ชาวโซเชียลแห่อุดหนุนข้าวป้าพิศ หลังโดนหลอกซื้อด้วยแบงก์กาโม่ 500

       จากกรณีที่ ป้าพิศ แม่ค้าขายข้าว วัย 70 ปี ซึ่งขายอยู่หน้าโรงเรียนสุพรรณภูมิ อำเภอเมือง จังหวัดสุพรรณบุรี โดนมิจฉาชีพสาว หลอกซื้อข้าวในราคา 100 บาท และจ่ายเงินมาเป็นแบงก์กาโม่ 500 บาท ป้าไม่ทันได้ดู จึงทอนเงินไปอีก 400 บาทก่อนมิจฉาชีพจะหลบหนีไป

ป้าพิศ แม่ค้าขายข้าว

        พลเมืองดีช่วยกันแชร์เรื่องราวลงโซเชียล ตามหาตัวคนร้าย เพราะปกติป้าก็มีรายได้น้อยอยู่แล้ว ล่าสุด (19 ธ.ค. 62) นางสมพิศ หรือยายพิศ ฤทธิเดช อายุ 70 ปี ชาวต.ท่าระหัด อ.เมือง จ.สุพรรณบุรี แม่ค้าขายข้าวไข่เจียว ข้าวผัดกระเพรา รถเข็น เปิดเผยว่า เมื่อวันที่ 18 ธ.ค.ที่ผ่านมา ตนมาขายข้าวกล่องตามปกติ ตั้งแต่ช่วงสายถึงช่วงเย็น ขายกล่องละ 10 บาท มีข้าวไข่เจียวชะอม ข้าวผัดกระเพรา ข้าวผัดไข่ และลูกชิ้นปิ้ง จำได้ว่าเวลาประมาณ 14.00 น. มีหญิงวัยกลางคนขี่รถจักรยานยนต์สีแดง มาจอดหน้ารถเข็น สั่งข้าวผัดกะเพราะ 2 กล่อง ไข่ดาวด้วย และสั่งซื้อลูกชิ้นอีก 70 บาท รวมเป็น 100 บาท ตนก็รีบทำ เมื่อเสร็จแล้วก็ส่งข้าว ส่งลูกชิ้นให้ เค้าก็ไม่ได้ดับเครื่องรถ

       จากนั้นได้กำแบงก์ 500 ไว้ในมือ บอกว่าจ่ายแบงก์ 500 ยายก็บอกว่าไม่มีเงินทอน เค้าก็บอกว่า มีแบงก์ 500 ยื่นมา ยายก็ไม่ทันดู ส่งเงินทอนให้ไป 400 บาท แล้วเค้าก็ขี่รถออกไป จากนั้นเราก็คลี่แบงก์ 500 ดูปรากฏว่าเป็นแบงก์ปลอม จึงตกใจร้องไห้ รีบวิ่งไปที่ร้านก๋วยเตี๋ยว ก็รีบโทรแจ้งตำรวจให้ ปกติตนขายมานานเป็น 10 ปี ไม่เคยเจอเหตุการณ์แบบนี้ เราทำมาหาหากินสุจริต พอมาเจอเหตุการณ์แบบนี้ก็เสียใจ ไม่คิดว่าจะมีคนใจร้ายมาทำแบบนี้กับตนได้ลงคอ ตนอยากให้เอาเงินมาคืน เพราะขายข้าวกล่องละ 10 บาท ไม่ได้ขายแพง กว่าจะขายได้ 500 ต้องทำถึง 50 กล่อง

        แต่หลังจากเกิดเรื่องออกไป บรรยากาศที่ร้านยายพิศก็มีคนแห่มาอุดหนุนข้าวยายเป็นจำนวนมาก โดยนายเฉลิมวุฒิ เลไธสง อายุ 32 ปี ชาวอยุธยา เดินทางมามอบเงิน 3,000 บาท ให้กับยายพิศ พร้อมกล่าวว่า หลังจากได้ยินข่าว ก็แวะมาหายาย โดยเพื่อนและตัวเองรวมเงินกัน นำมามอบให้ยาย และแวะมาซื้อข้าวผัดกะเพราด้วย สงสารยาย จึงเป็นน้ำใจเล็กน้อยที่นำมามอบให้

น้ำใจคนไทย 

      ในส่วนของความคืบหน้าของคดี เจ้าหน้าที่ตำรวจชุดสืบสวน สภ.เมืองสุพรรณบุรี ลงพื้นที่สอบปากคำยายและสอบพยานแวดล้อม ตรวจสอบจุดเกิดเหตุกล้องซีซีทีวีเส้นทางที่ผู้ก่อเหตุนำธนบัตรมาซื้อข้าวกล่องจากยายและขับรถหลบหนี เพื่อติดตามมาดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป

ให้เงินป้าเป็นกำลังใจก็มี  

       คดีนี้ถึงแม้จะไม่เกิดเหตุการณ์ร้ายแรง แต่ประชาชนก็อยากให้จับตัวคนผิดมาลงโทษให้ได้โดยไว เพราะสามารถกระทำสิ่งไม่ดีกับผู้สูงอายุและเป็นคนหาเช้ากินค่ำอีกด้วย

เรียบเรียงโดย : thaihitz.com ขอขอบข้อมูลจาก Eak SRonly Suphanburi