advertisement

วิธีรับมือ ดูแลสุขภาพจิต ในภาวะความขัดแย้งรุนแรง รู้เท่าทันอารมณ์ของตัวเอง


advertisement

       จากสถานการณ์ในช่วงเวลาที่เกิดความขัดแย้ง ไม่ได้ส่งผลกระทบต่อเฉพาะผู้ที่อยู่ในภาวะสู้รบเท่านั้น แต่ยังรวมถึงวิกฤตด้านมนุษยธรรมด้วย ซึ่งส่งผลกระทบต่อทั้งชุมชน ภูมิภาค และส่วนอื่นๆ โดยเฉพาะสุขภาพจิตของพลเรือนเป็นหนึ่งในผลกระทบที่สำคัญที่สุดของสงครามและความขัดแย้งครั้งใหญ่

       การได้เห็นวิกฤตเกิดขึ้นต่อหน้า อาจกระตุ้นให้เกิดอารมณ์หลากหลายรูปแบบ ไม่มี “วิธีที่ถูกต้อง” ในการตอบสนองต่อเหตุการณ์แบบนี้ เพราะแต่ละคนมีอารมณ์และความต้องการที่แตกต่างกัน ความรู้สึกที่พบบ่อย 

       ความโศกเศร้า (Grief): การเห็นมนุษย์คนอื่นเจ็บปวดเป็นเรื่องที่เจ็บปวดใจ ความขัดแย้งรุนแรงมักมาพร้อมกับการสูญเสีย ไม่ว่าจะเป็นผู้คน ทรัพยากร หรือวัฒนธรรม แม้จะไม่มีความเกี่ยวข้องโดยตรง ก็เป็นเรื่องปกติที่จะรู้สึกโศกเศร้ากับสิ่งที่เกิดขึ้น และจินตนาการถึงสิ่งที่ผู้คนที่ได้รับผลกระทบรุนแรงกำลังเผชิญอยู่


advertisement

       ภาวะซึมเศร้าและความเศร้า (Depression and sadness): หลายคนรู้สึกเศร้าในช่วงที่เกิดความขัดแย้ง พวกเขารับรู้ว่ามีสิ่งเลวร้ายเกิดขึ้น แต่ไม่รู้จะช่วยเหลืออย่างไร เมื่อเหตุการณ์ดำเนินต่อไป ความรู้สึกสิ้นหวังอาจรุนแรงขึ้น

       ความกลัวและความวิตกกังวล (Fear and anxiety): ความขัดแย้งสร้างความเครียดอย่างมาก เนื่องจากมีทั้งความไม่แน่นอนและอันตราย ซึ่งทำให้เกิดความกังวลสูง

       ความโกรธ (Anger): เป็นเรื่องปกติที่จะรู้สึกโกรธเมื่อรู้สึกว่าตัวเองถูกคุกคาม หลายคนรู้สึกว่าตนไม่มีพลังหรือควบคุมอะไรไม่ได้ในช่วงเวลาที่เกิดสงครามหรือความขัดแย้ง ซึ่งอาจทำให้รู้สึกหงุดหงิดหรือใจร้อนมากกว่าปกติ น่าเสียดายที่บางครั้งสิ่งนี้อาจนำไปสู่ความรุนแรงในระดับบุคคลและชุมชน


advertisement

       ความรู้สึกผิด (Guilt): เราอาจรู้สึกผิดเมื่อเห็นคนอื่นได้รับความเจ็บปวดที่ไม่สมควรได้รับหรือรู้สึกผิดที่ไม่รู้อะไรมากพอ หรือไม่ได้ “เลือกข้าง” สิ่งที่ดีที่สุดคือโฟกัสกับสิ่งที่ควบคุมได้

       ความรู้สึกเหล่านี้ล้วนเป็นเรื่องปกติ และไม่มีข้อจำกัดว่าอารมณ์อื่น ๆ จะเกิดขึ้นไม่ได้ คุณอาจรู้สึกอิจฉา ภาคภูมิใจ อับอาย ความหวัง ฯลฯ หลายคนอาจรู้สึกขัดแย้งในใจ มีหลายอารมณ์เกิดขึ้นพร้อมกัน

       การรับมือกับความขัดแย้งและความทุกข์ทางใจ

       ไม่ว่าจะได้รับผลกระทบโดยตรงหรือโดยอ้อมจากเหตุการณ์ เคล็ดลับต่อไปนี้สามารถช่วยดูแลสุขภาพจิตของคุณในช่วงเวลานี้ได้

       – หากอยู่ใกล้เขตความขัดแย้ง ให้ดูแลความปลอดภัยของชีวิต ทรัพย์สินที่จำเป็น และของสำคัญ เช่น เก็บไว้ในตู้นิรภัยกันไฟ และทำสำเนาเอกสารสำคัญไว้หลายชุด
       – ติดต่อพูดคุยกับคนที่คุณรัก หรือผู้ที่มีประสบการณ์คล้ายกัน
       – ใช้เทคนิคการรับมือส่วนตัวของคุณเพื่อช่วยลดความเครียด
       – ระวังว่าประสบการณ์ความเจ็บปวดในอดีต โดยเฉพาะความเจ็บปวดจากการถูกเลือกปฏิบัติหรือความเกลียดชัง อาจถูกกระตุ้นในช่วงนี้
       – หาเวลาในการคิดแก้ปัญหา การมีแผนหรือแนวทางที่ทำได้ อาจช่วยให้จิตใจสงบขึ้น
       – ขอความช่วยเหลือหากคุณต้องการ และช่วยเหลือผู้อื่นหากคุณสามารถทำได้
       – การรับมือกับเนื้อหาข่าวที่กระทบกระเทือนจิตใจ

 

       การหลีกเลี่ยงภาพ วิดีโอ และข่าวสารที่หลั่งไหลเข้ามาอย่างต่อเนื่องอาจเป็นเรื่องยากลำบากเมื่อความตึงเครียดกำลังสูง โดยเฉพาะอย่างยิ่งในช่วงหรือหลังจากเกิดความขัดแย้ง โซเชียลมีเดียและแพลตฟอร์มออนไลน์อาจกลายเป็นแหล่งรวมข้อมูลเท็จ การโต้เถียงที่เป็นปฏิปักษ์ และเนื้อหาที่รุนแรงที่ไม่คาดคิดว่าจะได้เห็น


advertisement

       การเหยียดเชื้อชาติ การเลือกปฏิบัติ และความเกลียดชังบนพื้นฐานอัตลักษณ์

       ความขัดแย้งเป็นเรื่องทางการเมือง และมักนำไปสู่วาทกรรมสร้างความเกลียดชังและความขัดแย้งโดยตรงในชุมชนหรือระหว่างบุคคล เมื่อกลุ่มอัตลักษณ์ตกเป็นเป้าหมายในการตอบสนองต่อความขัดแย้ง การรู้สิทธิและทางเลือกของคุณจึงเป็นสิ่งสำคัญ

       สุดท้ายนี้ เราอาจควบคุมสิ่งที่เกิดขึ้นในโลกไม่ได้ทั้งหมด แต่เราสามารถควบคุมวิธีที่เราดูแลใจตัวเองและปฏิบัติต่อผู้อื่นได้ นั่นคือจุดเริ่มต้นของการเยียวยาทั้งในระดับปัจเจกและสังคม

เรียบเรียงโดย :  thaihitz.com 


advertisement