advertisement
ยานเพอร์เซเวียแรนซ์ (Perseverance Rover) เป็นยานสำรวจผิวดาวอังคารขององค์การนาซา (NASA) ที่ถูกส่งขึ้นสู่อวกาศเมื่อวันที่ 30 กรกฎาคม 2020 และเดินทางถึงพื้นผิวดาวอังคารเมื่อ 18 กุมภาพันธ์ 2021 โดยลงจอดบริเวณ แอ่งหลุมเจเซโร (Jezero Crater) พื้นที่ซึ่งนักวิทยาศาสตร์เชื่อว่าเคยมีแม่น้ำและทะเลสาบในอดีต
ยานเพอร์เซเวียแรนซ์ (Perseverance Rover)
จุดประสงค์ของภารกิจ เพอร์เซเวียแรนซ์ถูกออกแบบมาเพื่อการวิจัยทางวิทยาศาสตร์ที่สำคัญหลายด้าน ได้แก่ ค้นหาร่องรอยสิ่งมีชีวิตโบราณ: ตรวจสอบดินและหินว่ามีหลักฐานทางชีวภาพในอดีตหรือไม่ เก็บตัวอย่างหินและดิน เพื่อเก็บไว้ในหลอดพิเศษสำหรับนำกลับมายังโลกในอนาคต ทดสอบเทคโนโลยีใหม่ เช่น เครื่องผลิตออกซิเจนจากบรรยากาศที่มีคาร์บอนไดออกไซด์สูงของดาวอังคาร ช่วยวางรากฐานการสำรวจในอนาคต: ข้อมูลที่ได้จะช่วยให้การเดินทางไปดาวอังคารของมนุษย์มีความเป็นไปได้มากขึ้น
ล่าสุด นาซ่า (NASA) รายงานว่า ยานโรเวอร์เพอร์เซเวียแรนซ์ (Perseverance) ได้เก็บตัวอย่างหินบนดาวอังคารซึ่งแสดงถึงสัญญาณที่เป็นไปได้ของชีวิตโบราณ ตัวอย่างหินนี้ถูกเก็บจากบริเวณที่เคยมีแม่น้ำไหลผ่านในแอ่งหลุมอุกกาบาตเยเซโร (Jezero Crater) ซึ่งเป็นพื้นที่ที่นักวิทยาศาสตร์เชื่อว่าเหมาะสมกับการดำรงอยู่ของสิ่งมีชีวิตในอดีต
advertisement

สัญญาณที่พบในหินนั้นมีลักษณะเป็นลวดลายหรือจุดที่เรียกกันว่า “leopard spots” ซึ่งอาจเกิดจากกระบวนการชีวภาพของสิ่งมีชีวิตจุลินทรีย์ในยุคโบราณ ประกอบกับการวิเคราะห์พบองค์ประกอบของสารอินทรีย์และธาตุต่างๆ ที่เอื้อต่อการดำรงชีวิต เช่น คาร์บอน กำมะถัน ฟอสฟอรัส และเหล็ก
นักวิทยาศาสตร์เน้นว่าแม้จะยังไม่สามารถยืนยันได้แน่ชัดว่าสิ่งเหล่านี้เป็นหลักฐานของชีวิต แต่การค้นพบนี้เป็นข้อมูลที่ชัดเจนและน่าตื่นเต้นที่สุดเท่าที่เคยมีมาในการสำรวจดาวอังคาร และเป็นก้าวสำคัญที่จะช่วยเปิดเผยประวัติศาสตร์ของดาวเคราะห์แดง รวมทั้งช่วยให้เข้าใจว่าสิ่งมีชีวิตเข้ามาเกี่ยวข้องกับดาวอังคารในอดีตได้อย่างไร
advertisement
นอกจากนี้ ยานเพอร์เซเวียแรนซ์ยังคงทำหน้าที่เก็บและวิเคราะห์ตัวอย่างต่างๆ เพื่อค้นหาคำตอบในเรื่องชีวิตโบราณบนดาวอังคารต่อไป
