advertisement

วิธีการเอาเงินคืน จากการซื้อของออนไลน์ จ่ายเงินแล้วไม่ได้ของทำอย่างไร


advertisement

      ทุกวันนี้การซื้อขายสินค้าผ่านทางออนไลน์ เป็นที่นิยมและผู้คนส่วนใหญ่ต่างก็ใช้บริการกันมากมาย เพราะสะดวกสบาย ไม่ต้องไปเดินหาหน้าร้าน ได้สินค้าตามที่เราต้องการ เพียงแค่กดสั่งและโอนเงินก็รอสินค้าได้ที่บ้าน

       แต่ปัญหาที่พบจากการซื้อขายออนไลน์ก็คือ การโกง บางครั้งเราจ่ายเงินไปแล้ว ทางร้านกลับไม่ส่งของมาให้ หรือบางครั้งก็เป็นมิจฉาชีพที่มาตั้งร้านค้าหลอกๆ ซึ่งวันนี้เราก็มีวิธีการปฏิบัติตัว หากเกิดเหตุการณ์เหล่านี้ขึ้นกับเรา จะต้องทำอย่างไรบ้าง

        1) ปริ้นท์หลักฐานทั้งหมดที่ติดต่อกับร้านค้าที่โกง เพื่อนำไปแจ้งความ ได้แก่ รูปโปรไฟล์ของร้านค้า ทั้งจากทางไลน์ เฟซบุ๊ก หรืออินสตาแกรม ชื่อ ที่อยู่ เบอร์โทรศัพท์ และเลขที่บัญชีของร้านค้า ข้อความในแชทที่พูดคุยกับพ่อค้าแม่ค้า ไม่ว่าจะเป็นการสอบถาม สั่งซื้อ ยืนยันการชำระเงิน ฯลฯ ผ่านทางไลน์ เฟซบุ๊ก หรืออินสตาแกรม และหลักฐานการโอนเงิน

        2) นำหลักฐานทั้งหมดเข้าแจ้งความที่สถานีตำรวจในท้องที่เกิดเหตุ พร้อมระบุกับร้อยเวร ซึ่งทำหน้าที่ในขณะนั้นว่า "มีความประสงค์แจ้งความดำเนินคดีจนถึงที่สุด ไม่ใช่แค่ลงบันทึกประจำวัน" หรือแจ้งที่กองบังคับการปราบปรามการกระทำความผิดเกี่ยวกับอาชญากรรมทางเทคโนโลยี ศูนย์ราชการแจ้งวัฒนะ

        3) ขอหนังสือจากร้อยเวร เพื่อสั่งอายัดบัญชีผู้ขายที่โอนเงินไป ซึ่งธนาคารจะดำเนินการส่งเรื่องไปที่ธนาคารสาขานั้นๆเอง โดยหลังแจ้งความ ร้อยเวรจะดำเนินการตรวจสอบเจ้าของบัญชีว่าเป็นใคร มีการแอบอ้างนำบัตรประจำตัวประชาชนคนอื่นมาสวมรอยหรือไม่ รวมไปถึงการตรวจสอบเลข IP Address จากนั้นจึงออกหมายเรียกเจ้าของบัญชีมาสอบปากคำ และเมื่อกระบวนการสิ้นสุด หากศาลตัดสินว่า ผู้ขาย ฝ่ายที่โกง มีความผิดจริง จะมีคำสั่งให้ธนาคารโอนเงินคืนให้แก่คุณ


advertisement

        หลายคนเลือกที่จะทิ้งเงินไปฟรีๆเพราะไม่อยากเสียเวลาต่อสู้คดี ซึ่งแน่นอนว่า มิจฉาชีพก็อาจจะไปกระทำความผิดกับคนอื่นอีก หากใครโดนโกงก็อย่าลืมทำตามขั้นตอนดังกล่าว เพื่อปกป้องสิทธิ์ของตนเองกันด้วยนะคะ


advertisement

เรียบเรียงโดย : thaihitz.com 


advertisement