advertisement

ใครดมอยู่เช็กด่วน ยาดมสมุนไพรหากเก็บผิดวิธี อาจซ่อนเชื้อรา อันตรายต่อปอด


advertisement

      วันที่ 1 ตุลาคม 2568 คณะวิทยาศาสตร์ มหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์ (ม.อ.) วิทยาเขตหาดใหญ่ เผยแพร่คลิป Science Facts : “ยาดมสมุนไพรทำให้เชื้อราขึ้นปอดได้จริงหรือไม่?” พร้อมโพสต์ข้อความเตือนประชาชนว่า ยาดมสมุนไพรที่ใช้กันอยู่ทุกวัน อาจกลายเป็นแหล่งสะสมเชื้อราได้หากเก็บรักษาไม่ถูกวิธี

      ผศ.ดร.ลักขณา กัณหะยูวะ วิงก์ฟิลด์ อาจารย์ประจำหลักสูตรจุลชีววิทยา คณะวิทยาศาสตร์ ม.อ. อธิบายว่า หากยาดมถูกเก็บไว้ในที่ชื้น มีการเปิดปิดบ่อย หรือปิดฝาไม่สนิท เชื้อราจากอากาศสามารถปนเปื้อนลงไปได้ และเมื่อมีการสูดดมโดยตรงจากกระปุก ก็จะเพิ่มโอกาสให้เชื้อราเจริญเติบโตมากขึ้น

      ลักษณะที่บ่งชี้ว่ายาดมสมุนไพรเริ่มเสื่อมสภาพ ได้แก่ การปรากฏของคราบสีขาว เส้นใย หรือผงสีดำ รวมถึงกลิ่นที่เปลี่ยนไป เช่น กลิ่นเปรี้ยวหรือกลิ่นบูด หากพบความผิดปกติดังกล่าวควรงดใช้ทันที


advertisement

      เชื้อราที่มักพบในยาดมสมุนไพร ได้แก่ แอสเปอร์จิลลัส (Aspergillus) และ เพนนิซิลเลียม (Penicillium) ซึ่งมีอยู่ทั่วไปในสิ่งแวดล้อม โดยปกติการสูดดมในปริมาณน้อย ร่างกายสามารถกำจัดได้ แต่หากได้รับต่อเนื่องอาจกระตุ้นให้เกิดภูมิแพ้หรือปัญหาทางเดินหายใจ โดยเฉพาะในผู้สูงอายุ ผู้ป่วยโรคหอบหืด ผู้ที่มีปอดเรื้อรัง หรือผู้ที่มีภูมิคุ้มกันต่ำ ซึ่งมีความเสี่ยงติดเชื้อสูงกว่าคนทั่วไป

      ทั้งนี้ ระยะเวลาในการใช้งานขึ้นอยู่กับพฤติกรรมการเปิดปิดและการเก็บรักษา โดยควรตรวจสอบวันหมดอายุที่ระบุบนขวด และหลีกเลี่ยงการใช้ยาดมที่เก็บไว้นานเกินไป


advertisement


advertisement

คลิกเพื่อ >>>ชมคลิป<<<

      เมื่อเปรียบเทียบกับยาดมชนิดน้ำ พบว่ายาดมสมุนไพรมีความเสี่ยงปนเปื้อนมากกว่า เนื่องจากใช้วัตถุดิบจากสมุนไพรอบแห้ง เช่น การบูร พิมเสน หรือรากไม้ ซึ่งดูดซับความชื้นได้ง่าย ขณะที่ยาดมชนิดน้ำมักมีสารเมนทอลหรือแอลกอฮอล์ที่ช่วยยับยั้งเชื้อราได้ในระดับหนึ่ง แต่หากเก็บรักษาไม่ดีหรือเปิดใช้บ่อยครั้ง ก็ยังคงมีโอกาสปนเปื้อนได้เช่นกัน  

เรียบเรียงโดย : thaihitz.com ขอขอบคุณข้อมูลจาก คณะวิทยาศาสตร์ ม.อ. หาดใหญ่  


advertisement