advertisement

ออกมาชี้แจงแล้ว ดราม่าบัณฑิตโพสต์ท่าชาวร็อก ไม่คิดว่าร้านจะเลือกรูปนี้


advertisement

      กลายเป็นประเด็นดราม่าที่กำลังวิพากษ์วิจารณ์กันในโลกโซเชียลตอนนี้ สำหรับ กรณีบัณฑิตป้ายแดงที่เพิ่งได้รับรูปรับปริญญาไม่พอใจ โพสต์วีนร้านถ่ายรูป เหตุทำรูปหมู่พัง ไม่เลือกรูปให้ดี เพื่อนยกมือทำท่าชาวร็อก ทำไมไม่รีทัช แต่ไม่โทษเพื่อนตัวเอง ผู้ใช้เฟซบุ๊กรายนี้ได้โพสต์ข้อความระบุว่า… 

        “ไม่รู้ควรจะโทษที่ใคร แต่คือหัวร้อนแบบสุด ๆ โทษไปที่ร้านถ่ายรูปที่ไม่รีเช็กให้ดี หรือคนทําที่ไม่รู้จัก สำรวม ไม่รู้ว่าคนอื่นขำไหม ส่วนตัวไม่ขำ และมองว่าหลายคนก็ไม่

       ทุกคนที่ไป ต้องเสียเวลา เสียเงิน ลางาน ทิ้งงาน หลายคนก็เสียเงินไปหลายหมื่น ค่าเครื่อง เช่ารถ ที่พัก ค่า ชุด #ปล.ร้านรับผิดชอบโดยการทำไฟล์ให้แล้วไปปริ้นกันเอง ชื่อร้านอยู่ในไฟล์ภาพ สามารถทักไปสอบถามกันเองได้ครับ


advertisement

       ส่วนตัวไม่ได้อยากได้แต่ที่บ้านขอไว้ และไม่คิดว่าจะต้องมาเจอเรื่องแบบนี้ ทั้งที่เขาก็มีรูปดี ๆ กันทุกปี เชื่อว่าหลายคนไม่ได้หวังลางานเพื่อกลับไปเอารูปแบบนี้ ประสบการณ์ที่โครตเฮงซวย และเสียเงิน เสียเวลาแบบสุด ๆ #รับปริญญา #ศรีสะเกษ”


advertisement


advertisement

       โดยในรูปที่โพสต์จะเห็นว่ามีบัณฑิต 2 คน ชูมือแบบชาวร็อก เล่น ๆ ขำ ๆ ซึ่งปกติก็จะไม่นำรูปสไตล์นี้มาเป็นรูปที่แจกตอนรับปริญญา

       เจ้าของโพสต์จึงทักไปสอบถามร้าน ว่าทำไมถึงเลือกรูปนี้ให้ ก่อนทางร้านจะแจ้งว่าเป็นรูปที่หน้าทุกคนดีสุดแล้ว ทำเจ้าของโพสต์เดือดสุด ๆ วีนร้านไปว่า “เลือกมาเรียกว่ารูปที่ดีหรอครับจริง ๆ มองว่า สามารถรีทัชได้นะครับ

       แค่ตัดแขนแล้วใส่เสื้อ แล้วปิดรอยยิ้มแค่นี้ไม่น่ายากเกินความสามารถของช่างภาพที่จะเคลียร์งาน ให้มันดีก่อนส่งลูกค้านะครับ ถ้าการแก้ไขภาพออกมาให้มันดีมันยากจะได้เข้าไปคุยกับทางมหาลัยมหาลัยครับ” 

      ล่าสุด มีบัณฑิต 2 คน โพสต์ท่าชูมือแบบ ‘ชาวร็อก’ ซึ่งเป็นกิริยาไม่สำรวม  ก็ออกมายอมรับและชี้แจงว่า….

        ก่อนอื่น เราคือคนในรูปเอง ตอนถ่าย คือ เราก็ถ่ายกันหลายรูปมากนะ แล้วตอนที่ถ่ายรูปนี้ คือเรายิ้มให้กล้องส่วนตัว แล้วเราก็คิดว่าทางร้านน่าจะไม่เลือกรูปนี้แน่นอน ก็ต้องขอโทษหลาย ๆ คนด้วยครับ แต่นี้ก็รู้สึกว่าอยากมีรูปชาวร็อกเป็นของตัวเอง ซึ่งบอกตรง ๆ คือ เราก็ไม่คิดว่าร้านจะเลือกรูปนี้ แต่รูปที่เรายืนดี ๆ ก็มี ต้องขอโทษคนอื่น ๆ ด้วยนะครับ 

        โดยหลังจากโพสต์ได้ไม่นาน ก็เจอกระแสวิจารณ์จากชาวเน็ตสนั่น จนต้องลบโพสต์ไปเช่นเดียวกัน ซึ่งเรื่องราวจะจบลงอย่างไร คงต้องติดตามกัน 

เรียบเรียงโดย : thaihitz.com 


advertisement