advertisement
วันที่ 30 ตุลาคม 2568 ที่ทำเนียบรัฐบาล นายบวรศักดิ์ อุวรรณโณ รองนายกรัฐมนตรีฝ่ายกฎหมาย ให้สัมภาษณ์ถึงความคืบหน้า หลังจากที่นายอนุทิน ชาญวีรกูล นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย มอบหมายให้ศึกษาความเป็นไปได้ในการ “ขยายอายุเกษียณข้าราชการเกิน 60 ปี” โดยเบื้องต้นจะเชิญคณะกรรมการข้าราชการพลเรือน (ก.พ.) เข้าหารือร่วมกับนายกรัฐมนตรี เพื่อพิจารณาแนวทางที่เหมาะสม
	 
ปัจจุบัน มีหลายหน่วยงานของรัฐที่มีอายุเกษียณมากกว่า 60 ปีแล้ว เช่น ผู้พิพากษาและอัยการที่เกษียณเมื่ออายุ 70 ปี รวมถึงข้าราชการในสถาบันอุดมศึกษาที่เกษียณเมื่ออายุ 65 ปี อย่างไรก็ตาม หากจะขยายการเกษียณมายังข้าราชการพลเรือนซึ่งมีจำนวนหลายแสนคน ก.พ. ได้ร่วมกับกรมบัญชีกลางทำการศึกษาเบื้องต้น โดยพบว่าค่าเฉลี่ยอายุของคนไทยอยู่ที่ราว 70 ปี อัตราการเกิดน้อยกว่าการเสียชีวิต ทำให้แรงงานในระบบลดลง ขณะเดียวกัน ผู้เกษียณอายุราชการจะมีช่วงรับบำนาญยาวเฉลี่ยถึง 20 ปี ซึ่งส่งผลต่อทั้งงบประมาณและโครงสร้างประชากรในระยะยาว
	 
นายบวรศักดิ์ กล่าวเพิ่มเติมว่า ก.พ. ได้เสนอแนวทางเบื้องต้นให้ “ทยอยปรับอายุเกษียณในช่วง 10 ปี” เพื่อให้ระบบสามารถปรับตัวได้ ไม่เกิดผลกระทบทันที พร้อมย้ำว่า การขยายอายุเกษียณมีผลต่อหลายด้าน ทั้งระบบตำแหน่งและความก้าวหน้าในอาชีพของข้าราชการรุ่นใหม่
advertisement
 
อีกทั้งกรมบัญชีกลางได้เสนอให้ใช้ “ฐานเงินเดือนสุดท้ายเมื่ออายุ 60 ปี” เป็นเกณฑ์คำนวณบำนาญ เพื่อป้องกันภาระงบประมาณเกินตัว
	 
รัฐบาลอยู่ระหว่างการศึกษาความเป็นไปได้ในการขยายอายุเกษียณข้าราชการเกิน 60 ปี โดยเน้นให้ค่อยเป็นค่อยไป เพื่อไม่ให้กระทบต่อระบบราชการ งบประมาณ และความเป็นธรรมระหว่างรุ่น ทั้งนี้ แนวคิดดังกล่าวมุ่งตอบโจทย์โครงสร้างประชากรสูงวัยของประเทศ ที่มีแรงงานลดลงและอายุขัยยืนยาวขึ้นในอนาคต
advertisement
เรียบเรียงโดย : thaihitz.com
advertisement

