advertisement

ด่วน ศธ.ประกาศปิดโรงเรียน 641 แห่ง ในพื้นที่ 5 จังหวัดชายแดน เพื่อความปลอดภัยของครู นักเรียน


advertisement

       จากสถานการณ์ความตึงเครียดปะทะบริเวณชายแดนไทย–กัมพูชาที่เกิดขึ้นต่อเนื่อง ส่งผลให้หน่วยงานด้านความมั่นคงสั่งอพยพประชาชนออกจากพื้นที่เสี่ยง รวมถึงสถานศึกษาที่อยู่ในเขตได้รับผลกระทบใน 5 จังหวัด ได้แก่ สุรินทร์ ศรีสะเกษ อุบลราชธานี บุรีรัมย์ และสระแก้ว

       ล่าสุด ทางด้าน ศ.ดร.นฤมล ภิญโญสินวัฒน์ รมว.ศึกษาธิการ ระบุว่า ได้สั่งการให้สำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน (สพฐ.) ประสานไปยังเขตพื้นที่การศึกษาในทั้ง 5 จังหวัด เพื่อปิดการเรียนการสอนชั่วคราวทันที จนกว่าสถานการณ์จะปลอดภัย โดยขณะนี้มีโรงเรียนที่จำเป็นต้องปิดรวมทั้งสิ้น 641 แห่ง เพื่อความปลอดภัยของครู นักเรียน และบุคลากรทางการศึกษา

       รมว.ศึกษาธิการย้ำว่า กระทรวงกำลังติดตามสถานการณ์อย่างใกล้ชิด พร้อมเตรียมแผนรองรับหากต้องขยายระยะเวลาปิดเรียน รวมถึงการปรับรูปแบบการเรียนการสอนเป็นออนไลน์ในบางพื้นที่ โดยเน้นให้สถานศึกษายึดความปลอดภัยของเด็กและครูเป็นสำคัญ หากสถานการณ์คลี่คลายจะรีบกลับมาเปิดเรียนตามปกติโดยเร็วที่สุด

       สรุปจำนวนโรงเรียนที่ปิดการเรียนการสอนในแต่ละจังหวัด

       จังหวัดสุรินทร์ ปิด 145 แห่ง
       – สพป.สุรินทร์ เขต 3 จำนวน 123 แห่ง
       – สพป.สุรินทร์ เขต 2 จำนวน 22 แห่ง

       จังหวัดศรีสะเกษ ปิด 170 แห่ง
       – สพป.ศรีสะเกษ เขต 4 จำนวน 159 แห่ง
       – สพป.ศรีสะเกษ เขต 5 จำนวน 11 แห่ง

       จังหวัดอุบลราชธานี ปิด 54 แห่ง
       – สพป.อุบลราชธานี เขต 5 จำนวน 50 แห่ง
       – โรงเรียนในอำเภอพื้นที่รอยต่ออีก 4 แห่ง


advertisement


advertisement

       จังหวัดบุรีรัมย์ ปิด 127 แห่ง
       – สพป.บุรีรัมย์ เขต 2 จำนวน 65 แห่ง
       – สพป.บุรีรัมย์ เขต 3 จำนวน 53 แห่ง
       – โรงเรียนในสังกัด สพม.บุรีรัมย์ เพิ่มเติมอีก 9 แห่ง

       จังหวัดสระแก้ว ปิด 147 แห่ง
       – สพป.สระแก้ว เขต 1 จำนวน 23 แห่ง
       – สพป.สระแก้ว เขต 2 จำนวน 117 แห่ง
       – โรงเรียนสังกัด สพม.สระแก้ว อีก 7 แห่ง


advertisement

       การสั่งปิดโรงเรียนกว่า 600 แห่งครั้งนี้ เป็นมาตรการเร่งด่วนเพื่อความปลอดภัยสูงสุดของนักเรียน ครู และประชาชนในพื้นที่ชายแดนไทย–กัมพูชา แม้จะกระทบต่อการเรียนการสอน แต่ทุกหน่วยงานย้ำชัดว่าความปลอดภัยต้องมาก่อน และพร้อมปรับรูปแบบการเรียนหรือเปิดเรียนทันทีเมื่อสถานการณ์กลับสู่ภาวะปกติ  

เรียบเรียงโดย : thaihitz.com  


advertisement