advertisement
เกิดเป็นประเด็นร้อนในสังคมและโลกออนไลน์อย่างกว้างขวาง หลังบริษัท ไดกิ้น อินตัสทรีส์ (ประเทศไทย) จำกัด ออกประกาศ ปิดงานงดจ้าง สหภาพแรงงานไดกิ้นอมตะรักษ์เสรี และสมาชิกกว่า 1,500 คน จากกรณีที่ไม่สามารถหาข้อสรุปเกี่ยวกับโบนัสประจำปีและสวัสดิการพนักงานได้ ทำให้มีเสียงวิพากษ์วิจารณ์จำนวนมากว่า “ปิดงานงดจ้าง” คืออะไร แตกต่างจากการเลิกจ้างอย่างไร
ปิดงานงดจ้าง คืออะไร?
คำว่า ปิดงานงดจ้าง หมายถึง การที่นายจ้างหยุดการจ้างงานชั่วคราว เนื่องจากไม่สามารถตกลงข้อเรียกร้องกับลูกจ้างหรือสหภาพแรงงานได้ จึง “หยุดงาน หยุดจ่ายค่าจ้าง” เป็นมาตรการที่ใช้ระหว่างการเจรจาข้อพิพาท ไม่ใช่การเลิกจ้างถาวร แต่ส่งผลกระทบต่อรายได้ของพนักงานจำนวนมาก
สหภาพแรงงานเผยสาเหตุ—ทำไมถึงต้องเรียกร้อง?
วันที่ 5 ธ.ค. 2568 นายมานิตย์ ปิยัง ประธานสหภาพแรงงานไดกิ้น เปิดเผยผ่านรายการ กรรมกรข่าวคุยนอกจอ ว่า สาเหตุที่ต้องเรียกร้องเรื่องโบนัสและการขึ้นเงินเดือน เป็นเพราะผลประกอบการของบริษัทดีขึ้นกว่าปีก่อนอย่างชัดเจน จึงเห็นว่าพนักงานควรได้รับผลตอบแทนที่เหมาะสม เขาอธิบายว่า…
– สหภาพเรียกร้องโบนัส 8 เดือน + 28,000 บาท
– บริษัทให้ได้ต่ำกว่าที่คาดหวัง
advertisement
– ด้านเงินเดือน พนักงานขอเพิ่ม 6% แต่บริษัทให้เพียง 3%
– มองว่าค่าครองชีพปัจจุบันสูงขึ้นจนเงินเดือนระดับหมื่นกว่าบาทไม่เพียงพอ
advertisement
แม้บริษัทให้เหตุผลว่าเศรษฐกิจชะลอตัวและต้องกันเงินสดไว้แข่งขันกับคู่แข่ง แต่สหภาพย้ำว่า กำไรบริษัทเพิ่มขึ้นทุกปี ซึ่งสะท้อนว่าบริษัทน่าจะมีศักยภาพในการตอบแทนพนักงานได้ดีกว่านี้ สหภาพชี้ “ไม่เคยรู้ล่วงหน้า” ว่าบริษัทจะปิดงาน
นายมานิตย์เผยว่า การประกาศปิดงานเกิดขึ้นทันที ไม่มีการแจ้งล่วงหน้า ทำให้สหภาพและพนักงานกว่า 1,500 คนตกใจ เพราะยังเชื่อว่าน่าจะหาทางพูดคุยกันได้ บริษัทและสหภาพจะกลับมาเจรจาอีกครั้งในวันที่ 8 ธันวาคมนี้ ซึ่งถือเป็นวันสำคัญว่าปัญหาจะคลี่คลายไปในทิศทางไหน
ประเด็นสวัสดิการ “ให้ทอง”—พนักงานค้านหนัก
อีกหนึ่งประเด็นที่ถูกพูดถึงมากคือสวัสดิการ “ให้ทอง” ที่พนักงานได้รับเมื่อทำงานครบตามเงื่อนไข
– ไม่ขาดงาน ไม่ลา ไม่มาสาย
– ทำครบ 6 เดือน ได้ 500 บาท
– ทำครบ 10 ปี ได้เงิน 10,000 บาท + ทองคำ 3 บาท
บริษัทมีแนวโน้มจะปรับเป็น “ให้เงิน 40,000 บาทแทนทอง” ซึ่งพนักงานจำนวนมากไม่ยอมรับ เพราะทองเป็นแรงจูงใจสำคัญที่ทำให้พนักงานรักษาระเบียบการทำงานอย่างเข้มงวด และเป็นข้อตกลงที่เซ็นตรงกับบริษัทตั้งแต่เริ่มงาน ไม่ใช่ข้อตกลงกับสหภาพ ขณะนี้มีพนักงานกว่า 1,300 คน ได้รับผลกระทบจากเงื่อนไขนี้
advertisement
สหภาพย้ำไม่เคยเรียกร้อง “โบนัส 11–12 เดือน + เงินแสน” นายมานิตย์ยืนยันว่า ข่าวลือที่กล่าวหาว่าพนักงานเรียกร้องโบนัสสูงเกินจริง เป็นข้อมูลที่ไม่ถูกต้อง เขาเผยว่า “แต่ละคนไม่เข้าใจเรา ไม่เห็นใจพนักงาน ผลประกอบการบริษัทเพิ่มขึ้นทุกปี ถ้าไม่มีพนักงานผลิต ก็ไม่มีตรงนี้… เงินเดือนปัจจุบันมันไม่พอค่าครองชีพจริงๆ”

สถานการณ์นี้สะท้อนปัญหาความเหลื่อมล้ำในที่ทำงานระหว่างนายจ้างและลูกจ้าง ซึ่งมักเกิดขึ้นเมื่อผลตอบแทนไม่สอดคล้องกับผลงานจริง ทั้งยังทำให้พนักงานนับพันต้องเผชิญความไม่มั่นคงชั่วคราว การเจรจาในวันที่ 8 ธันวาคมจึงเป็นความหวังสำคัญว่าบริษัทและสหภาพจะหาทางออกร่วมกันได้ และทำให้แรงงานกลับมาทำงานอย่างมั่นคงอีกครั้ง
เรียบเรียงโดย : thaihitz.com
advertisement
