advertisement
จากกรณี นายภูเมธอายุ 40 ปี ร้องเรียนว่าบ้านหลังหนึ่งในหมู่บ้านเต็มรัก ต.บางคูรัด อ.บางบัวทอง ต่อเติมโรงจอดรถล้ำเข้ามาอยู่บนถนนของหมู่บ้าน จนทำให้เพื่อนบ้านเดือดร้อนนั้น เกิดเสียงวิพากษ์วิจารณ์กันเป็นอย่างมากในโลกโซเชียล
ล่าสุด (6 มิ.ย.66) นายกมล อินประเสริฐ ปลัดอำเภอบางบัวทอง จ.นนทบุรี พร้อมด้วย นายอมร เที่ยงแท้ อายุ 52 ปี ประธานหมู่บ้านเต็มรัก และเจ้าหน้าที่ฝ่ายช่าง เทศบาลเมืองบางคูรัด เดินทางมาที่บ้านหลังหนึ่งภายในหมู่บ้านเต็มรัก ต.บางคูรัด อ.บางบัวทอง ที่ต่อเติมโรงจอดรถล้ำเข้ามาอยู่บนถนนของหมู่บ้าน แต่ไม่พบ นายกอล์ฟ เจ้าของบ้านเนื่องจากเดินทางไปออกรายการโหนกระแส
นายกมล อินประเสริฐ ปลัดอำเภอบางบัวทอง กล่าวว่า เดินทางมาตรวจที่เกิดเหตุและมาสอบถามเจ้าหน้าที่เทศบาลเมืองบางคูรัด และประธานหมู่บ้าน ว่าเรื่องราวเป็นมาอย่างไรหลังจากเป็นข่าวและจะรายงานให้ผู้บังคับบัญชาทราบ ส่วนเรื่องใครผิดใครถูก จะรื้อหรือไม่นั้นให้เป็นเรื่องของเทศบาลและนายกเทศมนตรี เจ้าของพื้นที่เป็นผู้ดำเนินการ แต่ในเบื้องต้นแล้ว เจ้าของบ้านยอมรื้อออกให้แล้ว
ต่อมาเวลา 15.30 น. น.ส.พิมพ์พัชชา หยิมการุณ นายกเทศมนตรีเมืองบางคูรัด อ.บางบัวทอง จ.นนทบุรี พร้อมเจ้าหน้าที่เทศบาลเมืองบางคูรัด ลงพื้นที่หลังได้รับร้องเรียนเรื่องการสร้างโรงจอดรถล้ำมากลางถนนของหมู่บ้าน
จากการตรวจสอบพื้นที่บริเวณซอย 4 พบว่าถนนมีขนาดความกว้างประมาณ 6 เมตร มีบ้านทาวส์เฮ้าส์ฝั่งละ 4 หลัง รวมกัน 2 ฝั่ง 8 หลัง สำหรับบ้านที่เป็นคู่กรณีกันเป็นบ้านหลังท้ายซอยทั้ง 2 หลัง โดยบ้านหลังหนึ่ง สร้างโรงรถล้ำมาบนผิวถนน ขนาดโรงรถมีความกว้างประมาณ 3.5 เมตร ยาวประมาณ 6 เมตร สูงประมาณ 2.5 เมตร
advertisement
น.ส.พิมพ์พัชชา กล่าวว่า เดี๋ยวจะออกหนังสือให้ผู้ที่ถูกร้องเรียนรื้อถอน เพราะว่าเขาไม่ได้รับอนุญาตให้ต่อเติม ผิดกฎหมาย พ.ร.บ.ควบคุมอาคาร ต้องรื้อถอนภายใน 30 วัน แต่เท่าที่ได้คุยกับผู้ถูกร้องเรียน เขามีความประสงค์จะรื้อถอนออกเลยภายในวัน 2 วันนี้ แต่เราจะให้เวลาเขาตามกฎหมายภายใน 30 วัน
