advertisement
ในยุคดิจิทัลที่เทคโนโลยีปัญญาประดิษฐ์ (AI) ก้าวหน้าอย่างรวดเร็ว หนึ่งในเครื่องมือที่ได้รับความสนใจอย่างมากคือ Gemini ซึ่งพัฒนาโดยบริษัท Google เพื่อให้เป็นผู้ช่วยอัจฉริยะที่สามารถตอบคำถาม คิด วิเคราะห์ข้อมูล และที่สำคัญคือ สร้างรูปภาพจากข้อความที่ผู้ใช้พิมพ์ ได้อย่างน่าทึ่ง ผู้ใช้สามารถพิมพ์คำอธิบายเป็นประโยคยาว ๆ หรือกำหนดรายละเอียด เช่น สี อารมณ์ เวลา สถานที่ แล้ว Gemini จะตีความและสร้างภาพตามนั้นได้อย่างแม่นยำ ไม่ว่าจะเป็นภาพแนวสมจริง ภาพวาดสีน้ำ, การ์ตูน, แนวแฟนตาซี หรือภาพประกอบอินโฟกราฟิก ก็สามารถสั่งให้ Gemini สร้างได้ ใช้เวลาเพียงไม่กี่วินาทีในการประมวลผล และสามารถแก้ไขหรือสร้างใหม่ได้ทันทีหากยังไม่ตรงใจ
ในช่วงเวลานี้ กระแสการสร้างภาพคู่กับศิลปิน ดารา นักร้อง หรือคนดังด้วยสไตล์กล้องโพลารอยด์ผ่านแอป AI อย่าง Gemini AI กำลังได้รับความนิยมอย่างล้นหลามในโลกออนไลน์ โดยผู้ใช้งานสามารถอัปโหลดภาพของตนเองแล้วให้ระบบปัญญาประดิษฐ์สร้างภาพเสมือนร่วมเฟรมกับบุคคลที่ชื่นชอบได้อย่างสมจริงราวกับถ่ายภาพร่วมกันจริง ๆ
ความนิยมนี้ไม่เพียงสร้างความสนุกสนานให้ผู้ใช้งานเท่านั้น แต่ยังกลายเป็นกระแสไวรัลที่ถูกแชร์ต่อกันอย่างแพร่หลายในสื่อสังคมออนไลน์ อย่างไรก็ตาม หลายคนอาจยังไม่ทราบว่า การนำภาพบุคคล โดยเฉพาะคนดังหรือบุคคลสาธารณะ มาเผยแพร่หรือดัดแปลงโดยไม่ได้รับอนุญาต อาจเข้าข่ายผิดกฎหมายได้ ซึ่งหากไม่ระมัดระวัง อาจเสี่ยงถูกฟ้องร้องทั้งทางแพ่ง อาญา และลิขสิทธิ์ โดยเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคล มีสิทธิต่าง ๆ ดังนี้
advertisement

– สิทธิในการถอนความยินยอม ในกรณีที่ได้ให้ความยินยอมไว้
– สิทธิได้รับการแจ้งให้ทราบรายละเอียด
– สิทธิขอเข้าถึงและขอรับสำเนาข้อมูลส่วนบุคคล
advertisement
– สิทธิขอให้โอนข้อมูลส่วนบุคคล
– สิทธิคัดค้านการเก็บรวบรวม ใช้ หรือเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคล
– สิทธิขอให้ลบ หรือทำลาย หรือทำให้ข้อมูลส่วนบุคคลเป็นข้อมูลที่ไม่สามารถระบุตัวบุคคลได้
– สิทธิขอให้ระงับการใช้ข้อมูลส่วนบุคคล
– สิทธิขอให้แก้ไขข้อมูลส่วนบุคคล
– สิทธิในการร้องเรียน
หากมีใครนำรูปของเราไปใช้โดยไม่ได้รับอนุญาต เราสามารถดำเนินการตามสิทธิที่ได้กล่าวมาข้างต้น และสามารถแจ้งความดำเนินคดีตามกฎหมาย PDPA มาตรา 27 ห้ามมิให้ผู้ควบคุมข้อมูลส่วนบุคคลใช้หรือเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคล โดยไม่ได้รับความยินยอมจากเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคล ซึ่งมีโทษสูงสุด คือ จำคุก 1 ปี ปรับ 3 ล้านบาท จ่ายค่าเสียหาย 2 เท่า
นอกจากนี้ข้อมูลจากสำนักงานพัฒนาธุรกรรมทางอิเล็กทรอนิกส์ (ETDA) ยังระบุว่าการกระทำดังกล่าวผิดกฎหมายพระราชบัญญัติว่าด้วยการกระทำความผิดเกี่ยวกับคอมพิวเตอร์ พ.ศ. 2550 (พรบ. คอมพิวเตอร์) ในมาตรา 16 คือ ผู้ใดนำเข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์ซึ่งข้อมูลคอมพิวเตอร์ ที่ปรากฏเป็นภาพของผู้อื่นและภาพนั้นเกิดจากการสร้างขึ้น ตัดต่อ เติม หรือดัดแปลงด้วยวิธีการทางอิเล็กทรอนิกส์ โดยมีเจตนาให้ผู้อื่นนั้นเสียชื่อเสียง ถูกดูหมิ่น ถูกเกลียดชัง หรือได้รับความอับอาย
advertisement

ตัวอย่างเช่น
– การเผยแพร่ภาพตัดต่อที่สร้างให้บุคคลอื่นดูน่าอับอายหรือเสียชื่อเสียง
– การโพสต์รูปของผู้อื่นที่นำมาตัดต่อจนทำให้เจ้าของภาพเกิดความเสียหาย
ผู้กระทำผิดต้องระวางโทษจำคุกไม่เกิน 3 ปี หรือปรับไม่เกิน 200,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ ซึ่งมาตรานี้รวมถึงกรณีที่แม้ว่าผู้เสียหายจะเสียชีวิตไปแล้ว พ่อแม่ คู่สมรส หรือบุตรของผู้ตาย ก็สามารถร้องทุกข์แทนได้
ดังนั้นก่อนจะนำภาพคนดังหรือบุคคลทั่วไปที่ชื่นชอบมาเผยแพร่หรือดัดแปลงโดยใช้ AI โดยที่เจ้าตัวไม่ยินยอมหรือไม่ได้รับอนุญาต ก็ต้องระลึกเสมอว่าเรามีความเสี่ยงที่จะถูกฟ้องร้องทางกฎหมายได้เช่นกัน
เรียบเรียงโดย : thaihitz.com
advertisement