มืดฟ้ามัวดิน คลื่นมหาชนรอรับครูบาบุญชุ่ม หลังอยู่ในถ้ำครบ 3 ปี 3 เดือน 3 วัน

       วันนี้ (31 กรกฎาคม 2565) จะครบกำหนดวันที่พระครูบาบุญชุ่ม ญาณสํวโร อรญฺญวาสีภิกขุ พระเกจิดังแห่งล้านนา จะออกจากถ้ำหลวงเมืองแก๊ด ที่สาธารณรัฐแห่งสหภาพเมียนมา หลังจากอยู่ในถ้ำครบ 3 ปี 3 เดือน 3 วัน นับตั้งแต่วันที่ 29 เมษายน 2562 ที่ผ่านมา โดยกำหนดการออกจากถ้ำของพระครูบาบุญชุ่ม

       เมื่ออกจากถ้ำแล้ว จะมีราชรถไปรับเพื่อปลงผมที่เกาะน้ำรู โดยสร้างหอกุฏิที่พักไว้ และจะไปฉันภัตตาหารที่กุฏิมุงคาริมน้ำสิ่ม 5 โมง จะไปที่ถ้ำเล็ก หอ 7 ชั้น ผู้ที่จะไปรับในถ้ำหลวง ประกอบด้วย พระสงฆ์ 23 รูป คฤหัสถ์ลูกศิษย์ชาย 38 คน ลูกศิษย์หมวกทองคำให้มาเวลา 07.00 น. ลากรถหอคำให้ห่างกัน 1 วา หญิงลากซ้าย ชายลากข้างขวา พระสงฆ์นำหน้า จะอยู่ตรงจุดนี้ 5 วัน จากนั้นจะเดินทางไปจำพรรษาที่เมืองพง  

ราชรถไปรับเพื่อปลงผมที่เกาะน้ำรู 

        สำหรับ บรรยากาศคลื่นมหาชนต่างมุ่งหน้าไปรอรับครูบาบุญชุ่ม อาทิ เพจกลุ่มรักเชียงตุง ได้เผยแพร่ภาพบรรยากาศบริเวณหน้าถ้ำหลวง โดยพบว่ามีลูกศิษย์ลูกหาของครูบาบุญชุ่ม ซึ่งส่วนใหญ่จะเป็นชาวชาติพันธุ์ไทยใหญ่ เดินทางไปเพื่อรอรับครูบาบุญชุ่มกันอย่างเนืองแน่น โดยบางคนไปปักหลักรอก่อนหน้านี้กว่า 1 สัปดาห์ เพราะเกรงจะไม่มีที่พักและสถานที่รอรับ  

คลื่นมหาชนต่างมุ่งหน้าไปรอรับครูบาบุญชุ่ม 

 

เยอะมาก 

      พระครูบาบุญชุ่ม ปัจจุบันอายุ 57 ปี เกิดเมื่อวันอังคารที่ 5 มกราคม พ.ศ. 2508 ที่หมู่บ้านแม่คำหนองบัว ต.แม่คำ อ.แม่จัน จ.เชียงราย บิดาชื่อ นายคำหล้าและมารดาชื่อนางแสงหล้า ทาแกง ขณะอายุ 11 ขวบ ได้ศึกษาพระปริยัติธรรมจนสอบได้นักธรรมชั้นตรีในปี พ.ศ. 2526 ต่อมาได้เข้าอุปสมบทเป็นพระภิกษุเมื่อวันที่ 9 พฤษภาคม พ.ศ. 2529 ที่อุโบสถวัดพระเจ้าเก้าตื้อ โดยมีพระราชพรหมาจารย์ (ดวงคำ ธมฺมทินฺโน) เจ้าคณะจังหวัดเชียงใหม่ เป็นพระอุปัชฌาย์ พระครูเวฬุวันพิทักษ์เป็นพระอนุสาวนาจารย์ และพระครูศรีปริยัตินุรักษ์เป็นพระกรรมวาจาจารย์ 

รอกันข้ามคืนข้ามวัน 

      นับแต่ออกบวช พระครูบาบุญชุ่มมุ่งเน้นเรียนกรรมฐานจากครูบาอาจารย์หลายองค์ ได้จาริกไปหลายท้องที่ทั้งประเทศไทย พม่า เนปาล อินเดีย ภูฏาน เป็นต้น โดยเป็นที่เลื่อมใสของพุทธศานิกชนทั่วไปจนได้รับการขนานนามว่า พระเกจิแห่งล้านนา 

       เรียกได้ว่ามืดฟ้ามัวดินกันเลยทีเดียว สำหรับคลื่นมหาชนต่างมุ่งหน้าไปรอรับครูบาบุญชุ่มในครั้งนี้ ด้วยบารมีของครูบาบุญชุ่ม 

เรียบเรียงโดย : thaihitz.com