advertisement

เฮก็ได้ กกพ.ปรับลดค่าไฟ เดือน ม.ค.–เม.ย.เหลือ 3.88 จาก 3.94 บาทต่อหน่วย


advertisement

     วันที่ 1 ธันวาคม 2568 ดร.พูลพัฒน์ ลีสมบัติไพบูลย์ เลขาธิการสำนักงานคณะกรรมการกำกับกิจการพลังงาน (สำนักงาน กกพ.) และโฆษก กกพ. เปิดเผยผลการประชุมครั้งที่ 44/2568 (ครั้งที่ 986) เมื่อวันที่ 26 พฤศจิกายน 2568 ว่า กกพ. ได้พิจารณาข้อเสนอการปรับค่าไฟฟ้าตามสูตรค่าไฟฟ้าผันแปรอัตโนมัติ (Ft) สำหรับงวด เดือนมกราคม – เมษายน 2569 ตามที่การไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย (กฟผ.) เสนอ

     เดิม กฟผ. ขอให้ปรับอัตราค่าไฟเป็น 3.94 บาทต่อหน่วย เพื่อคืนภาระต้นทุนคงค้าง (ค่า AF) จำนวน 6,141 ล้านบาท แต่ระหว่างการเปิดรับฟังความคิดเห็นของประชาชน บริษัท ปตท. จำกัด (มหาชน) ได้ปรับประมาณการแนวโน้มราคาก๊าซธรรมชาติลดลง ส่งผลให้ กฟผ. นำเสนออัตราค่าไฟใหม่เป็น 3.88 บาทต่อหน่วย เพื่อสอดคล้องกับนโยบายรัฐบาลในการบรรเทาค่าครองชีพประชาชน

     ดร.พูลพัฒน์ ระบุว่า กกพ. อาศัยอำนาจตามมาตรา 67 แห่ง พ.ร.บ.การประกอบกิจการพลังงาน พ.ศ. 2550 ซึ่งกำหนดให้ผู้รับใบอนุญาตเสนออัตราค่าบริการให้ กกพ. พิจารณา จึงได้พิจารณาตามข้อเสนอใหม่ของ กฟผ. โดยค่า Ft ที่คำนวณจากราคาก๊าซธรรมชาติล่าสุดของ ปตท. พบว่าราคา LNG ลดลงจาก 12.5 ดอลลาร์สหรัฐ/ล้านบีทียู เหลือ 11.6 ดอลลาร์สหรัฐ/ล้านบีทียู ส่งผลให้ค่า Ft งวด ม.ค.–เม.ย. 2569 ปรับลดจาก 15.72 สตางค์/หน่วย เหลือเพียง 9.72 สตางค์/หน่วย ไม่รวมภาษีมูลค่าเพิ่ม


advertisement

     เลขาธิการ กกพ. กล่าวเพิ่มเติมว่า การพิจารณาดังกล่าวยึดหลักกฎหมาย ข้อมูลเชิงวิชาการ และวินัยทางการเงินควบคู่กัน โดยใช้ข้อมูลต้นทุนเชื้อเพลิงล่าสุดจาก กฟผ. และ ปตท. รวมถึงข้อเสนอการปรับลดภาระ AF ตามหนังสือของ กฟผ. ลงวันที่ 25 พฤศจิกายน 2568 เพื่อให้การกำกับดูแลคงไว้ซึ่งความสมดุลระหว่างความมั่นคงด้านพลังงานและภาระค่าใช้จ่ายของประชาชน


advertisement


advertisement

     กกพ. ยืนยันว่าจะติดตามสถานการณ์ราคาเชื้อเพลิงและภาระต้นทุนคงค้างของ กฟผ. อย่างใกล้ชิด เพื่อให้การกำหนดอัตราค่าไฟเป็นไปอย่างเหมาะสมและยั่งยืนต่อไป

เรียบเรียงโดย : thaihitz.com 


advertisement