ถึงสงขลาแล้ว รถตำรวจสายตรวจกว่า 400 คัน หลังน้ำท่วมหนัก รถสายตรวจจมน้ำเกือบยกกอง

       หลังจากสถานการณ์น้ำท่วมครั้งใหญ่ในจังหวัดสงขลา ได้สร้างความเสียหายวงกว้างให้กับชุมชน บ้านเรือน ร้านค้า ไปจนถึงหน่วยงานราชการหลายแห่ง ความเสียหายไม่เพียงกระทบต่อชีวิตความเป็นอยู่ของประชาชน แต่ยังรวมถึงทรัพย์สินราชการที่จำเป็นต่อการปฏิบัติภารกิจประจำวัน โดยเฉพาะในพื้นที่ จ.สงขลา ทั้งสถานีตำรวจ ศูนย์ราชการ และยานพาหนะต่าง ๆ ที่ถูกน้ำท่วมสูงจนจมน้ำเสียหายจำนวนมาก หนึ่งในนั้นคือรถจักรยานยนต์สายตรวจของเจ้าหน้าที่ตำรวจ ซึ่งเป็นกำลังสำคัญในการดูแลความปลอดภัยประชาชนและเข้าถึงพื้นที่ได้อย่างรวดเร็ว

       เมื่อวันที่ 4 ธันวาคม 2568 พล.ต.ต.ศิริวัฒน์ ดีพอ รองโฆษกสำนักงานตำรวจแห่งชาติ เปิดเผยว่า ขณะนี้สถานการณ์น้ำท่วมภาคใต้ได้คลี่คลายลงเข้าสู่ระยะฟื้นฟูและเยียวยาผู้ที่ได้รับผลกระทบ พล.ต.อ.กิตติ์รัฐ พันธุ์เพ็ชร์ ผบ.ตร. ได้สั่งการให้ตำรวจทุกหน่วยในพื้นที่ประสบภัย เร่งช่วยเหลือประชาชนในการฟื้นฟูบ้านเรือน รวมไปถึงพื้นที่สาธารณะต่าง ๆ เพื่อให้ประชาชนสามารถกลับมาใช้ชีวิตได้ตามปกติเร็วที่สุด

       นอกจากการช่วยเหลือประชาชนแล้ว ยังรวมถึงการฟื้นฟูสถานที่ราชการและยานพาหนะที่ได้รับความเสียหายจำนวนมาก โดยเฉพาะรถจักรยานยนต์สายตรวจของ สภ.หาดใหญ่ จ.สงขลา ที่จมน้ำจนไม่สามารถใช้งานได้ถึง 94 คัน ทำให้กำลังการออกตรวจพื้นที่ลดลงอย่างมาก ผบ.ตร.จึงได้สั่งการด่วนให้สำนักงานส่งกำลังบำรุง (สกบ.) จัดส่งรถจักรยานยนต์ใหม่จำนวน 100 คัน จากกรุงเทพมหานคร ไปยัง สภ.หาดใหญ่ ตั้งแต่วันที่ 3 ธันวาคม 2568 แล้ว เพื่อให้เจ้าหน้าที่กลับมาปฏิบัติหน้าที่ได้อย่างเต็มประสิทธิภาพ

       พล.ต.ต.ศิริวัฒน์ ระบุว่า จากการสำรวจความเสียหายหลังน้ำลด พบว่าสถานีตำรวจภูธรหาดใหญ่ได้รับผลกระทบอย่างหนัก น้ำท่วมสูงกว่า 3 เมตร ทำให้อาคารชั้น 1 เสียหายทั้งหมด และยานพาหนะหลายรายการถูกน้ำท่วมจนใช้การไม่ได้ โดยเฉพาะรถจักรยานยนต์สายตรวจที่มีความสำคัญต่อภารกิจดูแลความปลอดภัยประชาชน

       เพื่อรองรับภารกิจที่ต้องเพิ่มความถี่ในการออกตรวจทุกชุมชน ถนน และตรอกซอย ผบ.ตร.ได้สั่งการให้ สกบ. จัดส่งรถจักรยานยนต์เพิ่มเติมอีก 340 คัน ให้ตำรวจภูธรจังหวัดสงขลา เพื่อนำไปกระจายตามสถานีตำรวจในสังกัด 31 แห่ง โดย สภ.หาดใหญ่ได้รับ 100 คัน และสถานีอื่น ๆ เช่น สภ.คอหงส์ 35 คัน, สภ.เมืองสงขลา 25 คัน, สภ.สะเดา 15 คัน เป็นต้น เพื่อให้มีความพร้อมในการปฏิบัติหน้าที่เต็มกำลัง

       หลังน้ำลด ตำรวจภูธรภาค 9 ยังได้สนธิกำลังจากหลายจังหวัด ได้แก่ พัทลุง สงขลา ตรัง และสตูล เพื่อเสริมกำลังในพื้นที่หาดใหญ่ พร้อมแบ่งการตรวจตราออกเป็น 6 โซน โดยในช่วงแรกต้องใช้รถยนต์และการเดินเท้าเป็นหลักในการเข้าช่วยเหลือและดูแลความปลอดภัยประชาชนในทุกพื้นที่

       แต่หลังจากได้รับรถจักรยานยนต์สายตรวจใหม่ การปฏิบัติงานของเจ้าหน้าที่จะคล่องตัวและครอบคลุมมากขึ้น โดยใช้รูปแบบการออกตรวจแบบดาวกระจายทั้ง 6 โซน ควบคู่กับสายตรวจรถยนต์และสายตรวจเดินเท้า เพื่อสร้างความมั่นใจและความอุ่นใจให้กับประชาชนในช่วงเวลาหลังภัยพิบัติที่ต้องการความช่วยเหลืออย่างต่อเนื่อง

– 

       ในเวลาที่ชุมชนกำลังลุกขึ้นสู้เพื่อฟื้นฟูบ้านเมือง ความร่วมแรงร่วมใจของเจ้าหน้าที่ในทุกหน่วยจึงเป็นกำลังสำคัญที่ช่วยให้สงขลาก้าวผ่านวิกฤตครั้งนี้ไปได้อย่างเข้มแข็ง 

เรียบเรียงโดย : thaihitz.com