advertisement

วิกฤตฝุ่น PM2.5 สีส้มทั่วกรุงเทพฯ กระทบสุขภาพ เช็กด่วน 12 เขตติดโผวิกฤตสุด


advertisement

     กรุงเทพมหานครกำลังเผชิญสถานการณ์ฝุ่น PM2.5 พุ่งสูงต่อเนื่อง ส่งผลให้หลายพื้นที่มีค่าฝุ่นเกินมาตรฐานจนถูกจัดให้อยู่ในระดับสีส้ม ซึ่งเริ่มมีผลกระทบต่อสุขภาพ โดยเฉพาะกลุ่มเด็กเล็ก ผู้สูงอายุ และผู้ป่วยโรคประจำตัว

     จากข้อมูลล่าสุด ค่าฝุ่นเฉลี่ยทั่วกรุงเทพฯ อยู่ที่ 65.8 ไมโครกรัมต่อลูกบาศก์เมตร สูงกว่าค่ามาตรฐานที่กำหนดไว้ (ไม่เกิน 37.5 มคก./ลบ.ม.) โดยพื้นที่ที่พบค่าฝุ่นสูงที่สุดคือ เขตสาทร ซึ่งขึ้นเป็นอันดับหนึ่งของเมือง

      PM2.5 ประจำวัน ตรวจวัดได้ 38.2-65.8 มคก./ลบ.ม. ค่าเฉลี่ยของกรุงเทพมหานคร 50.6 มคก./ลบ.ม. เริ่มมีผลกระทบต่อสุขภาพ (ค่ามาตรฐาน 37.5 มคก./ลบ.ม.) ฝุ่นละอองมีแนวโน้มเพิ่มขึ้น มีค่าฝุ่นเกินมาตรฐานอยู่ในระดับสีส้ม เริ่มมีผลกระทบต่อสุขภาพ 69 พื้นที่


advertisement

     โดย 12 อันดับ ของค่าฝุ่น PM2.5 เขตสูงสุดในกรุงเทพมหานคร ได้แก่

     1. เขตสาทร 65.8 มคก./ลบ.ม.

     2. เขตบางรัก 61.7 มคก./ลบ.ม.


advertisement

     3. เขตลาดกระบัง 60.1 มคก./ลบ.ม.

     4. เขตมีนบุรี 59.5 มคก./ลบ.ม.

     5. เขตหนองแขม 56.8 มคก./ลบ.ม.

     6. เขตตลิ่งชัน 56.3 มคก./ลบ.ม.

     7. เขตคลองสามวา 56.2 มคก./ลบ.ม.

     8. เขตราชเทวี 56.1 มคก./ลบ.ม.

     9. เขตปทุมวัน 55.2 มคก./ลบ.ม.

     10. เขตทวีวัฒนา 55 มคก./ลบ.ม.

     11. เขตยานนาวา 54.8 มคก./ลบ.ม.

      และ12. เขตบางคอแหลม 54.4 มคก./ลบ.ม.

     คาดการณ์แนวโน้มสภาพอากาศที่ส่งผลกระทบต่อฝุ่น PM2.5 ระหว่างวันที่ 2-10 ธ.ค. การระบายอากาศส่วนใหญ่อยู่ในเกณฑ์ไม่ดี/อ่อน ขณะเกิดภาวะอากาศปิดใกล้ผิวพื้น จึงคาดว่าแนวโน้มความเข้มข้นของฝุ่น ละอองมีค่าสูงขึ้น

     ผลกระทบด้านสุขภาพเริ่มชัดเจนขึ้นเรื่อย ๆ โดยมีรายงานว่าในช่วงไม่กี่วันที่ผ่านมา มีประชาชนป่วยด้วยอาการเกี่ยวกับระบบทางเดินหายใจ กว่า 2,700 ราย ส่วนใหญ่มีอาการ ไอ เจ็บคอ แสบตา หายใจติดขัด และโรคผิวหนังอักเสบเพิ่มขึ้น


advertisement

     ผู้เชี่ยวชาญเตือนว่า ตั้งแต่วันที่ 2–10 ธันวาคมนี้ กรุงเทพฯ จะเข้าสู่ช่วง “ภาวะอากาศปิด” เมื่ออากาศนิ่งลมอ่อน ทำให้ฝุ่นสะสมง่ายขึ้น เสี่ยงให้สถานการณ์เลวร้ายกว่าเดิม พร้อมแนะนำประชาชนหลีกเลี่ยงกิจกรรมกลางแจ้ง และควรใส่หน้ากากอนามัยเมื่อออกนอกบ้าน

– 


advertisement

     หน่วยงานที่เกี่ยวข้องเร่งติดตามสถานการณ์อย่างใกล้ชิด พร้อมเตรียมมาตรการลดฝุ่น เช่น ควบคุมแหล่งกำเนิด แนะนำลดการใช้รถยนต์ และเพิ่มจุดฉีดพ่นละอองน้ำในเขตวิกฤต  

เรียบเรียงโดย : thaihitz.com 


advertisement