น้ำใจชาวบ้านศรีสะเกษ รักทหารเหมือนลูก ช่วยรบไม่ได้ แต่ช่วยซักผ้าให้ได้

        ในช่วงสถานการณ์ตึงเครียดบริเวณชายแดนไทย–กัมพูชา คนไทยจำนวนมากยังคงแสดงออกถึงความห่วงใยและน้ำใจที่น่าชื่นชม ไม่ว่าจะเป็นการส่งอาหาร น้ำดื่ม ยารักษาโรค ไปให้กับทหารที่ปฏิบัติหน้าที่แนวหน้า หรือการช่วยดูแลผู้พลัดถิ่นและอพยพจากพื้นที่เสี่ยง หลายชุมชนร่วมแรงร่วมใจตั้งศูนย์พักพิงชั่วคราว รวบรวมสิ่งของจำเป็นให้ผู้ประสบภัย สะท้อนให้เห็นว่าท่ามกลางความไม่แน่นอน น้ำใจของคนไทยยังคงมั่นคงและงดงามเสมอ 

        ชาวบ้านบางส่วนยังคงใช้ชีวิตตามปกติ โดยมีการใส่บาตรในช่วงเช้า อย่างไรก็ตาม ประชาชนส่วนใหญ่แสดงความไม่ไว้วางใจต่อกัมพูชา และมองว่าสถานการณ์อาจกลับมารุนแรงอีก พร้อมเรียกร้องให้ฝ่ายการเมืองของทั้งสองประเทศรับผิดชอบต่อสถานการณ์ที่เกิดขึ้น

        ชาวบ้านรายหนึ่ง คือ นางอมรรัตน์ อายุ 53 ปี นำชุดเครื่องแบบของทหารแนวหน้ามาซักและตากให้โดยไม่คิดค่าใช้จ่าย พร้อมระบุว่า จะยังช่วยเหลือทหารต่อไปหากสถานการณ์ยังไม่ยุติ

        ขณะที่นายบุญรัตนา อุบล อายุ 52 ปี สมาชิกชุดรักษาความปลอดภัยหมู่บ้าน (ชรบ.) เปิดเผยว่า ตั้งแต่เวลา 18.00 น. ของวันที่ 29 ก.ค. จนถึงเช้าวันนี้ ทหารกัมพูชายิงปืนเล็กและอาวุธจากรถถังเข้ามายังฝั่งไทยอย่างต่อเนื่อง ก่อนจะหยุดยิงเมื่อประมาณ 07.00 น. โดยตนยังไม่มั่นใจว่าจะมีการหยุดยิงอย่างถาวร

        บริเวณถนนหลักในตำบลเสาธงชัย พบการปิดถนนจาก 4 เลน เหลือเพียง 2 เลน เป็นระยะทางประมาณ 1 กิโลเมตร โดยมีป้ายแจ้งเตือนเรื่องวัตถุระเบิดที่ยังไม่ถูกเก็บกู้ ขณะเดียวกันมีชาวบ้านบางส่วนเดินทางกลับจากศูนย์อพยพ เพื่อตรวจดูบ้านเรือนและให้อาหารสัตว์เลี้ยง ก่อนรีบออกจากพื้นที่เนื่องจากยังไม่ปลอดภัย

        ท่ามกลางบรรยากาศเศร้าสลดของครอบครัวและประชาชนที่มาให้กำลังใจ เห็นการช่วยเหลือกันแบบนี้แล้วใจฟูมาก  

เรียบเรียงโดย : thaihitz.com