advertisement
เป็นอีกหนึ่งนโยบายที่หลายคนรอคอยและเรียกร้องกันเป็นอย่างมาก สำหรับ โครงการเติมเงิน 10,000 บาท ผ่านดิจิทัลวอลเล็ต ล่าสุด (25 ต.ค.66) นายจุลพันธ์ อมรวิวัฒน์ รมช.คลัง ในฐานะประธานกรรมการคณะอนุกรรมการดิจิทัล วอลเล็ต เปิดเผยว่า ที่ประชุมมีความเห็นปรับเงื่อนไขการแจกเงินดิจิทัลวอลเล็ต 10,000 บาท ให้สามารถใช้ได้ภายในอำเภอ จากเดิมแค่รัศมี 4 กิโลเมตร เพราะเห็นว่าเป็นพื้นที่ไม่ใหญ่เกินไป มีร้านค้าเพียงพอ
นายจุลพันธ์ กล่าวว่า ยอมรับว่ายังมีความเห็นแตกต่างในที่ประชุม ที่ไม่สามารถหาข้อสรุปได้ ซึ่งต้องเสนอคณะกรรมการชุดใหญ่ ที่มีนายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี และรมว.คลัง ประชุมตัดสินใจ ในสัปดาห์หน้า เพราะมีมุมมองที่แตกต่าง
“มาตรการนี้มีความคิดเห็นเป็น 2 ส่วน ส่วนหนึ่งตั้งเป้ากระตุ้นเศรษฐกิจ ต้องการให้คนเข้าร่วมจำนวนมาก อีกข้อเสนอก็มีข้อเสนอให้เอาคนรวยออก คณะทำงานก็ต้องพยายามหาคำจำกัดความ”
ทั้งนี้ จะให้คณะกรรมการตัดสินใจรวม 3 ทางเลือก คือ
1.ให้สิทธิ์เฉพาะผู้ยากไร้ราว 15-16 ล้านคน โดยใช้ฐานข้อมูลจากบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ ใช้งบประมาณราว 1.5 แสนล้านบาท
2.ตัดกลุ่มผู้มีเงินเดือนเกิน 25,000 บาท และ/หรือ มีบัญชีเงินฝากเกิน 1 แสนบาทออก เหลือผู้ได้สิทธิ์ 43 ล้านคน ใช้งบประมาณราว 4.3 แสนล้านบาท
3.ตัดกลุ่มผู้มีเงินเดือนเกิน 50,000 บาท และ/หรือ มีบัญชีเงินฝากเกิน 5 แสนบาทออก เหลือผู้ได้สิทธิ์ 49 ล้านคน ใช้งบประมาณราว 4.9 แสนล้านบาท
advertisement
advertisement
“เมื่อมีความเห็นต่าง เป็นหน้าที่คณะกรรมการชุดใหญ่ตัดสินใจ คณะอนุกรรมการ จะไปดูแต่ละกลุ่มครอบคลุมเท่าไหร่ และเสนอคณะกรรมการชุดใหญ่ตัดสินใจรายละเอียด”
สำหรับประเด็นการยืนยันตัวตน เป็นไปตามสิทธิ์ ครอบคลุมทั้ง บุคคลธรรมดา นิติบุคคล กองทุนหมู่บ้าน และวิสาหกิจชุมชน ใช้จ่ายได้ประเภทสินค้าอุปโภคบริโภคเป็นหลัก ส่วนระบบการขึ้นเงินได้ร้านค้าระบบภาษี 3 ประเภท ทั้งร้านค้าในระบบภาษีมูลค่าเพิ่ม เงินได้นิติบุคคล และบุคคธรรมดา
นายจุลพันธ์ กล่าวว่า ยอมรับว่าแนวโน้มน่าจะดีเลย์ในระดับหนึ่งจากเดิมวันที่ 1 ก.พ.2567 แต่มีเวลาเตรียมตัวมากขึ้น ในเรื่องความปลอดภัย กระบวนการทดสอบระบบก็มากขึ้น ส่วนเท่าไหร่ขอพิจารณาก่อน ขณะที่เงินที่ใช้โครงการนี้คาดว่าจะมาจากงบประมาณเป็นหลัก ไม่ใช้เงินจากธนาคารออมสิน
เรียบเรียงโดย : thaihitz.com
advertisement