advertisement
ต้องบอกเลยว่าในตอนนี้ปัญหาฝุ่น PM 2.5 เริ่มหนักขึ้นเรื่อยๆ ยิ่งในพื้นที่กรุงเทพมหานครและปริมณฑล ที่ต้องเจอกับสภาพอากาศฝุ่น PM 2.5 หนาแน่นในระดับที่มีผลต่อสุขภาพ ฝุ่น PM 2.5 ถ้าหากสูดเข้าลึกถึงทางเดินหายใจและปอด ก่อให้เกิดการระคายเคือง แสบจมูก ไอ จาม มีเสมหะ หอบหืด หัวใจวายเฉียบพลันได้เลยทีเดียว หลายๆ บ้านแก้ปัญหาด้วยเครื่องฟองอากาศ
ล่าสุด ทางด้านผู้ใช้เฟสบุ๊ก Norrarat Pinchutarat ได้โพสต์รีวิวเครื่องกรองอากาศที่คุ้มที่สุด ถูกที่สุด แล้วได้ผลจริง จำเป็นมากในช่วงต้องเจอกับปัญหาฝุ่น PM 2.5 โดยได้โพสต์ระบุว่า…
เครื่องกรองอากาศที่คุ้มที่สุด ถูกที่สุด ประหยัดเงินไว้ซื้ออย่างอื่นดีกว่าครับ เห็นหลายคนแนะนำเครื่องกรองราคา 40,000+ ที่มีอัตรากรอง ~780ลบม/ชม เลยจะแนะนำให้คราฟเองกันครับ
หลักการกรองคือต้องมีลมดูดอากาศผ่านไว้กรอง ดังนั้น คีย์สำคัญคือ ไส้กรอง และพัดลม
1.พัดลม มีใบพัด 6 8 10 12 นิ้ว ยิ่งใหญ่ลมยิ่งแรง ตัวที่คราฟ ใช้ 8นิ้ว แรงลมการกรอง 580ลบม/ชม ตามสเปค ซึ่งเทียบเท่าตัวกลางๆ บนๆ เลยไปลองหาเสปคของยี่ห้อที่คุณต้องการดูและมาค้นแรงลมที่ใกล้เคียงกันเมื่อคราฟเอง คุณจะตกใจว่ามันถูกกว่ากันมากกก หากพื้นที่ใหญ่มาก แนะนำพัดลม 12 นิ้ว แรงลม 1100ลบม/ชม เทียบเคียง 8นิ้ว 2 ตัว
เรื่องเสียงจากเวปผู้ผลิตแจ้งว่าพัดลมมีความดัง 37db จากการใช้ ไม่ดังมาก เหมาะกับการใช้กลางวัน แต่ถ้าจะใช้ตอนนอน ในตลาดจะมีเครื่องกรองรุ่นโคตรจิ๋ว ที่เคลมว่ามีเสียงดัง 20db (mi compact) ต้นทุนพัดลม 600-1200 บาทขึ้นกับ ขนาดใบพัด ซื้อจากช้อปปี้ มีโค้ดลด
2.ไส้กรอง เลือกตามจริตที่ต้องการเลยครับ มีของแท้ และแบบ OEM ส่วนตัวไม่ไว้ใจ OEM เลยว่าจะซื้อของแท้ดีกว่า ภาพดังกล่าวเป็นไส้กรองแท้จากมี่ เลือกไส้กรองที่เป็น Hepa เกรดดีๆหน่อย ส่วนตัวมอง เกรด H13 ต้นทุนไส้กรอง 300(OEM) ไปจนถึง 1700(แท้มี่)
สังเกตว่ารวมต้นทุนทั้งหมดไม่เกิน 3000 บาท แต่ประสิทธิภาพการกรอง ดีเลิศ อัตรากรองแรงกว่าทุกรุ่นที่มีในตลาดถึง 1100ลบม/ชม (บางยี่ห้อ 40,000บาท มีแรงกรอง 780ลบม/ชม เอง แต่คราฟเองนี่ 1100ลบม/ชม ในราคาแค่ 3000)
advertisement
ข้อเสีย :
1.ไม่สวย ต้องมาประกอบ ถ้าต้องการสวยๆ ซื้อแบรนไปเลย แต่แพงนะ ต้องยอมรับ ทำใจ และไส้กรองถ้าไม่สากล เช่น Mi ที่มี oem ขาย คุณต้องซื้อไส้กรองเฉพาะจาก บ ผุ้ผลิตเครื่อง ซึ่งแพงมาก อาจ 3000-5000 ได้เลย
2.เสียง เนื่องจากเสียง 37db จากการใช้ตอนนอน ก้แอบดังอยุ่ อาจจะซื้อของแบรนรุ่นจิ๋วเช่น mi compact(20db) มาใช้ในห้องนอนเงียบๆ ส่วนห้องนั่งเล่น โถงอาคาร คราฟเองโลด คุ้ม แรง กรองเร็ว ถุก
3.ต้องประกอบเอง แหงหละมันเป็นการคราฟเครื่องเอง
advertisement
ข้อดี :
1.ถูก ประหยัด และดี!!!! เก็บเงินส่วนต่างไว้ใช้อย่างอื่นเถอะครับ บางเครื่องหลายหมื่น
2.เลือกไส้ได้ตามใจ เช่น แบรนนั้นเคลม H13 แต่เครื่องตั้ง 40000 >>ก้คราฟเองไปเลยไง ซื้อแต่ไส้กรองเขามา แล้วมาติดพัดลมเอง
3.เลือดขนาดพัดลม แรงลมได้ตามใจ 6 8 10 12 นิ้ว อัตรากรอง สุงสุดที่ 1100ลบม/ชม(12นื้ว)
เราโฟกัสที่เรื่อง “ฝุ่น” เป็นหลักนะครับ เพราะเราซื้อกันเพราะเรื่องนี้ไม่ใช่เหรอครับ ขอให้โชคดี ในยุคที่ต้องช่วยตัวเองครับ
ปล.
1.ภาพแรงเป็นเครื่องคราฟเอง ไม่สวย แต่มีประสิทธิภาพดีเลิศ
2.ภาพที่สองเป็นการวัดผลว่า งานคราฟเรามีประสิทธิภาพไหม ดูตามรุปเลยครับ ลมที่ผ่านการกรองมีค่า PM2.5 ที่ 002
ความคิดเห็นจากชาวเน็ต
advertisement
เปิดทั้งเดือน ค่าไฟ 200 ต่อจุด ห้องนอนปิด 50ตรม เปิดแอร์เกือบทั้งวัน ให้ห้องมี4ตัว ใส่ผ้ากรองอีกชั้น เปลี่ยนผ้ากรองทุก2week มีเซนเซอร์วัดกลางห้อง วัดได้ประมาณ หลักหน่วย-25
คอนเฟริมอีกเสียงว่ามันทำได้จริง ผมใช้ Hepa H13 2 ด้านเอาไปทำ เครื่องแรงดันบวกให้บ้าน เชียงใหม่ ช่วงเดือดๆ โหดมาก แต่ก็เอาอยู่ครับ
advertisement
–
เป็นเครื่องกรองอากาศที่สามารถกรองอากาศได้ดีมากๆ ในงบไม่เกิน 3,000 บาทเลย ดูไว้เป็นไอเดียแล้วลองเอาไปทำตามกันได้เลย ช่วงนี้จำเป็นมากๆ ต้องเจอกับฝุ่น PM 2.5
เรียบเรียงโดย : thaihitz.com ขอขอบคุณข้อมูลจาก Norrarat Pinchutarat
advertisement