advertisement
ซึ่งเทศบาลเข้าตรวจสอบแล้วหลังจากได้รับการร้องเรียนมา มอบหมายให้พนักงานเทศกิจเข้าไปดูพื้นที่และรายงานเข้ามาในไลน์กลุ่ม ก็บอกเขาไปว่าสิ่งที่เขาทำต้องปรับปรุงเพราะมันผิด พ.ร.บ.ควบคุมอาคาร แต่เป็นที่ทราบกันว่าพื้นที่ตรงนั้น ไม่ใช่พื้นที่สาธารณะเป็นพื้นที่ของเอกชน แต่ก็ผิด พ.ร.บ.ควบคุมอาคารก็ต้องรื้อถอน ซึ่งได้รับความร่วมมืออย่างดีหลังจากมีการพูดคุยกันทั้งฝั่งผู้ร้องและผู้ถูกร้อง ซึ่งไม่เคยมีเรื่องอะไรกันมาก่อนมีเรื่องนี้เรื่องเดียว
ส่วนผู้ถูกร้องที่จะไปดำเนินคดีอะไรกัน เห็นว่าจะไปถอนการแจ้งความ จะไม่มีการร้องอะไรกันอีก คือเรื่องแบบนี้เป็นเรื่องของการอยู่ร่วมกันในสังคม และในฐานะเทศบาลเองด้วยความที่เป็นเจ้าพนักงานท้องถิ่น เราก็ต้องทำในสิ่งที่ถูกต้องเพราะบ้านเมืองมีกฎระเบียบอยู่แล้ว
อยากให้ทุกคนเคารพสิทธิซึ่งกันและกัน อยู่ร่วมกันอย่างมีความสุข เกื้อกูลซึ่งกันและกันและช่วยเหลือกัน และหากมีความรู้สึกว่าประเด็นไหนที่ไม่ถูกต้อง หากมีการร้องเรียนมาเทศบาลไม่เคยนิ่งนอนใจ เรายินดีปฏิบัติตามอย่างเรื่องนี้ร้องเรียนมาเราก็ออกไปดูทันที แต่ติดวันหยุดราชการหนังสือให้รื้อถอนจึงจะออกในวันนี้
ด้าน นายภูเมธ ปานจันทร์ อายุ 40 ปี ผู้ร้องเรียนกล่าวว่า หลังจากได้ร้องเรียนและพูดคุยเจรจากันกลับเจ้าของบ้าน ที่สร้างโรงรถบนถนน ก็คุยกันลงตัวแล้วโดยเขาก็จะยอมรื้อโรงจอดรถออก
“ส่วนของบ้านผมนายกเทศมนตรีเขาเคลียร์ให้หมดแล้ว เพราะส่วนที่ต่อเติมมันไม่ได้เกิดจากเจตนาของผมที่มาต่อเติม เพราะผมซื้อมาบ้านก็อยู่ในสภาพนี้อยู่แล้ว ถ้าจะให้ผมรื้อถอนก็โดนกันหมดแถวนี้ ถึงตรงนี้ก็อะลุ่มอล่วยกันไปก่อน แต่ในอนาคตผมบอกว่าตรงนี้จะต่อเติม แต่จะเข้าไปอยู่ในเขตพื้นที่ของผม
advertisement
ส่วนคดีความที่เขาไปแจ้งความไว้เขาบอกจะถอนแจ้งความให้ เพราะผมก็จะไม่ดำเนินคดีกับเขา ไม่ว่าเขาผิดอะไร ผมไม่ดำเนินคดีทั้งสิ้น หรือต่อให้เขาดำเนินคดีผม ถ้าผมชนะคดี ผมก็จะไม่ฟ้องกลับเขาอีก ทั้งนายกเทศมนตรีเมืองบางคูรัด ทั้งพี่หนุ่มเขาก็เคลียร์ให้ทุกอย่างจบกันแล้วด้วยดี” นายภูเมธ กล่าว
