advertisement

ปิดฉากซีเกมส์ ทีมชาติไทย ครองเจ้าหรียญทอง 233 เหรียญ รับอัดฉีด 484 ล้านบาท


advertisement

     หลังจากการแข่งขันสิ้นสุดลงอย่างเป็นทางการเมื่อวันที่ 20 ธันวาคมที่ผ่านมา ปรากฏว่า ทัพนักกีฬาไทยผงาดครองตำแหน่งเจ้าเหรียญทองเป็นสมัยที่ 14 อย่างยิ่งใหญ่ จากผลงานคว้าไปทั้งสิ้น 233 เหรียญทอง 154 เหรียญเงิน และ 108 เหรียญทองแดง ทิ้งห่างอันดับ 2 อย่าง อินโดนีเซีย ที่ทำได้ 91 เหรียญทอง 111 เหรียญเงิน 131 เหรียญทองแดง

       ขณะที่อันดับ 3 เป็นของเวียดนาม คว้าไป 87 เหรียญทอง 80 เหรียญเงิน 110 เหรียญทองแดง อันดับ 4 มาเลเซีย 56 เหรียญทอง 57 เหรียญเงิน 117 เหรียญทองแดง อันดับ 5 สิงคโปร์ 52 เหรียญทอง 61 เหรียญเงิน 87 เหรียญทองแดง และอันดับ 6 ฟิลิปปินส์ 50 เหรียญทอง 73 เหรียญเงิน 153 เหรียญทองแดง

       ส่วนอันดับ 7 เมียนมา ได้ 3 เหรียญทอง 21 เหรียญเงิน 46 เหรียญทองแดง อันดับ 8 สปป.ลาว ได้ 2 เหรียญทอง 9 เหรียญเงิน 27 เหรียญทองแดง อันดับ 9 บรูไน 1 เหรียญทอง 3 เหรียญเงิน 5 เหรียญทองแดง และอันดับ 10 ติมอร์เลสเต คว้า 1 เหรียญเงิน กับ 7 เหรียญทองแดง โดยไม่สามารถคว้าเหรียญทองได้

       จากผลงานรวม 233 เหรียญทองของทัพไทย นับเป็นการตอกย้ำความเป็นมหาอำนาจกีฬาของภูมิภาค โดยนักกีฬาไทยสามารถคว้าเหรียญรางวัลได้หลากหลายชนิดกีฬา ทั้งกีฬาสากล กีฬาประยุกต์ และกีฬาพื้นบ้าน อาทิ มวยสากล มวยไทย เทควันโด ยกน้ำหนัก กรีฑา ว่ายน้ำ จักรยาน ยิงปืน เซปักตะกร้อ วอลเลย์บอล รวมถึงกีฬาทางเลือกและเอ็กซ์ตรีมอย่าง อีสปอร์ต สเก็ตบอร์ด ไคท์บอร์ด และปีนหน้าผา


advertisement

       ทั้งนี้ ในการแข่งขันที่มีการชิงชัยเหรียญทองรวมทั้งสิ้น 573 อีเวนต์ การกีฬาแห่งประเทศไทย โดยฝ่ายพัฒนากีฬาเป็นเลิศ ได้ส่งนักกีฬาไทยเข้าร่วมการแข่งขันจำนวน 1,529 คน แบ่งเป็นนักกีฬาหน้าใหม่ 1,055 คน และนักกีฬาหน้าเดิม 474 คน โดยผลปรากฏว่า นักกีฬาไทยสามารถทำผลงานได้ตามเป้าหมาย 150 รายการ พลาดเป้าหมาย 86 รายการ และมีอีก 82 รายการที่อยู่นอกเหนือเป้าหมายที่ตั้งไว้


advertisement

       สำหรับเงินอัดฉีดนักกีฬาทีมชาติไทยในครั้งนี้ จะได้รับรวมทั้งสิ้น 484,110,000 บาท ตามหลักเกณฑ์ที่กำหนด โดยเหรียญทองได้รับ 300,000 บาท เหรียญเงิน 150,000 บาท และเหรียญทองแดง 75,000 บาท ซึ่งผู้ฝึกสอนจะได้รับส่วนแบ่ง 20% และสมาคมกีฬาได้รับ 30%


advertisement

       ความสำเร็จครั้งนี้ถือเป็นอีกหนึ่งหน้าประวัติศาสตร์ของวงการกีฬาไทย ที่สะท้อนถึงการพัฒนาอย่างต่อเนื่อง ระบบการฝึกซ้อมที่มีคุณภาพ และหัวใจนักสู้ของนักกีฬาไทยทุกคน  

เรียบเรียงโดย : thaihitz.com ขอขอบคุณข้อมูลจาก  Comment – คอมเมนต์แฟนกีฬาต่างชาติ 


advertisement