advertisement

นับถือหัวใจ นักวิ่งตาบอด ร่วมงานวิ่ง ATM2025 ระยะ 21.6 กม.ทำเวลาได้ดีมาก


advertisement

     งาน Amazing Thailand Marathon Bangkok 2025 (ATM 2025) มหกรรมวิ่งระดับโลกที่จัดขึ้นเป็นปีที่ 8 ได้เปลี่ยนเช้าวันอาทิตย์ใจกลางกรุงเทพฯ ให้กลายเป็นพื้นที่แห่งพลัง ความคึกคัก และความงดงามของชุมชนนักวิ่งกว่า 50,000 คน จากทั่วโลก โดยเขต ปทุมวัน กลายเป็นจุดศูนย์กลางสำคัญของงานวิ่งในปีนี้อย่างแท้จริง  

    ปีนี้พิเศษ เนื่องจาก สมเด็จพระนางเจ้าสุทิดา พัชรสุธาพิมลลักษณ พระบรมราชินี เสด็จพระราชดำเนินทรงเป็นประธานปล่อยตัว และทรงร่วมวิ่งในระยะ ฮาล์ฟมาราธอน 21.1 กิโลเมตร เสริมให้บรรยากาศงานเต็มไปด้วยความปลาบปลื้ม และสร้างแรงบันดาลใจแก่ผู้ร่วมกิจกรรมอย่างหาที่สุดมิได้ 
 

        ล่าสุด ทางด้านผู้ใช้เฟสบุ๊ก Ratchata Forlife ได้โพสต์เรื่องราวของตัวเองซึ่งเป็นผู้พิการทางด้านสายตา แต่ว่าเป็นนักวิ่ง แล้วได้เข้าร่วมงานวิ่ง Amazing Thailand Marathon Bangkok (ATM 2025) เป็นนักกีฬาตาบอด Blind Runner Half Marathon ระยะ 21.6 กิโลเมตร โดยได้โพสต์เรื่องราวก่อนที่จะได้มาวิ่งงานนี้ ระบุว่า… 


advertisement

     ผมคือนักวิ่งตาบอด “Blind Runner” ที่เพิ่งจบ Half Marathon ระยะ 21.6 กิโลเมตร ในเวลา 1 ชั่วโมง 44 นาที ในงาน #ATM2025

       ก่อนวันวิ่ง ผมเคยประกาศหาไกด์รันเนอร์ พร้อมระบุเวลาเป้าหมายที่อยากทำให้ได้ หลังจากโพสต์นั้นออกไป ก็มีเพื่อนนักวิ่งหลายคนทั้งโทรมาถาม และ DM มาหลังไมค์ว่า “นักวิ่งตาบอด…ทำเวลาแบบนี้ได้จริง ๆ หรือ?” 

       วันนี้…ความพยายามของผมได้พิสูจน์แล้วว่า ผมสามารถทำได้จริง และจะเดินหน้าทำให้ดียิ่งกว่านี้  เส้นทางของผมไม่เคยง่าย แต่ครั้งนี้ผมก็ทำได้สำเร็จอีกก้าวหนึ่ง 


advertisement


advertisement

       ผมต้องขอขอบคุณทีม Guide Runner ของผมจากหัวใจ  นี่คือทีมไกด์รันเนอร์จิตอาสาที่ไม่ได้แค่วิ่งไปด้วยกัน แต่คือการ “วิ่งเพื่อผู้อื่น” อย่างแท้จริง ผมใช้คำว่า “มีความสุข” และ “สนุก” สิ้นเปลืองมากในวันนี้ 

       ที่ผ่านมา ผมซ้อมแค่บน Treadmill อย่างเดียว พอลงถนนจริงก็มีความกลัวอยู่ไม่น้อย — กลัวสะดุด กลัวชน กลัวล้ม กลัวทำให้เพื่อนร่วมวิ่งเจ็บ แม้ว่าจะลงมาหลายสนามแล้ว แต่ความกลัวก็ยังคงอยู่ทุกครั้ง

       แต่หัวใจที่แข็งแรงกว่านั้นส่งพลังให้ผมก้าวผ่านความกลัว และทำให้ผมกล้าที่จะเร่งสปีด พุ่งไปข้างหน้าอย่างมั่นใจ พร้อมความเชื่อใจในทีมที่คอยดูแลผมอย่างเต็มที่

       แม้วันนี้จะพลาดเป้าหมาย 1 ชั่วโมง 40 นาที เพราะมีอาการจุกอย่างรุนแรงในกิโลที่ 16–18  เจ็บจนเหมือนปอดแทบฉีก หายใจแทบไม่ไหว แต่ผมก็กัดฟันทนอยู่ทุกก้าว ต้องลด pace จาก pace 4 ลงมาเป็น pace 5 แต่ในใจผมมีเพียงอย่างเดียว — “จะไม่หยุด…และจะไม่ยอมแพ้” 

       พออาการดีขึ้น ผมกลับมาสปีดเต็มกำลังอีกครั้ง และทีมไกด์ก็พาผมเข้าเส้นชัยได้อย่างสวยงาม ถึงจะช้ากว่าเวลาที่ตั้งไว้เล็กน้อย แต่นี่คือความสำเร็จที่ผมภูมิใจที่สุดอีกครั้ง ในฐานะนักวิ่งตาบอดคนหนึ่งที่ตั้งใจทำให้ดีที่สุดเสมอ 

       ขอขอบคุณพี่หนุ่ม คุณแฟรงค์ คุณเอก ทีม Guide Runner ที่ทำให้การวิ่งครั้งนี้ทั้งสนุก สุขใจ ปลอดภัย และงดงามมาก ขอบคุณเพื่อนนักวิ่งทุกคนที่ส่งกำลังใจระหว่างทาง รวมถึงทุกคนที่แวะมาอ่านเรื่องราวนี้


advertisement

       ขอบคุณเพจวิ่งทุกเพจที่ช่วยแชร์เรื่องราวของผม รวมถึงให้พื้นที่ในการประกาศหาไกด์รันเนอร์จิตอาสา จนผมได้ทีมไกด์ที่ยอดเยี่ยมอย่างที่มีในวันนี้

       ผมหวังว่าแรงบันดาลใจเล็ก ๆ ของผมจะส่งพลังให้ทุกคนไม่ยอมแพ้ต่ออุปสรรค เหมือนที่ผมยังไม่เคยยอมแพ้ แล้วพบกันใหม่บนเส้นทางแห่งพลังใจครับ  

– 

        เรื่องราวของนักวิ่งตาบอดคนนี้ ไม่ใช่แค่การวิ่งจบฮาล์ฟมาราธอนเท่านั้น แต่คือการประกาศให้โลกเห็นว่า ข้อจำกัดทางร่างกาย ไม่เคยเป็นข้อจำกัดของหัวใจ ทุกก้าวที่เขาวิ่ง คือการเอาชนะความกลัว ความเจ็บปวด และความท้าทายที่คนทั่วไปอาจไม่เคยพบเจอ เขาไม่เพียงพิสูจน์ให้ทุกคนเห็นว่า “ทำได้จริง” แต่พิสูจน์ให้ตัวเองเห็นว่า หัวใจที่ไม่ยอมแพ้ จะพาเราไปไกลเสมอ 

เรียบเรียงโดย : thaihitz.com  ขอขอบคุณข้อมูลจาก  Ratchata Forlife   


advertisement