advertisement
จากกรณี นโยบายรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข เรื่องการลดความแออัด ลดระยะเวลาการรอคอยรับยาของผู้ป่วยที่สถานพยาบาล ด้วยการให้ไปรับยาที่ร้านขายยาแผนปัจจุบันประเภท 1 (ขย.1)
จากการประชุมคณะกรรมการหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ (บอร์ด สปสช.) ครั้งที่ 9/2562 มีมติเห็นชอบโครงการดังกล่าว ต่อมากระทรวงสาธารณสุข (สธ.) ได้ร่วมกับสำนักงานหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ (สปสช.) สภาเภสัชกรรม และสมาคมเภสัชกรรมชุมชน (ประเทศไทย) เริ่มดำเนินโครงการลดความแออัดของหน่วยบริการในระบบหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ หรือบัตรทอง เพื่อลดความแออัดของโรงพยาบาล และอำนวยความสะดวกให้แก่ผู้ใช้สิทธิบัตรทอง ไปรับยาที่ร้านขายยาใกล้บ้านอย่างปลอดภัย และให้ผู้ป่วยได้รับการดูแลอย่างต่อเนื่อง ตั้งแต่วันที่ 1 ตุลาคมนี้ เป็นต้นไป
นพ.ประพนธ์ ตั้งศรีเกียรติกุล รองปลัด สธ. กล่าวว่า จากประสบการณ์เรื่องปัญหาความแออัดของโรงพยาบาล ยอมรับว่าโรงพยาบาลขนาดใหญ่เกิดความคุ้นชิน แต่ต้องคิดว่า นั่นเป็นปัญหาสาธารณสุขที่ควรได้รับการแก้ไข เพื่อไม่ให้เกิดเป็นความคุ้นเคย
นพ.ประพนธ์ กล่าวอีกว่า เบื้องต้นจะให้ผู้ป่วยโรคเบาหวาน ความดันโลหิตสูง หอบหืด และจิตเวช หรือโรคเรื้อรังที่ไม่มีความซับซ้อนในการดูแล รับบริการที่ร้านขายยาใกล้บ้านและใกล้ที่ทำงาน
advertisement
ทั้งนี้ มีโรงพยาบาลบางแห่งที่ทดลองโครงการนี้ พบว่าช่วยลดจำนวนผู้ป่วยนอกและผู้ป่วยในได้จริง และจากผลการศึกษามีข้อมูลพบว่า ประชากรที่เจ็บป่วยไม่ต้องนอนโรงพยาบาลมีการดูแลตนเองโดยซื้อยาแผนปัจจุบันมารักษาตนเอง โดยไม่ต้องไปสถานบริการทางการแพทย์ร้อยละ 27.2 หรือประมาณ 3.3 ล้านคน รวมถึงในกลุ่มผู้ป่วยนอก ส่วนใหญ่อาจไม่จำเป็นต้องเดินทางไปโรงพยาบาลใหญ่ และสามารถเข้ารับการรักษาที่โรงพยาบาลชุมชนได้
ขณะนี้ร้านขายยาที่ร่วมเป็นเครือข่ายบริการกว่า 500 แห่งทั่วประเทศ มีความพร้อมจ่ายยาให้กับผู้ป่วยในวันที่ 1 ตุลาคมนี้ และคาดหวังในอนาคตจะเห็นแพทย์ทำงานอย่างมีความสุขมากขึ้น และมีภาระงานที่เหมาะสม
advertisement
เรียบเรียงโดย : thaihitz.com
advertisement