advertisement

เผยความรู้ ไอบูโพรเฟน ยาแก้ปวด ลดไข้ ใช้อย่างไรให้ปลอดภัย


advertisement

     คงเป็นยาสามัญที่เรารู้จักกันเป็นอย่างดีค่ะ สำหรับยากลุ่มไอบูโปรเฟน ที่สามารถลดอาการปวด อักเสบ ปวดท้องประจำเดือน ปวดศรีษะ หรือปวดเมื่อยกล้ามเนื่อต่างๆ เรียกได้ว่าเป็นยาที่ใช้บรรเทาหลายๆอาการที่หลายคนมักจะมีติดบ้าน

      ไอบูโพรเฟน (Ibuprofen) เป็นยาต้านการอักเสบที่ไม่ใช่สเตียรอยด์ หรือยาในกลุ่ม NSAIDs โดยไอบูโพรเฟนจะอยู่ในรูปแบบเม็ดยา ขนาด 200 มิลลิกรัม และขนาด 400 มิลลิกรัม นอกจากยังมีในรูปแบบยาน้ำ ขนาด 100 มิลลิกรัม/5 มิลลิลิตร และแบบเจล สำหรับทาภายนอก

     สรรพคุณของไอบูโพรเฟนมีมากมาย อาทิ ลดอาการอักเสบ ลดปวดในระดับเล็กน้อยถึงปานกลาง สามารถใช้ลดไข้ แก้ปวดประจำเดือน ปวดไมเกรน หรือบรรเทาอาการปวดจากข้ออักเสบ และอาการปวดเมื่อยเนื้อตัวจากการออกกำลังกายได้ เพราะยาไอบูโพรเฟนจะไปยับยั้งการสร้างสารพรอสตาแกลนดิน (prostaglandins) ที่ทำให้เกิดอาการปวดและอักเสบ

      ความแตกต่างระหว่าง ไอบูโพรเฟน พาราเซตามอล และแอสไพริน คือ ยาทั้ง 3 ชนิดเป็นยาแก้ปวดเหมือนกัน แต่พาราเซตามอลจะเป็นยาแก้ปวดที่มีฤทธิ์ระงับอาการปวดอ่อนๆได้ดี ลดไข้ได้ ไม่ระคายเคืองกระเพาะอาหาร จัดเป็นยาแก้ปวดที่มีความปลอดภัย สามารถซื้อกินเองได้ แอสไพริน จะเป็นยาแก้ปวดที่มีสรรพคุณคล้ายพาราเซตามอล แต่จะออกฤทธิ์ต่ออาการบวมได้ดีกว่า ป้องกันภาวะแทรกซ้อนของหลายโรคได้ มีผลข้างเคียงจากการใช้ยามากกว่าพาราเซตามอล เช่น เลือดออกในระบบย่อยอาหาร เป็นต้น และไม่ควรใช้กับผู้ป่วยโรคไข้เลือดออก ผู้ป่วยที่มีภาวะเลือดออกผิดปกติ

        ส่วนไอบูโพรเฟน เป็นยาแก้ปวดที่มีฤทธิ์แรงกว่าพาราเซตามอล ใช้ระงับอาการปวดระดับปานกลางถึงรุนแรงได้ และยังมีสรรพคุณแก้อาการอักเสบได้ดีกว่า แต่ยาชนิดนี้จะมีฤทธิ์กัดกระเพาะ ดังนั้นควรรับประทานหลังอาหารทันที


advertisement

        การใช้ไอบูโพรเฟนให้ปลอดภัย


advertisement

        – เด็กอายุต่ำกว่า 12 ปี รับประทานครั้งละ 10 มิลลิกรัม ต่อน้ำหนักตัว 1 กิโลกรัม

        – ผู้ใหญ่รับประทานครั้งละ 400 มิลลิกรัม

        – กินตามน้ำหนักตัว แต่ไม่เกิน 2,400 มิลลิกรัมต่อวัน

        หากยังมีอาการปวดอยู่ แต่ลืมกินยา ให้กินยาทันทีที่นึกได้ หรือถ้าใกล้ถึงเวลากินยารอบต่อไปแล้ว ก็ให้ข้ามมื้อที่ลืมไปได้เลย แล้วกินยาตามรอบปกติ โดยไม่ต้องเพิ่มขนาดยา อย่างไรก็ตาม สิ่งสำคัญคือ ควรกินยาไอบูโพรเฟนหลังอาหารทันที และให้ดื่มน้ำตามมากๆ เพราะยาอาจระคายเคืองกระเพาะอาหารได้ [ads]

          ผลข้างเคียงของยาไอบูโพรเฟน มีดังนี้

          – ปวดท้อง โดยเฉพาะผู้ที่มีแพ้ในกระเพาะอาหาร

          – คลื่นไส้ อาเจียน

          – บวมตามแขน ขา โดยเฉพาะผู้มีภาวะไตบกพร่อง

         ข้อควรระวังในการกินยาไอบูโปรเฟน

         – ห้ามกินยาตอนท้องว่าง เพราะอาจก่อให้เกิดการระคายเคืองในกระเพาะอาหาร

         – ห้ามใช้ยานี้กับผู้ที่มีประวัติแพ้ยาไอบูโพรเฟน หรือยาในกลุ่ม NSAIDs

         – ห้ามใช้ยาที่หมดอายุ

         – ระวังการใช้ยานี้กับผู้ป่วยไข้เลือดออก เพราะไอบูโพรเฟนเป็นยาที่มีผลยับยั้งการจับกลุ่มเกาะตัวกันของเกล็ดเลือด ซึ่งอาจทำให้ผู้ป่วยไข้เลือดออก มีภาวะเลือดมากขึ้น จนเกล็ดเลือดในร่างกายต่ำลงถึงจุดที่อันตรายต่อชีวิต

         – ระวังการใช้ยานี้กับผู้ที่มีโรคประจำตัว เช่น โรคหอบหืด โรคไต โรคตับ โรคหัวใจ เบาหวาน ความดัน และผู้มีแผลในกระเพาะอาหาร

         – ระวังการใช้ยานี้กับหญิงตั้งครรภ์

         – ระวังการใช้ยานี้ในผู้สูงอายุ

         – ไม่ควรกินยาไอบูโพรเฟนติดต่อกันนาน ๆ เพราะอาจก่อให้เกิดความเสี่ยงโรคหลอดเลือดสมองและหัวใจวาย

          ยาที่มีสรรพคุณมากมายเช่นนี้ ก็ย่อมมีผลข้างเคียงเช่นกัน ซึ่งทางที่ดีเราควรจะใช้ให้ถูกต้อง ก็จะให้ประโยชน์มากมายเลยทีเดียวค่ะ

เรียบเรียงโดย : thaihitz.com 


advertisement