advertisement
สำหรับข้าราชการหลายๆ ท่าน เมื่อทำงานครบตามอายุราชการแล้ว ชีวิตหลังเกษียณราชการคงมีการวางแผนไว้แล้วว่าจะอะไรในบั่นปลายของชีวิต ซึ่งแต่ละคนจะมีการวางแผนกันไว้แล้วล่วงหน้า
ล่าสุด ทางด้านผู้ใช้พันทิป นายสามเหลี่ยม ได้โพสต์เกี่ยวกับการเปลี่ยนความคิดใหม่ทำไร่หลังเกษียณ โดยระบุว่า ผมได้เจอเพื่อนฝูงหลายคนที่รับราชการและทำงานภาคเอกชน ตั้งความฝันไว้ว่าจะเก็บเงินก้อนหนึ่งไว้ใช้ในยามเกษียณ หรือ หลังจากอายุครบ ๖๐ ปีแล้ว
เพื่อนเหล่านี้เล่าให้ฟังว่า จะขายบ้านที่กรุงเทพฯ แล้วอยากจะนำเงินไปซื้อที่ดินสักสี่ซ้าห้าไร่ ปลูกพืชสวนครัวรั้วกินได้ ขุดบ่อเลี้ยงปลาเลี้ยงไก่ มีชีวิตอย่างสงบ อยู่แบบพอเพียงกันสองคนตายาย เพราะลูกๆโตมีครอบครัวกันหมดแล้ว
ผมได้ยินได้ฟังแล้ว ก็ให้นึกทอดถอนใจเฮือกใหญ่ ในฐานะที่เราอยู่กันไร่อยู่กันนามาจนทุกวันนี้ ก็อยากจะเตือนเพื่อนพ้องทั้งหลายว่า ขอให้อยู่บนโลกของความเป็นจริง หาข้อมูลให้ดีๆก่อนจะทำอะไรตามที่ฝันไว้ที่อาจจะกลายเป็นฝันค้าง….
advertisement
เมื่อคุณอายุ ๖๐ ปี….ร่างกายคุณไม่เหมือนสมัยหนุ่มๆที่ยังมีกำลี้กำลัง ความเสื่อมถอยของสังขารที่ใช้งานมานาน โรคต่างๆรุมเร้า อีกอย่างคุณทำงานนั่งออฟฟิศมาโดยตลอดเกินครึ่งชีวิต ไม่เคยทำงานในไร่เลย จึงไม่รู้ว่ามันหนักหนาขนาดไหน
advertisement
คุณไม่ต้องซื้อที่ดินถึง ๕ ไร่หรอก แค่ ๒ ไร่คุณจะทำไหวหรือเปล่า แค่ถางหญ้าที่ขึ้นในที่ดินของคุณ ถางให้หมดเสียก่อน คุณก็หมดแรงแล้ว หญ้ามันขึ้นได้ตลอด โดยเฉพาะหน้าฝนเช่นนี้ ถ้าหญ้าโต พืชผลคุณก็จะตาย เพราะมันดูดสารอาหารจากดินแทน แล้วอย่าไปคาดหวังว่าจะเอาเครื่องตัดหญ้าไปตัด (อย่างที่เอ็นจีโอพวกอนุรักษ์มันบอก)
advertisement
เพราะหญ้าพวกนี้รากมันฝังลึกลงในดิน คุณต้องขุดมันถึงราก แล้วจับรากมันหงายขึ้น ตากแดดให้เผามันจนแห้ง มันถึงจะตาย…ยิ่งถ้าคุณไปเจอหญ้าแห้วหมู จะยิ่งเหนื่อย เพราะรากของมันจะชอนไชเข้าไปในดิน แล้วกระจายออกไปใต้ดิน ยิ่งขุดยิ่งเหนื่อย ต้องถอนรากถอนโคน(อย่างคนโบราณว่า)มันให้ได้ ไม่เช่นนั้นมันก็จะขยายพันธุ์มันไปเรื่อยๆ
ผมไม่อยากทำลายความฝันของใคร แต่แค่อยากให้ข้อเท็จจริงในฐานะที่มีประสบการณ์เท่านั้น ถ้าคุณอยากจะทำตามความฝันจริง คุณต้องเริ่มทำตั้งแต่อายุ ๔๐ กว่าๆ เพื่อจะเรียนรู้ที่จะอยู่กับชีวิตในไร่ในนาในสวน ไม่ใช่จะมาเริ่มทำเมื่ออายุ ๖๐ ปี….ในวันที่คุณไม่มีแรงจะทำแล้ว
ความคิดเห็นจากชาวเน็ต
advertisement
"ขอบคุณสำหรับข้อคิดครับ โดยส่วนตัว คิดว่าหลังเกษียณ จะใช้ชีวิตที่ กทม. นี่ล่ะ เพราะมีประสบการณ์ วันเสาร์-อาทิตย์ บางสัปดาห์ ต้องขับรถยนต์จาก กทม. ไปรับพ่อแม่ที่จังหวัดปริมณฑล (เป็นคน กทม.ย้ายไปอยู่ใน จ.ปริมณฑล) พาเข้ามารักษาที่โรงพยาบาลใน กทม. หลังจากปรึกษาคุณหมอเสร็จเรียบร้อย ก็ต้องขับรถยนต์ไปส่งบ้านที่จังหวัดปริมณฑล อีกรอบ แล้วค่อยตีรถกลับบ้านตัวเองใน กทม. เป็นเรื่องที่เหนื่อยสาหัสมากๆ…."
จะเห็นได้ว่า ถ้าคุณอยากจะทำตามความฝันจริง คุณต้องเริ่มทำตั้งแต่อายุ ๔๐ กว่าๆ เพื่อจะเรียนรู้ที่จะอยู่กับชีวิตในไร่ในนาในสวน ไม่ใช่จะมาเริ่มทำเมื่ออายุ ๖๐ ปี ในวันที่คุณไม่มีแรงจะทำแล้ว
เรียบเรียงโดย : thaihitz.com ขอขอบคุณข้อมูลจาก นายสามเหลี่ยม
advertisement