advertisement
เวลาคนไทยจะสั่งอาหาร หลายคนคงคุ้นเคยกับคำถาม รับน้ำอะไรดีคะ? ทั้งที่อาหารยังไม่มา กลายเป็นเรื่องธรรมดาในบ้านเรา แต่รู้หรือไม่ว่า พฤติกรรมกินน้ำระหว่างหรือหลังมื้ออาหารนั้น อาจขัดกับหลักทางแพทย์แผนไทย และส่งผลเสียต่อระบบย่อยอาหารโดยไม่รู้ตัว
ในรายการ Doctor’s Talk EP.39 โดย หมอเอมมี่ พญ.เอมอร ภัทรมงคลกาล และ อ.พท.คมสัน ทินกร ณ อยุธยา อาจารย์แพทย์แผนไทย ได้พูดถึงเรื่องนี้ไว้อย่างน่าสนใจ ว่า “ประเทศไทยเป็นประเทศเดียวในโลกที่ถามก่อนกินข้าวว่าจะกินน้ำอะไร”
“กินน้ำระหว่างกินข้าว” ทำไมถึงไม่ควร?
อ.พท.คมสัน อธิบายว่า เมื่อเราหิว ร่างกายจะหลั่ง น้ำย่อยและน้ำดี เพื่อเตรียมย่อยอาหารให้พร้อม แต่ถ้าเราดื่มน้ำในระหว่างหรือทันทีหลังมื้ออาหาร ก็เท่ากับ เจือจางน้ำย่อยและน้ำดีในกระเพาะอาหาร ทำให้กระบวนการย่อยทำงานได้ไม่เต็มที่
พูดง่าย ๆ คือ ร่างกายตั้งใจปล่อยเอนไซม์ย่อยอาหารออกมา แต่เรากลับเทน้ำเข้าไปผสมจน “ย่อยไม่สุด” อาจทำให้แน่นท้อง อาหารย่อยช้า หรือมีแก๊สในกระเพาะ
แล้วถ้ากินข้าวแล้วติดคอล่ะ?
หลายคนคงสงสัยว่า “ถ้าไม่ให้ดื่มน้ำ แล้วเวลาติดคอทำยังไง?”
advertisement
อาจารย์คมสันตอบไว้ชัดเจนว่า “ถ้าติดคอก็จิบน้ำเอาสิ จะติดคอทุกมื้อเหรอ?”
การจิบน้ำเล็กน้อยไม่เป็นไร แต่ไม่ควรดื่มเป็นแก้วใหญ่ ๆ ต่อเนื่องในขณะกินข้าว เพราะจะทำให้ระบบย่อยทำงานหนักโดยไม่จำเป็น
advertisement
ประเทศเดียวในโลกที่ “ถามก่อนกินข้าวว่าจะกินน้ำอะไร”
อาจารย์ยังเสริมว่า ที่ต่างประเทศไม่มีใครทำแบบนี้ หลายประเทศจะ “กินน้ำหลังอาหารผ่านไปแล้ว” หรือดื่มก่อนมื้ออาหารสักครึ่งชั่วโมง เพื่อให้ร่างกายพร้อม แต่ในประเทศไทย เรากลับเริ่มต้นด้วยการสั่งน้ำก่อนอาหาร ซึ่งเป็นวัฒนธรรมที่อาจขัดกับหลักสุขภาพของแพทย์แผนไทยโดยสิ้นเชิง
แล้วเราควรทำอย่างไรดี?
ดื่มน้ำก่อนอาหารประมาณ 30 นาที เพื่อให้ร่างกายสดชื่น ระหว่างมื้ออาหาร หากติดคอให้ จิบน้ำเล็กน้อยเท่านั้น หลังอาหารควรรออย่างน้อย 30–45 นาที แล้วค่อยดื่มน้ำเต็มที่
advertisement
การดื่มน้ำหลังหรือระหว่างมื้ออาหาร” อาจเป็นเพียงพฤติกรรมเล็ก ๆ ที่เราทำจนชิน แต่ในมุมมองแพทย์แผนไทยแล้ว มันคือการรบกวนระบบย่อยโดยตรง เพราะฉะนั้น ครั้งหน้าก่อนจะยกแก้วน้ำขึ้นดื่มระหว่างกินข้าว ลองถามตัวเองอีกครั้ง เรากำลังดับกระหาย… หรือกำลังดับน้ำย่อยในกระเพาะอยู่กันแน่?
เรียบเรียงโดย : thaihitz.com ขอขอบคุณข้อมูลจาก Zerosick
advertisement
