advertisement

อ.เจษฎา เผย การบังคับใส่แมสซ์บนรถยนต์ส่วนตัว ทำไมจึงเป็นเรื่องบ้าบอ


advertisement

       จากกรณีที่ กทม. ได้ออกประกาศ ให้ประชาชนในพื้นที่กรุงเทพมหานคร สวมหน้ากากอนามัย หรือหน้ากากผ้าทุกครั้งที่ออกนอกเคหสถาน ผู้ฝ่าฝืนไม่สวมหน้ากากอนามัย หรือหน้ากากผ้า ตลอดเวลาเมื่อออกจากบ้านหรืออยู่ในที่สาธารณะ มีความผิดตามมาตรา 51 ของ พ.ร.บ.โรคติดต่อ พ.ศ. 2558 ต้องระวางโทษปรับไม่เกิน 20,000 บาท เริ่มมีผลบังคับใช้ตั้งแต่วันที่ 26 เม.ย. 64

        ล่าสุด อาจารย์เจษฎา เด่นดวงบริพันธ์ อาจารย์ประจำภาควิชาชีววิทยา คณะวิทยาศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ได้ออกมาค้านถึงเรื่องการให้สวมใส่หน้ากากอนามัย ขณะอยู่ในรถยนต์ส่วนตัว พร้อมระบุว่า…

        "บอกเลยว่า "การบังคับใส่หน้ากากอนามัยในรถยนต์ทุกคน แม้คนในครอบครัว" เป็นระเบียบที่บ้าบอมาก ไม่อยู่บนพื้นฐานวิทยาศาสตร์การแพทย์อะไร อาศัยแค่ความหวาดกลัวกันจนเกินเหตุ หาเรื่องให้คนโดนจับโดนปรับแบบไม่เข้าเรื่อง

        คือถ้าเป็นรถยนต์สาธารณะ รถเมล์ รถแท็กซี่ การใส่หน้ากากอนามัยขณะอยู่บนรถ มันก็ช่วยลดการแพร่ระบาดจากคนหนึ่งไปยังอีกคนหนึ่งได้ เพราะยังไงก็อาจจะมีการคุยกันบนรถ (คนขับ-ผู้โดยสาร) ซึ่งเป็นพื้นที่ปิด อากาศไม่ถ่ายเท เป็นเวลานานๆ ก็พอจะรับเชื้อไวรัสเข้าไปในตัวได้เยอะ (ถ้าไม่ใส่หน้ากาก) จนอาจเป็นโรคได้

        แต่ถ้าเป็นคนรู้จักกัน คนครอบครัวเดียว ถ้าจะติดโรค มันติดกันตั้งแต่ที่บ้าน ที่ทำงานแล้วครับ ไม่ใช่จะมาติดแค่ตอนนั่งบนรถด้วยกัน

        นโยบายแบบเข้มๆ เท่ๆ แต่ไม่ได้เรื่อง … เหมือนสมัยห้ามครอบครัวเดียวกัน กินข้าวในร้านอาหารโต๊ะเดียวกัน (หรือต้องมีฉากกั้น) ซึ่งโรคโควิดมันติดต่อผ่านระบบทางเดินหายใจนะ จะติดเชื้อ ก็ติดตั้งแต่ที่บ้านแล้ว ไม่ใช่ที่ร้านอาหาร

        ผ่านมาปีกว่าแล้ว ความรู้เรื่องเชื้อโรคไวรัสโควิดของชาวโลกเค้าพัฒนาไปไกลมาก แต่บ้านเราเหมือนถอยหลังลงทุกทีๆ …. ไปกินน้ำมะนาวป้องกันโควิดดีกว่า (ประชด )


advertisement

        ปล. แล้วใส่หน้ากากอนามัยขับรถเนี่ย ถ้าเป็นหน้ากากแบบแน่นๆ กระชับหน้า ขับรถเป็นระยะทางไกลๆ ระวังมีปัญหาเรื่องการหายใจ จะได้รับออกซิเจนน้อยลงแล้วทำให้อันตรายในการขับขี่นะครับ (ปรกติ ขับรถระยะไกล ยังต้องคอยเปิดกระจกรับออกซิเจนในรถเพิ่มเลย)"


advertisement

        นี่ก็เป็นอีกหนึ่งประเด็นที่หลายคนแสดงความคิดเห็นว่าเป็นการออกกฎหมายที่ลืมถึงหลักความเป็นจริง ซึ่งก็เป็นเรื่องที่ต้องพิจารณากันต่อไป

เรียบเรียงโดย : thaihitz.com ขอขอบคุณข้อมูลจาก  Jessada Denduangboripant


advertisement