นี่คือไทม์ไลน์สำคัญของการส่งยานสำรวจไปยังดาวอังคารและการค้นพบก่อนหน้านี้:
– ปลายคริสต์ศตวรรษที่ 20: เริ่มมีการส่งยานอวกาศไปสำรวจดาวอังคาร โดยสหภาพโซเวียตทำการส่งยาน Mars 1962B และยานอื่นๆ แต่ส่วนใหญ่ล้มเหลว
– 14-15 ก.ค. 1965: ยานมาริเนอร์ 4 (Mariner 4) ของนาซ่าเป็นยานแรกที่ส่งข้อมูลภาพผ่านการโคจรผ่านดาวอังคารสำเร็จ
– 1971: ยาน Mars 2 และ Mars 3 ของโซเวียตเป็นยานแรกที่พยายามลงจอดบนดาวอังคาร แต่ Mars 3 ทำงานได้แค่ 20 วินาที
– 1975-76: โครงการไวกิงของนาซ่าส่งยานไวกิง 1 และ 2 ลงจอดและถ่ายภาพพื้นผิวดาว พร้อมส่งข้อมูลสำคัญด้านภูมิประเทศไปยังโลก
– 2012: ยานคิวริออซิตี (Curiosity) ลงจอดบนดาวอังคารเพื่อสำรวจสภาพแวดล้อมและตรวจสอบความเป็นไปได้ในการดำรงชีวิต
– 30 ก.ค. 2020: ยานโรเวอร์เพอร์เซเวียแรนซ์ (Perseverance) ถูกส่งขึ้นสู่อวกาศ โดยมีเป้าหมายค้นหาร่องรอยสิ่งมีชีวิตโบราณและเก็บตัวอย่างหิน-ดินเพื่อส่งกลับมายังโลก
– 18 ก.พ. 2021: ยาน Perseverance ลงจอดบนบริเวณแอ่ง Jezero Crater ที่เคยเป็นทะเลสาบเมื่อหลายพันล้านปีก่อน และเริ่มปฏิบัติภารกิจสำรวจ
– กันยายน 2025: NASA ประกาศการค้นพบ "biosignature" หรือสัญลักษณ์ชีวภาพในตัวอย่างหินที่ยาน Perseverance ส่งกลับมา ซึ่งอาจเป็นหลักฐานที่ชัดเจนที่สุดของสิ่งมีชีวิตโบราณบนดาวอังคาร
ในภาพรวม การสำรวจดาวอังคารผ่านมาหลายทศวรรษ โดยมีความก้าวหน้าทั้งด้านการเก็บข้อมูลพื้นผิว การตรวจสอบองค์ประกอบหิน และล่าสุดคือการค้นหาสัญญาณของชีวิตโบราณบนดาวอังคารจริงๆ
advertisement

ขั้นตอนการวางแผนและส่งยานไปดาวอังคาร มีดังนี้:
1. การวางแผนเส้นทางและเวลาส่ง (Launch window)
– จะต้องเลือกช่วงเวลาที่เหมาะสมในการส่งยาน ที่เรียกว่า "Launch window" ซึ่งเกิดทุกประมาณ 26 เดือน โดยช่วงนี้คือกรอบที่ใช้พลังงานเดินทางน้อยที่สุดจากโลกไปดาวอังคาร
– การเดินทางใช้เส้นทางวงโคจรโฮมันน์ (Hohmann transfer orbit) เป็นเส้นทางที่ประหยัดพลังงานที่สุด
2. การออกแบบและเตรียมยานอวกาศ
– วิเคราะห์ภารกิจ วางแผนระบบขับเคลื่อน เช่น ใช้ระบบขับเคลื่อนเชื้อเพลิงเคมีสำหรับภารกิจแรก หรืออาจใช้ระบบขับเคลื่อนนิวเคลียร์ในอนาคต
– เตรียมอุปกรณ์และเครื่องมือสำหรับสำรวจ เช่น โรเวอร์หรือแลนเดอร์ พร้อมกับเครื่องวัดและตัวเก็บตัวอย่าง
