advertisement
หลังจากที่รัฐบาลไทย-อินเดีย และสถาบันโพธิคยาวิชชาลัย 980 ประกาศความสำเร็จร่วมกัน ในการอัญเชิญพระบรมสารีริกธาตุ และพระอรหันตธาตุ พระสารีบุตร และ พระโมคคัลลานะ มาประดิษฐานในประเทศไทยเป็นการชั่วคราว ถือเป็นการหมุนวงล้อธรรมครั้งประวัติศาสตร์ และพร้อมร่วมมือกันใช้หลักธรรมนำสันติสุข
อัญเชิญพระบรมสารีริกธาตุ และพระอรหันตธาตุ พระสารีบุตร และ พระโมคคัลลานะ
สถาบันโพธิคยาวิชชาลัย 980 นำโดย นายสุภชัย วีระภุชงค์ เลขาธิการสถาบันฯ จัดงานแถลงข่าวและเสวนา ร่วมกับ เอกอัคราชทูตอินเดีย ประจำประเทศไทย รัฐมนตรีว่าการกระทรวงวัฒนธรรม และผู้ว่าราชการจังหวัดกระบี่
advertisement
นายสุภชัย กล่าวว่า การอัญเชิญพระบรมสารีริกธาตุและพระอรหันตธาตุของพระสารีบุตรและพระโมคคัลลานะ มาประดิษฐานเป็นการชั่วคราวที่ประเทศไทย ระหว่างวันที่ 22 กุมภาพันธ์ ถึง 19 มีนาคม 2567 มาจากความร่วมมือกันเป็นเวลาหนึ่งปีเต็ม ระหว่างสถาบันโพธิคยาฯ กับรัฐบาลอินเดียและรัฐบาลไทย โดยกระทรวงวัฒนธรรม
ความสำเร็จครั้งนี้เกิดจาก พุทธประสงค์ขององค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้า ในการอัญเชิญไปยัง 4 จังหวัดใน 4 ภูมิภาคของประเทศไทย และเป็นครั้งประวัติศาสตร์ที่ไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อนในการอัญเชิญเสด็จพร้อมกันของพระบรมสารีริกธาตุและอรหันตธาตุของอัครสาวก เป็นการหมุนวงล้อประวัติศาสตร์ที่ทุกคนต้องยึดหลักธรรมมาปฏิบัติ
advertisement
advertisement
ขณะที่ นายนาเกซ ซิงห์ เอกอัคราชทูตอินเดีย ประจำประเทศไทย กล่าวว่า ด้วยพระบารมีของพระสัมมาสัมพุทธเจ้าเมตตา ทำให้โครงการครั้งนี้สำเร็จขึ้นมาได้ ซึ่งการอัญเชิญมาประเทศไทยเนื่องจากอินเดียมองว่า เป็นอารยประเทศที่มีควาเจริญรุ่งเรือง เพราะมีการแลกเปลี่ยนวัฒนธรรม รวมทั้งความสัมพันธ์ลึกซึ้งมาอย่างยาวนาน การอัญเชิญมาครั้งนี้เพื่อกระชับความสัมพันธ์ทางการทูต และ เฉลิมพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวเนื่องในโอกาสพระราชพิธีมหามงคลเฉลิมพระชนมพรรษา 6 รอบ 28 กรกฎาคม 2567
นายมาริษ เสงี่ยมพงษ์ รองเลขาธิการสถาบันโพธิคยาวิชชาลัย 980 กล่าวถึงแนวคิดศตวรรษแห่งธรรม หรือ Century Of Asia ของนายกรัฐมนตรีอินเดีย ว่า เป็นแนวทางที่สอดคล้องกับสถาบันโพธิคยาฯ และจะใช้เป็นแกนหลักในการเชื่อมทุกศาสนานำไปสู่สันติสุข
advertisement
นายเสริมศักดิ์ พงษ์พานิช รัฐมนตรีว่าการกระทรวงวัฒนธรรม กล่าวขอบคุรทุกฝ่ายที่ร่วมมือให้กิจกรรมนี้สำเร็จและพร้อมให้การสนับสนุนการทำงานของสถาบันโพธิคยาวิชชาลัย 980 พร้อมสรุปตัวเลขพุทะศาสนิกชนที่เข้ากราบสักการะพระบรมสารีริกธาตุ โดยกรุงเทพมหานคร 2,085,360 คน เชียงใหม่ 511,189 คน อุบลราชธานี 810,374 คน กระบี่ 720,667 รวมทั้งสิ้น 4,127,590 คน
นายสมชาย หาญภักดีปฏิมา ผู้ว่าราชการจังหวัดกระบี่ กล่าวว่า รู้สึกติ้นตันใจ ที่มีการอัญเชิญพระบรมสารีริกธาตุ ประดิษฐานที่จังหวัดกระบี่ ซึ่งเป็นเมืองประวัติศาสตร์ที่ชาวอินเดียเดินทางมาท่องเที่ยวจำนวนมากและยังมีความเกี่ยวข้องเชื่อมโยงกับสถาบันพระมหากษัตริย์ในหลายประการ จากนี้ไปเชื่อว่า ชาวกระบี่และชาวภาคใต้ จะหลอมรวมธรรมะมาสู่การปฏิบัติ และพัฒนาประเทศเพื่อความสงบสุขต่อไป
เรียบเรียงโดย : thaihitz.com
advertisement