าลำบากใจจริงๆ เค้าจะว่าก็ไม่แปลก  

        อย่าคิดว่าเหนื่อยตอนนี้ สบายตอนแก่เลยค่ะ เพราะเราเรียนรู้แล้วว่า ควรอยู่กับปัจจุบัน เรามีสิทธิ์จะสบายได้ในทุกช่วงเวลาของชีวิตค่ะ วางแผนอนาคตก็ดี แต่อย่าลืมว่า คุณไม่ได้อายุ 30 ตลอดไป อายุ 60 ปี อาจไม่มีจริง ใช้ร่างกายหนักขนาดนี้ เราอาจตายตั้งแต่อายุ50 ปีก็ได้ ใครจะไปรู้ จริงมั้ยคะ? 

        กว่าเราจะรีเซ็ทชีวิตได้ ไม่ใช่เรื่องง่ายนะคะ เรามีวินัยในการใช้หนี้มาก ช่วงแรกๆๆ หาเงินได้ #หมูกะทะเราก็ไม่กล้ากินเราเอาไปใช้หนี้อย่างเดียว 

        #เปิดติวช่วงแรกๆเรานอนในปั๊มน้ำมันอาบน้ำในปั๊มเพื่อเก็บเงินใช้หนี้ เราน่ะ สุดจริง เรายอมรับว่าเราล้ม และเราจะแก้ไขมันด้วย 2 มือของเรานี่ล่ะ ใครกำลังเป็นแบบเราเมื่อก่อน เราแนะนำให้จัดลำดับความสำคัญหนี้ก่อนค่ะ จะใช้เงินคืนใครก่อน อย่าสร้างหนี้เพิ่ม มีอะไรคุยกับเจ้าหนี้ตรงๆ เค้าด่าก็ต้องยอมไปก่อน ผ่อนจ่ายเรื่อยๆ เดี๋ยวก็หมด 

        สู้ๆ นะคะ วันหลังจะมาเขียนบทความ การใช้หนี้ เราน่ะ อายุน้อย ร้อยล้านหนี้ กว่าจะใช้หนี้หมด เราใช้เวลา 2 ปีเต็มๆ อ่ะคิดดู  ฝากไว้สุดท้ายสิ่งใดเกิดขึ้นไปแล้ว มันย้อนกลับมาแก้ไขไม่ได้  เราต้องเรียนรู้ และค่อยๆ แก้ปัญหาไป อย่าทำผิดพลาดซ้ำๆซากๆ กับเรื่องเดิมๆอีก 

        ชีวิตก็งี้แหละค่ะ คนไม่สู้คือคนที่ตายแล้ว เท่านั้น ตราบใดที่ยังหายใจ ก็ต้องสู้กันต่อไปนั่นล่ะ  

        เป็นประสบการณ์ที่ต้องบอกเลยว่าเป็นอุทาหรณ์ให้กับข้าราชการทุกสายเลย ในการกู้เงินต่างๆ มีสิทธิ์กู้เยอะแต่ต้องกู้อย่างมีสติ กู้เท่าที่จำเป็น กู้มาแล้วทำให้เกิดประโยชน์เพิ่มพูนขึ้น แต่ถ้ากู้มาแบบ ของมันต้องมีแบบนี้ก็ไม่ไหว 

เรียบเรียงโดย : kaijeaw.com ขอขอบคุณข้อมูลจาก ติวเตอร์หนิง ศศิ