นายภูเมธ กล่าวต่อว่า “ก็จะใช้ชีวิตร่วมกันได้อย่างมีความสุขเหมือนเดิม ที่ร้องเพราะทนไม่ได้สร้างโรงรถบนถนนก็แล้วยังเอาต้นไม้มาลงอีก อยากจะทำอะไรคุณก็ทำไม่สนใจคนอื่น มันเป็นพื้นที่ส่วนกลาง จึงต้องทำอะไรสักอย่าง คือการเอาต้นไม้มาตั้งบนถนนตรงนี้มันไม่เหมาะ โรงจอดรถที่สร้างบนถนนก็ไม่ชอบอยู่แล้วแต่พอทนได้ แต่นี่เอาต้นไม้มาลงมาตั้งอีกไม่หยุดเอาที่คุณสบายใจเลยครับ”
นายภูเมธ กล่าวอีกว่า ทีแรกก็ได้สอบถามคุยกับเขาว่าทำไมต้องสร้างหลังคามาอยู่บนถนน เขาก็บอกว่าเอาไว้จอดรถ ซึ่งผมก็ไม่ชอบเพราะว่ามันผิดกฎ ก็ปล่อยให้อยู่ไปก่อน แต่มาแตกหักก็ถอนเอาต้นไม้มาตั้งบนถนนเพิ่มขึ้นอีก และอีกอย่างจะได้เป็นบรรทัดฐานของซอยอื่นๆ ในไลท์หมู่บ้านแจ้งว่าตรงนั้นตรงนู้นตรงนี้ปล่อยปละละเลยกันมานาน
“ส่วนการจอดรถผมก็ต้องใช้รถมอเตอร์ไซค์ ส่วนรถยนต์เอาของพี่สาวมาใช้ ต้องไปจอดตรงนู้นที่อื่น ก็เคยคุยกับเขาแล้วว่าจะฟ้องหรือถอนแต่เขาไม่ทำให้ และหลังจากเขาเอาต้นไม้มาลง 1 วันผมก็คุยกับเขาว่าขอให้รื้อถอนได้ไหม เพราะว่าไม่ไหวแล้ว น้องเขาอาจอยากจะจัดให้สวยงามหน้าบริษัทเขา” นายภูเมธ กล่าว
นายภูเมธ กล่าวว่า “ส่วนบ้านผมที่เจ้าของเก่าเขาต่อเติมล้ำออกมาก็จะรื้อเพื่อเป็นมาตรฐานต่อไป เรื่องนี้ผมจบแล้วด้วยใจจริง ไม่มีอะไรในใจ ทั้งนั้น น้องเขาก็บอกจบจบก็คือจบ มันจะทำให้ซอยบ้านเราน่าอยู่ วันที่เป็นข่าวก็มีแต่เพื่อนบ้านเชียร์เอาเลยๆ แต่พอผมไปพูดออกข่าวสัมภาษณ์หายเกลี้ยงในไลน์ส่วนตัว น้องลุยเลยลุยเลย คือทุกคนอยากให้เป็นระเบียบแต่ไม่มีใครกล้ามีปัญหา ฝากถึงเพื่อนบ้านทุกคนตอนนี้โอกาสมาถึงแล้ว จะได้เคลียร์กันในหมู่บ้านสักครั้งหนึ่ง มันสะสมกันมายาวนาน ได้โอกาสแล้วสานต่อกัน มีแบบนี้เกือบทุกซอยลุกล้ำกัน”