3. การส่งยานสู่ดาวอังคาร
– ยานอวกาศถูกส่งขึ้นจากโลก และใช้เวลาประมาณ 6-9 เดือนเพื่อเดินทางถึงดาวอังคาร ขึ้นอยู่กับ Launch window และเส้นทางที่เลือก
– ยานจะเข้าสู่ชั้นบรรยากาศของดาวอังคารโดยใช้เทคนิค Aerobraking เพื่อลดความเร็วและเข้าสู่วงโคจรรอบดาวได้อย่างปลอดภัย
4. การลงจอดและปฏิบัติภารกิจ
– ยานแลนเดอร์หรือโรเวอร์จะลงจอดบนพื้นผิวดาวอังคารเพื่อเริ่มปฏิบัติภารกิจ เช่น การเก็บตัวอย่าง ตรวจสอบองค์ประกอบธรณีวิทยา และค้นหาสัญญาณชีวภาพ
– ตัวอย่างบางส่วนจะถูกเก็บไว้เพื่อส่งกลับมายังโลกในอนาคต
5. การส่งตัวอย่างกลับสู่โลก (ภารกิจตัวอย่างกลับ)
– มีการวางแผนภารกิจ Mars Sample Return ร่วมกับนาซ่าและอีซา เพื่อส่งตัวอย่างดินและหินจากดาวอังคารกลับมายังโลก เพื่อศึกษาวิเคราะห์อย่างละเอียด
โดยรวมแล้ว การส่งยานไปดาวอังคารเป็นกระบวนการที่ละเอียดซับซ้อน ต้องการการวางแผนทั้งในเชิงวิทยาศาสตร์และวิศวกรรมอย่างแม่นยำ รวมถึงเวลาที่เหมาะสมเพื่อประหยัดพลังงานและเพิ่มโอกาสภารกิจประสบความสำเร็จ[1][2][3][4]ขั้นตอนการวางแผนและส่งยานไปดาวอังคาร มีดังนี้:
1. เลือกช่วงเวลาส่งยาน (Launch Window) ที่ใช้พลังงานน้อยที่สุด ซึ่งเกิดขึ้นทุก 26 เดือน เพื่อส่งยานในเส้นทางโฮมันน์ (Hohmann transfer orbit) ซึ่งประหยัดพลังงานที่สุด
2. ออกแบบและเตรียมยานอวกาศ รวมทั้งระบบขับเคลื่อน เช่น ระบบเชื้อเพลิงเคมี หรืออาจใช้ระบบนิวเคลียร์ในอนาคต พร้อมเครื่องมือสำรวจและเก็บตัวอย่าง
3. ส่งยานจากโลก ใช้เวลาประมาณ 6-9 เดือน เดินทางถึงดาวอังคาร และเข้าสู่วงโคจรด้วยวิธี Aerobraking เพื่อชะลอความเร็วโดยอาศัยแรงเสียดทานชั้นบรรยากาศดาวอังคาร
4. ลงจอดบนพื้นผิวดาวอังคารโดยยานแลนเดอร์หรือโรเวอร์ เพื่อเริ่มปฏิบัติภารกิจเก็บตัวอย่างและสำรวจสภาพแวดล้อม
5. วางแผนส่งตัวอย่างตัวอย่างดินและหินจากดาวอังคารกลับมายังโลกในภารกิจ Mars Sample Return เพื่อศึกษาวิเคราะห์อย่างละเอียด
advertisement

โดยกระบวนการนี้ต้องใช้การประสานงานทางวิทยาศาสตร์และวิศวกรรมอย่างละเอียด พร้อมการเลือกเวลาที่เหมาะสมเพื่อเพิ่มโอกาสภารกิจประสบความสำเร็จ
เรียบเรียงโดย : thaihitz.com
advertisement