advertisement
เป็นผลงานวิจัยที่น่าสนใจเป็นอย่างมาก สำหรับ ผลการวิจัยของ Amerisleep บริษัทผลิตที่นอนและเครื่องนอน เผยว่า การไม่ซักอุปกรณ์เครื่องนอนสามารถทำให้เกิดการปนเปื้อนได้มากเพียงใด สามารถสะสมแบคทีเรียได้มากเท่า ฝารองนั่งชักโครก ชามใส่อาหารสำหรับสัตว์เลี้ยง และแปรงสีฟัน ยิ่งไม่ซักเครื่องนอนนานเท่าไหร่ แบคทีเรียก็จะยิ่งเติบโตมากขึ้นเท่านั้น
ทางบริษัทได้ทำการทดสอบโดยให้อาสาสมัคร 3 คน ไม่ซักปลอกหมอนและผ้าปูเป็นเวลา 4 สัปดาห์ โดยจะเก็บตัวอย่างทุกสัปดาห์ และนำไปวิเคราะห์ในห้องแล็บเพื่อวัดระดับแบคทีเรีย ผลการทดลองนั้นน่าทึ่งมาก
ในเวลาเพียงสัปดาห์เดียว ปลอกหมอนมีแบคทีเรียเฉลี่ย 3 ล้านหน่วยสร้างโคโลนี (CFU) ต่อตารางนิ้ว ซึ่งเท่ากับแบคทีเรียมากกว่าที่นั่งชักโครกถึง 17,000 เท่า ส่วนผ้าปูที่นอนก็มีแบคทีเรียอยู่ประมาณ 5 ล้านหน่วยสร้างโคโลนี ซึ่งมากกว่าลูกบิดประตูห้องน้ำประมาณ 25,000 เท่า
เชื้อโรคเหล่านี้เป็นอันตรายแค่ไหน? แบคทีเรียบางชนิดอาจก่อให้เกิดความเสี่ยงต่อสุขภาพ ในขณะที่บางชนิดไม่เป็นอันตราย การศึกษาระบุแบคทีเรียทั่วไป 4 ประเภทที่พบบนผ้าปูที่นอนที่ไม่ได้ซัก ส่วนบางชนิดตามข้อมูลของศูนย์ควบคุมและป้องกันโรคระบุว่า สามารถนำไปสู่การติดเชื้อและการดื้อยาได้
advertisement
แบคทีเรียบาซิลลัสซึ่งพบในการศึกษานี้เช่นกัน เป็นแบคทีเรียประเภทหนึ่งที่อาจส่งผลให้เกิดอาหารเป็นพิษได้ ในความเป็นจริง แบคทีเรียบางชนิดมีความสำคัญต่อการดำรงชีวิตของเรา
อย่างไรก็ตาม การลดการสัมผัสกับแบคทีเรียที่อาจเป็นอันตรายถือเป็นแนวทางที่ดี โดยเฉพาะอย่างยิ่งเกี่ยวกับสภาพแวดล้อมในการนอนหลับของคุณ
advertisement
–
advertisement
ทางบริษัทได้ให้คำแนะนำว่า ควรซักผ้าปูที่นอนและปลอกหมอนสัปดาห์ละครั้ง เพื่อป้องกันการสะสมของแบคทีเรียที่เป็นอันตราย อีกทั้งยังช่วยรักษาสุขอนามัยและลดความเสี่ยงต่อปัญหาสุขภาพอีกด้วย รวมถึงการซักปลอกหมอนเป็นประจำ ช่วยให้สภาพแวดล้อมในการนอนหลับดีขึ้นอีกเช่นกัน
เรียบเรียงโดย : thaihitz.com
advertisement