นายสุรศักดิ์ หรือกอล์ฟ อายุ 40 ปี เจ้าของบ้านที่หลังหนึ่งในหมู่บ้านเต็มรัก ที่สร้างโรงจอดรถกลางถนนในหมู่บ้าน กล่าวว่า “จากการที่ได้พูดคุยกันกับทุกฝ่าย ตรงนี้ผมจะรื้อถอนทันทีเลย โดยจะขอความช่วยเหลือกับทางเทศบาลเมืองบางคูรัดให้เจ้าหน้าที่มาช่วยรื้อ
ผมอยากให้เสร็จเร็วที่สุด ผมจะรับผิดชอบสิ่งที่เกิดขึ้นทั้งหมดไม่มีอะไร ได้มีการบอกเขาแล้วว่าสิ่งที่เกิดขึ้นทั้งหมดเป็นความผิดของผมเองคนเดียว ทุกอย่างปกติแล้วไม่มีการทะเลาะกับพี่เขา ผมก็มีงานต้องทำ ผมเหนื่อยนอนไม่หลับเลยส่วนหนึ่งผมก็ขอโทษทุกเรื่องไม่ว่าจะเป็นคำพูดหรือการกระทำใดๆ ผมอยากให้ทุกอย่างเสร็จสิ้นไปได้ด้วยดี”
advertisement
“ผมไม่ได้บอกว่า ผมถูกผมผิดผมพูดตั้งแต่ต้นเลยว่า ไม่สมควรทำไม่ว่าจะเป็นอะไรก็แล้วแต่ เมื่อวันนี้เหตุเกิดไปแล้วผมก็ต้องการที่จะปรับปรุงแก้ไขให้มันดีทุกอย่างตามที่แจ้งไว้ในรายการโหนกระแส ก็อยากให้ทุกอย่างเสร็จเร็วที่สุด ส่วนทางเทศบาลจะส่งเจ้าหน้าที่มาช่วยหรือเมื่อไร ก็แล้วแต่ความกรุณาของนายกเทศมนตรี เพราะผมตัวคนเดียวจะทำไม่ได้รื้อภายในวันสองวัน ก็อาจจะต้องเสียค่าใช้จ่ายอะไรหลายๆอย่าง” นายสุรศักดิ์ กล่าว
นายสุรศักดิ์ กล่าวต่อว่า “ส่วนการจอดรถคงไม่มีปัญหากันเพราะถ้ารถจอดเต็มซอยผมก็คงไม่ได้จอด ต้องไปจอดข้างนอก หรืออาจจะมาเรียกกันช่วยกันขยับรถได้ไหมในแต่ละบ้าน ซึ่งทุกคนก็จะบอกกันได้ ซึ่งผมไม่ได้มีปัญหากับเรื่องนี้ อะไรแก้ได้ก็แก้ไม่ได้บอกให้ทุกคนแก้ ส่วนเรื่องนี้ผมบอกตรงๆไม่สบายใจเรื่องนี้ ผมผิดเมื่อคืนผมก็นอนไม่หลับแล้วไม่คิดจะแก้ต่างอะไรเลย ผมจะรื้อถอนให้ ส่วนต้นไม้ก็จะย้ายไปชิดกำแพงด้านท้ายซอย”
เพราะเรื่องนี้เป็นความผิดของผมเองแต่เพียงผู้เดียว ไม่อยากฝากไปถึงเพื่อนบ้านคนอื่น ด้วยความที่เป็นเด็กวัยรุ่นยังไม่ได้คิดอะไรมากไม่ได้คิดว่าสิ่งที่เราทำไปมันเป็นความผิดแต่เมื่อทำไปแล้วเกิดปัญหาร้องเรียน ก็ยินดีที่จะแก้ไขอะไรทุกอย่าง น้อมรับทุกอย่างที่ผิดไปแล้วผมรับผิดชอบแต่เพียงผู้เดียว และมีอะไรที่ผิดพลาดไปก็มาบอกกันตรงๆ เลย ผมเป็นเด็กมีอะไรผมผิดผมก็ยกมือไหว้ขออภัย นายสุรศักดิ์ กล่าว
เรียบเรียงโดย : thaihitz.com
advertisement